5 เทรนด์ธุรกิจ EV ที่เอสเอ็มอีไทยห้ามพลาด!

SME D Bank แย้มโผ 5 เทรนด์ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโต แนะให้เอสเอ็มอีที่มีองค์ความรู้รีบคว้าโอกาสทอง โดยพร้อมเป็น “แหล่งทุน” ให้ต่อยอดธุรกิจผ่าน “สินเชื่อ SME Green Productivity” อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 3% ต่อปี คงที่ตลอด 3 ปีแรก ผ่อนนานสูงสุด 10 ปี เพื่อสานฝันผู้ประกอบการและยกระดับธุรกิจให้มุ่งสู่ความยั่งยืน

SME D Bank ได้ออกบทความ “เปิด 5 เทรนด์ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้ากับโอกาสทองที่เอสเอ็มอีไทยต้องรีบคว้า” ที่วิเคราะห์เจาะลึกธุรกิจทั้ง 5 ว่าทำไมถึงน่าลงทุน ตามเนื้อหาต่อไปนี้...

รถไฟฟ้ากำลังมา!

เพราะกระแสอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในไทยเริ่มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้บริโภคในปัจจุบันหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้นโดยเปลี่ยนมาใช้รถ EV ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ เพื่อกระตุ้นการซื้อขายรถไฟฟ้า โดยการเพิ่มจำนวนสถานีจุดชาร์จรถไฟฟ้าหรือการพัฒนาเทคโนโลยีให้สอดรับกับการมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ

อ้างอิงจากตัวเลขในปี 2566 ที่ผ่านมา ยอดขายรถไฟฟ้า EV อยู่ที่ราวๆ 1 แสนคัน ซึ่งถือว่าเติบโตสูงกว่าปี 2565 เป็นอย่างมาก และมีสัดส่วนค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ทำให้ในปี 2567 - 2569 และมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นอีก จากการคาดการณ์ถึงกำลังการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าโดยรวมราว ๆ 400,000 – 500,000 คัน / ปี ทำให้ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านไปสู่สังคมยานยนต์พลังงานไฟฟ้าก็ว่าได้

นับเป็นโอกาสทองของธุรกิจเอ็สเอ็มอีอย่างยิ่งที่จะสร้างโมเดลธุรกิจที่ไม่ส่งกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเริ่มต้นจากอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าเหล่านี้ SME D Bank จึงรวม 5 เทรนด์ธุรกิจในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้ามาบอกเล่ากันว่า มีธุรกิจใดน่าสนใจบ้าง ไปดูกัน!

สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า : เปิดให้บริการจุดชาร์จพลังงานไฟฟ้า โดยลงทุนติดตั้งสถานีชาร์จแบบ Fast Charge หรือ Normal ตามพื้นที่ต่าง ๆ ผู้ประกอบการอาจเลือกทำเลให้อยู่ในจุดใกล้ขาออกไปในโซนต่างจังหวัด เพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่เดินทางไกล หรือเลือกทำเลยอดฮิตที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ เช่น ร้านอาหาร ลานจอดรถ หรือห้างสรรพสินค้า เป็นต้น และหากใครมีที่ดินหรือสถานที่ที่มีพื้นที่กว้างจะได้เปรียบเพราะสามารถรองรับคนเข้ามาใช้บริการได้หลายคัน

บริการเช่ารถ EV : บริการที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในระยะสั้น ช่วยให้ผู้เช่าประหยัดเงินจากการเดินทาง โดยไม่ต้องกังวลเรื่องราคาน้ำมัน ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการทดลองใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าก่อนการตัดสินใจซื้อ และยังต่อยอดให้กับธุรกิจด้วยการร่วมมือกับบริษัททัวร์หรือโรงแรมขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มขึ้นได้

บริการซ่อมบํารุงรถ EV : การให้บริการซ่อมบำรุงโดยเฉพาะ เป็นอีกหนึ่งธุรกิจบริการที่ยังไม่ค่อยมีคู่แข่งในท้องตลาด เนื่องจากการซ่อมรถไฟฟ้า EV ต้องใช้ทักษะที่แตกต่างจากรถสันดาปทั่วไป จึงเป็นโอกาสทองของผู้ประกอบการที่ต้องหาความรู้และพัฒนาขีดความสามารถของตัวเอง โดยเปิดเป็นศูนย์ซ่อมบำรุงรถ EV ที่ได้มาตรฐาน เพื่อรองรับการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในอนาคต

บริการด้านแบตเตอรี่ EV : ผู้ประกอบการควรเตรียมพร้อมศึกษาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ เนื่องจากแบตเตอรี่เสมือนเป็นแหล่งเก็บพลังงานไฟฟ้าที่สำคัญเพื่อจ่ายพลังงานในการขับเคลื่อนรถยนต์ไฟฟ้า ในอนาคตจึงต่อยอดเป็นธุรกิจได้หลากหลาย เช่น บริการด้านการขาย แลกเปลี่ยน หรือเช่าแบตเตอรี่ และหากมีเครือข่ายโดยตรง อาจเป็นโอกาสทองอีกขั้นในการผลิตแบตเตอรี่ขึ้นเอง เพื่อให้บริการที่ครอบคลุมและครบวงจร

บริการ Ride-Hailing บริการเรียกรถโดยสาร หรือการขนส่งโดยรถ EV : เปิดบริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันเช่น Grab , Bolt , MuvMi หรือ Lne Man เป็นต้น ตอบโจทย์สำหรับผู้บริโภคที่ต้องการเรียกใช้ยานพาหนะในการโดยสารและขนส่งสินค้า เพื่อลดต้นทุนด้านพลังงาน การบำรุงรักษา รวมถึงรองรับความสะดวกสบายในการเดินทางและช่วยลดมลพิษที่เกิดจากขนส่งได้เป็นอย่างดี

ทั้ง 5 ธุรกิจถือว่าตอบโจทย์ต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าแบบสุด ๆ แต่การที่จะคว้าโอกาสทองเหล่านี้ได้อย่างไม่สะดุด นอกจากอาศัยองค์ความรู้แล้ว อาจต้องมี “แหล่งทุน” ต่อยอดธุรกิจด้วยอีกทาง หากผู้ประกอบท่านใดสนใจเริ่มต้นธุรกิจประเภทนี้ SME D Bank ยินดีให้คำปรึกษาพร้อมสนับสนุนธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ผ่าน “สินเชื่อ SME Green Productivity” ด้วย อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 3% ต่อปี คงที่ตลอด 3 ปีแรก ผ่อนนานสูงสุด 10 ปี เพื่อสานฝันผู้ประกอบการและยกระดับธุรกิจให้มุ่งสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง

ศึกษา “สินเชื่อ SME Green Productivity” ได้ที่ https://www.smebank.co.th/all-product/

หรือขอคำปรึกษาเรื่องสินเชื่อของ SME D Bank เพิ่มเติมได้ทาง LINE OA @smedevelopmentbank หรือ Call Center 1357

ที่มา : SME D Bank