ชายผู้อยู่เบื้องหลัง “เทพนาจา” แห่งวงการยานยนต์ไฟฟ้า

เรื่อง : อรรถ

21 มกราคม 2565 Facebook Fan Page “Neta Auto Thailand” เปิดตัวสู่สาธารณะชนคนไทยครั้งแรก 1 เดือนต่อมาโพสต์แรกของ Neta เริ่มต้นด้วย Logo รูปปีก (บางคนอาจจะดูเป็นน้ำพุ) พร้อมตัวอักษรอังกฤษชื่อ NETA โดยนัยยะเบื้องหลังรูปปีก สะท้อนถึง การเติบโต, แรงบันดาลใจ และ AI จนถึงวันที่ 24 สิงหาคม 2565 NETA V คันแรกอย่างเป็นทางการของประเทศไทย เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ที่ Central World พร้อมกับเสียงตอบรับอย่างอบอุ่นจากผู้ขับขี่ชาวไทย

แม้ว่าในท้ายที่สุดแล้ว NETA จะปิดยอดจำหน่ายในปี 2565 ได้เพียง 989 คัน แต่นาย เป่า จ้วงเฟย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด กลับกล้าตั้งเป้าส่งมอบรถ NETA ในประเทศไทยสูงถึง 10,000 คัน หรือเพิ่ม 10 เท่า

 
เห็นตัวเลขแบบนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะตั้งคำถามว่า NETA เอาอะไรมามั่นใจ ว่าจะได้รับความไว้วางใจจากผู้ขับขี่ชาวไทย

ถ้าไม่นับปัญหาที่ทำให้ยอดขาย NETA V ในปี 2565 ไม่คืบหน้า เพราะติดปัญหา MOU กับนโยบายภาครัฐ ที่ส่งผลต่อการส่งมอบรถภายใต้แคมเปญสนับสนุนของรัฐบาลไทย แต่การมองเป้าไว้สูงถึง 10 เท่า ท่ามกลางการแข่งขันในตลาดยานยนต์ไฟฟ้าที่ดูจะดุเดือดขึ้นทุกวันๆ แสดงว่า ต้องมีดีอะไรแน่ๆ วันนี้เลยอยากชวนทุกท่านมาทำความรู้จักกับ “NETA” ที่มีชื่อในประเทศจีนว่า “นาจา” (ใช่ครับ นาจา ชื่อเดียวกับเทพเด็กที่เดินบนวงล้อทองคำ)

NETA คือแบรนด์ยานยนต์ส่วนบุคคลของ Hozon Auto (เหอจงออโต้) บริษัทผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศจีน ที่พึ่งก่อตั้งบริษัทด้วยเงินลงทุน 626 ล้านหยวน เมื่อปี 2557 ในมณฑลเจ้อเจียง โดยผู้ก่อตั้ง เหอจงออโต้ คือ “ฝาง หยุนโจว” และเขาคนนี้ คือสายรถยนต์ไฟฟ้าตัวจริงคนหนึ่งของประเทศจีน



นอกจาก ฝาง หยุนโจว จะเป็นผู้ก่อตั้ง เหอจงออโต้ แล้ว ปัจจุบันเขายังดำรงตำแหน่งรองประธานสภาประชาชนแห่งชาติจีน เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์พลังงานใหม่แห่งชาติ, สมาชิกของคณะกรรมการมาตรฐาน, สมาชิกสภาสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าแห่งประเทศจีน โดยก่อนหน้านี้ ฝาง หยุนโจว มีส่วนสำคัญในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์พลังงานใหม่ของประเทศจีนมาแล้วกว่า 20 ปี นับเป็นบุคลากรที่คร่ำหวอดในวงการยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศจีนในระดับแนวหน้าอีกคนหนึ่งก็ว่าได้

ย่อมเป็นเครื่องการันตีได้ว่า ยานยนต์ไฟฟ้าจาก เหอจงออโต้ โดยเฉพาะ NETA คือยานยนต์ที่ผ่านการคิดโดยผู้เชี่ยวชาญมาเป็นอย่างดี

ไม่น่าแปลกใจที่ NETA จะประสบความสำเร็จและเติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศจีน โดยในปี 2564 NETA ได้รับรางวัลแบรนด์รถยนต์พลังงานใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศจีน และมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอด และสร้างยอดขายได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ โดยขยับยอดขายในตลาดโลกจาก 1,206 คันในปี 2561 เป็นยอด 152,073 คันในปี 2565 หรือเติบโตกว่า 1,200 เท่าตัว

และก็คงไม่ใช่เรื่องเกินความคาดหมายที่บรรดานักวิจารณ์ นักทดสอบ หรือ Influencer ชาวไทย จะให้คะแนน “เทพนาจา” ให้ยืนอยู่แถวหน้า เพื่อมารันวงการ ภายใต้วิสัยทัศน์ “สรรสร้างนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า…เพื่อทุกคน”

ปัจจุบัน NETA ทำตลาดยานยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด 4 รุ่นคือ NETA N01, NETA U, NETA V, NETA S และกำลังเตรียมส่ง NETA GT ลงสู่ตลาดในปี 2566 นี้ พร้อมกับประกาศผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียน