DENZA FORMULA BAO 8 ออฟโรดไฟฟ้า ขุมพลัง PHEV เทคโนโลยีพร้อมลุยทุกการผจญภัย

BYD นำ DENZA FORMULA BAO 8 ออฟโรดไฟฟ้า ขุมพลัง PHEV มาจัดแสดงเช็คเรตติ้งครั้งแรกในงานมอเตอร์โชว์ 2025 ชูเทคโนโลยีขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก ก้าวข้ามทุกการผจญภัย คงความปลอดภัยเพิ่มขึ้นอีกขั้นด้วยการติดตั้งแบตเตอรี่ไว้ภายในโครงสร้าง Chassis Frame มั่นใจแกร่งกว่ารถยนต์ที่มีพื้นฐานแบบ Body on Chassis ทั่วไป

DENZA FORMULA BAO 8 เป็นรถ OFF-ROAD D-SUV ที่ผสมผสานเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่เแบบ Off-Road เข้ากับความหรูหรา พร้อมนำแนวคิด ‘กุญแจแห่งการเปิดประตูเข้าสู่โลกแห่งอนาคต’ มาใช้ในการออกแบบทั้งภายนอกและภายใน ระบบการขับขี่ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง PHEV แบบ DMO (Dual Mode Off-road) ทำหน้าที่ผสานการทำงานของเครื่องยนต์ ขนาด 2.0T ลิตร เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ กำลังรวมกัน 550 กิโลวัตต์ โครงสร้างเป็นแบบ CTC หรือ Cell to Chassis 

• OFF-ROAD D-SUV ถูกพัฒนาขึ้นด้วยแนวคิด High Technology & Luxury Off-Road SUV ซึ่งผสมผสานเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่เข้ากับความหรูหรา จนเกิดเป็นรถยนต์ SUV หรูที่พร้อมมอบประสบการณ์ของการผจญภัยให้ผู้ขับขี่

• ภายนอกดีไซน์ด้วย concept ‘กุญแจแห่งการเปิดประตูเข้าสู่โลกแห่งอนาคต’ แฝงความดุดันและสง่างาม จากเส้นสายรวมถึงมิติที่เป็นเหลี่ยมมุม การออกแบบโครงสร้างด้านหน้าโดยรวม เสมือนการประสานชิ้นส่วนแบบสามมิติ ตามแนวคิดของการออกแบบ Cyber ทำให้ภาพรวมตัวรถดูแข็งแกร่งและมั่นคง

• ภายในใช้ concept ร่วมกับภายนอก แผงประตูจึงมีการตกแต่งด้วยรูปทรงของกุญแจ สื่อถึงการเป็นกุญแจไขสู่ประตูแห่งการผจญภัย ทั้งยังตกแต่งด้วยลายไม้จริง ให้อารมณ์หรูหราและเป็นธรรมชาติไปพร้อมกัน ทั้งยังมีระบบแสดงผลอัจฉริยะ 4 จอ, เบาะปรับไฟฟ้าทั้งแถวหน้าและแถวหลัง และตู้เย็นขนาด 7 ลิตร

• ขุมพลังเทคโนโลยี PHEV แบบ DMO (Dual Mode Off-road) ผสานการทำงานของเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.0T ลิตร เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ ทรงพลังด้วยพละกำลังรวมกัน 550 กิโลวัตต์ หรือ 748 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 760 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.8 วินาที

• เทคโนโลยี PHEV แบบ DMO พร้อมก้าวข้ามทุกการผจญภัย แต่ยังใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เนื่องจากขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก ช่วงล่างมาพร้อมเทคโนโลยี BYD DiSus-P ปรับระดับของช่วงล่างได้อย่างอิสระ ทั้งระดับสูงต่ำและรูปแบบการทำงาน 3 แบบ

• โครงสร้างเป็นแบบ CTC หรือ Cell to Chassis ติดตั้งแบตเตอรี่ไว้ภายในโครงสร้าง Chassis Frame เพิ่มการปกป้องอีกขั้นให้กับแบตเตอรี่ เหมาะกับรถยนต์เพื่อการผจญภัยโดยเฉพาะ ทั้งยังไม่กระทบกับพื้นที่ภายในห้องโดยสาร และแกร่งกว่ารถยนต์ที่มีพื้นฐานแบบ Body on Chassis ทั่วไป