Maserati เปิดตัว New GranTurismo ‘Folgore’ ขุมพลังมอเตอร์ 3 ตัว 760 แรงม้า แรงบิด 1,350 นิวตัน-เมตร

มาเซราติ ประเทศไทย เปิดตัว กรันทูริสโม “โฟลกอเร” รถสปอร์ต EV เทคโนโลยีแรงดันไฟฟ้า 800 โวลต์ มอเตอร์ 3 ตัว 760 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,350 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 2.7 วินาที เคาะราคา 12,900,000 บาท

Maserati เปิดตัว กรันทูริสโม (GranTurismo) โฉมใหม่ พร้อมกัน 3 รุ่นย่อย คือ โมเดนา (Modena) , โทรเฟโอ (Trofeo) และนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่น โฟลกอเร (Folgore) ที่แปลว่า “สายฟ้า” ในภาษาอิตาเลียน แน่นอน...เราจะโฟกัสที่เจ้า “สายฟ้า” กัน

Maserati New GranTurismo รุ่น โฟลกอเร (Folgore) เป็นการผสมผสานระหว่างความหรูหราแบบดั้งเดิมของ Maserati เข้ากับเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่ มุ่งเน้นไปที่ประสิทธิภาพการขับขี่ที่เหนือชั้น ดีไซน์ที่ล้ำสมัย และความยั่งยืน โดยใช้แพลตฟอร์ม Giorgio อันเป็นเอกลักษณ์ของ Maserati ที่ได้รับการปรับแต่งสำหรับระบบไฟฟ้า

รถสปอร์ต GT คันนี้ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังไฟฟ้า 100% ส่งกำลังผ่านมอเตอร์ 3 ตัว (three 300-kW permanent magnet motors) ติดตั้งที่เพลาหน้า 1 ตัว เพลาหลัง 2 ตัว ผสานการทำงานกับเทคโนโลยีแบตเตอรี่ 800 โวลต์ แบตเตอรี่ความจุ 92.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ติดตั้งแบตเตอรี่ไว้บริเวณโครงสร้างกลางรถ (T-Bone) แทนที่การติดตั้งไว้ใต้เบาะผู้ขับ ส่งผลดีต่อสมดุลและจุดศูนย์ถ่วงของรถ

ด้วยเทคโนโลยีของรถแข่งฟอร์มูลา อี (Formula E) ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ทำให้รีดม้าออกมาได้สูงสุด 761 แรงม้า (830 แรงม้า เมื่อใช้โหมด MaxBoost) แรงบิด 1,350 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 2.7 วินาที (รุ่น Modena ใช้เวลา 3.9 วินาที รุ่น Trofeo ใช้เวลา 3.5 วินาที) ทำความเร็วสูงสุดได้ 320 กม./ชม.

เทคโนโลยีแรงดันไฟฟ้า 800 โวลต์ ทำให้ชาร์จเร็วด้วยเครื่องชาร์จแบบ DC FAST CHARGE 800 โวลต์ แค่ 10 นาที สามารถวิ่งได้ 100 กม. ชาร์จเร็ว 400 โวลต์ 25 นาที วิ่งได้ 100 กม. ถ้าชาร์จไฟบ้านใช้เวลา 5 ชั่วโมง ระยะทางวิ่งสูงสุด 450 กม./ชาร์จเต็ม 1 ครั้ง

ด้านดีไซน์ได้รับแรงบันดาลใจจาก GranTurismo รุ่นคลาสสิก ผสมผสานเส้นสายที่เรียบหรู โฉบเฉี่ยว ดุดัน เข้ากับองค์ประกอบที่ล้ำสมัย เช่น ไฟหน้า LED Matrix และกระจังหน้าแบบใหม่ ฝากระโปรงหน้าทรงยาวและตำแหน่งผู้ขับที่อยู่กึ่งกลางระหว่างล้อทั้ง 4 พร้อมหลังคาลาดต่ำสู่ด้านหลัง เน้นให้เห็นความโค้งมนของเสาซี เสริมความสปอร์ตด้วยล้ออัลลอยขนาด 20-21 นิ้ว ฝาท้ายแบบเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า กระจกมองข้างแบบดิจิตอล

การออกแบบภายในเน้นความหรูหรา ใช้หนังแท้และวัสดุคุณภาพสูง เบาะนั่งแบบสปอร์ต จอแสดงผลแบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว และ 10.25 นิ้ว ติดตั้งระบบมัลติมีเดีย Maserati Intelligent Assistant (MIA) อินโฟเทนเมนท์ใหม่ล่าสุด หน้าจอ comfort display ที่รวมฟังก์ชั่นหลักของทัชสกรีนอเนกประสงค์ นาฬิกาดิจิทัลอัจฉริยะ (Digital Smart Clock) และเฮด-อัพ ดิสเพลย์ (เป็นออปชั่น)

ในเวอร์ชั่นรถไฟฟ้าคันนี้ ทีมวิศวกรจาก Maserati Innovation Lab มอบประสบการณ์ระบบเครื่องเสียง Maserati Sound Audio System และมีออปชั่นพิเศษกับเครื่องเสียงสัญชาติอิตาลี 'Sonus Faber' ลำโพง 12 ตำแหน่ง และ 19 ตำแหน่งให้เลือก

ระบบช่วงล่าง ระบบกันสะเทือนแบบอิสระปีกนกคู่หน้า พร้อมระบบกันสะเทือนแบบมัลติลิงก์หลัง และระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ

ช่องเก็บสัมภาระด้านหน้า 200 ลิตร ช่องเก็บสัมภาระด้านหลังความจุ 320 ลิตร

ระบบความปลอดภัยประกอบด้วย ถุงลมนิรภัย 8 ใบ ระบบเบรก ABS และ EBD ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESC) ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)

ระบบอัตโนมัติในรถคันนี้ ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ Level 3 ระบบช่วยเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ

โหมดการขับขี่รุ่น โฟลกอเร มี 4 โหมด คือ GT , Max Range , Sport และ Corsa

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

-โชว์รูมไอคอนสยาม โทร. 02 117 4666

-โชว์รูมสุขุมวิท 26 โทร. 02 663 2233

-โชว์รูมสยามพารากอน โทร. 02 610 9441

- Line@ หรือ Messenger @maseratithailand

- https://www.maserati.com/th/en

 
ที่มา : เพจ Maserati Thailand