Last updated: 15 ม.ค. 2568 | 90 จำนวนผู้เข้าชม |
เกรท วอลล์ มอเตอร์ โชว์นวัตกรรม Hi4-Z แพลตฟอร์มออฟโรด เครื่องยนต์ปลั๊กอิน-ไฮบริดมอเตอร์คู่ วิ่งด้วยไฟฟ้าได้ไกล 200 กม.ระยะทางรวมน้ำมันได้ไกลถึง 1,100 กม.พร้อมด้วยคาราวานรถยนต์ออฟโรด 5 รุ่นในเทศกาล Ice and Snow 2025 เผยเตรียมรุกตลาดรถยนต์รุ่นใหม่ทั้งรถเอสยูวีและรถกระบะครอบคลุมทุกพลังงาน
เกรท วอลล์ มอเตอร์ เร่งเครื่องเปิดศักราชใหม่ด้วยการโชว์สมรรถนะของนวัตกรรม Hi4-Z แพลตฟอร์มออฟโรดที่ออกแบบสถาปัตยกรรมไฮบริดแบบมอเตอร์คู่ตามแนวยาว (Longitudinal dual-motor hybrid architecture) ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อไม่นานนี้ โดยเพิ่มสมรรถนะให้เครื่องยนต์สามารถเพิ่มระยะทางขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ถึง 200 กิโลเมตร ตอบโจทย์อย่างลงตัวได้ทั้งการขับขี่แบบในเมืองและการผจญภัยแบบออฟโรด ทั้งยังท้าพิสูจน์สมรรถนะของรถยนต์ตระกูลออฟโรดจาก GWM ทั้ง 5 รุ่น ใน 3 ตระกูลอย่าง GWM TANK, GWM HAVAL และ GWM POER ท่ามกลางธรรมชาติสุดยิ่งใหญ่ตระการตาและสภาพอากาศที่เย็นยะเยือกเกือบกว่า -30 องศา ณ ภูเขาฉางไป่ ประเทศจีน
รถยนต์ออฟโรดจาก GWM ทั้ง 5 รุ่นที่เข้าร่วมพิสูจน์สมรรถนะครั้งนี้นี้ ล้วนได้รับการออกแบบมาเพื่อพิชิตทุกสภาพภูมิประเทศ ทุกภูมิอากาศ และทุกเส้นทางออฟโรดสุดท้าทาย ตั้งแต่ภูเขาหิมะจนถึงเส้นทางขรุขระกลางทะเลทรายอันร้อนระอุ หรือป่าเขตร้อนชื้น ด้วยเทคโนโลยีขับเคลื่อนสี่ล้อล้ำสมัย ระบบควบคุมการขับขี่แบบอัจฉริยะ และโหมดการขับขี่ที่ปรับแต่งได้หลากหลายรูปแบบ พร้อมรับมือกับทุกสภาพการขับขี่ และตอบโจทย์ทุกการใช้งานด้วยสมรรถนะอันทรงพลังที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้วในทุกสภาวะ สานต่อแนวคิด “One Global Family” กับเทคโนโลยีอัจฉริยะสุดล้ำ Hi4-Z ขับเคลื่อนความฝันและเป้าหมายของนักผจญภัยทุกคนผ่านประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร
หลังจากที่ได้จัดกิจกรรมในมหกรรมมอเตอร์สปอร์ตออฟโรดระดับโลก ณ ทะเลทรายมองโกเลีย ในงาน Alxa Hero Festival 2024 ในปี 2567 ล่าสุด “เกรท วอลล์ มอเตอร์” ได้เปิดปี 2568 ด้วยความตื่นเต้นขั้นสุดผ่านการโชว์นวัตกรรม Hi4-Z แพลตฟอร์มออฟโรดที่มอบระยะทางการใช้งานที่ยาวนานด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ไกลถึง 200 กิโลเมตร ระยะทางรวมน้ำมันวิ่งได้ไกลถึง 1,100 กิโลเมตร รองรับการชาร์จเร็วสูงสุดถึง 163 กิโลวัตต์ และการชาร์จจาก 30% ถึง 80% ของระดับการชาร์จ (SOC) ใช้เวลาเพียง 15 นาที ซึ่งแบตเตอรี่ 80% เพียงพอสำหรับการขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วนระยะทางสูงถึง 120 กิโลเมตร
แพลตฟอร์มนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้ตอบโจทย์การขับขี่ออฟโรดทั้งในเมืองและเส้นทางธรรมชาติสุดท้าทาย ถือเป็นนวัตกรรมแรกของโลกในสถาปัตยกรรมปลั๊กอิน-ไฮบริดแบบมอเตอร์คู่ตามแนวยาว ที่ผสานกับเกียร์อัตโนมัตแบบ 3 สปีดและระบบเกียร์แปรผันต่อเนื่อง (CVT) พร้อมมอเตอร์กำลังสูงคู่หน้าและหลัง โดยมีระบบขับเคลื่อนให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ 2.0T และ 3.0T รวมถึงแบตเตอรี่ขนาดใหญ่และโครงสร้างตัวถังแบบ Body-on-Frame ที่แข็งแกร่งนั้น ล้วนพัฒนาขึ้นสำหรับรองรับการขับขี่แบบออฟโรดโดยเฉพาะ เพื่อการขับขี่ที่เหนือกว่า สนุกกว่า และท้าทายกว่าในทุกมิติ
พร้อมกันนี้ ยังได้มีการทดสอบสมรรถนะของรถยนต์ออฟโรดทั้ง 5 รุ่น ท่ามกลางสายตาของผู้เข้าเยือนเทศกาล Ice and Snow 2025 จากทั่วโลก นำโดย GWM TANK 300 HEV ยานยนต์อเนกประสงค์สมรรถนะสูง ที่ผสานพลังงานไฮบริดเข้ากับเครื่องยนต์เบนซิน 2.0L พร้อมด้วยระบบการขับขี่อัจฉริยะ และเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยมากมาย ร่วมด้วยการทำงานกับระบบช่วงล่างที่เกาะพื้นถนนได้ดี ทั้งด้านหน้าและ Multi-link ด้านหลังช่วยเสริมความสามารถการลุยในเส้นทางออฟโรดที่ปกคลุมไปด้วยหิมะได้อย่างง่ายดาย มั่นใจ และโดดเด่นเด่นท่ามกลางหิมะสีขาวโพลน
ขณะที่ GWM TANK 400 Hi4-T นับเป็นอีกหนึ่งเอสยูวีสายพันธุ์ออฟโรด ดีไซน์สมบุกสมบัน แกร่ง หล่อ และคมคาย ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด 402 แรงม้า วิ่งในโหมดไฟฟ้าในระยะทาง 105 กิโลเมตร ได้ยาว ๆ มีโหมดการขับขี่สูงสุดถึง 12 รูปแบบ พร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัยที่พร้อมรับมือทุกสภาวะการขับขี่ ให้ลุยความหนาวฝ่าความสูงของหิมะได้สบายๆ ด้วยระยะห่างจากพื้น (Ground clearance) ของ GWM TANK 400 Hi4-T ที่สูงถึง 224 มิลลิเมตร
สำหรับ GWM TANK 500 Hi4-T รถอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ระดับพรีเมียมที่ยกระดับมาตรฐานรถยนต์เอสยูวีด้วยออปชั่นจัดเต็มทุกด้าน ทั้งโหมดการขับขี่ถึง 12 โหมด รวมถึงโหมดพื้นหิมะ (Snow) เหมาะสำหรับการใช้งานบนถนนลื่น โดยระบบจะใช้เกียร์สูงเพื่อลดการฟรีของล้อ ซึ่งทำงานได้เป็นอย่างดี สามารถควบคุมการขับขี่ได้แม่นยำ มั่นคง และปลอดภัย เมื่อผสานด้วยการควบคุมรถที่ทำได้ง่ายดายด้วยระบบการช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัยกว่า 17 ระบบที่ครอบคลุมทุกสถานการณ์
ด้าน GWM HAVAL H9 HEV และรุ่นเครื่องยนต์ Diesel 2024 นับว่าเป็นรถยนต์เอสยูวีขนาดใหญ่สำหรับครอบครัวสายลุยที่มีประสิทธิภาพด้านความเงียบที่สามารถลดเสียงจากภายนอกได้ท่ามกลางสภาพอากาศที่รุนแรงในฤดูหนาว มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำหน้าที่สร้างเซอร์ไพรส์ให้นักผจญภัยที่มีทักษะการขับขี่สูงได้สนุกกับการขับขี่ที่ง่ายดาย ขณะเดียวกันในส่วนของ GWM POER Off-Road 2.4T รถกระบะที่มีพละกำลังสูงเมื่อเทียบกับรถกระบะออฟโรดในระดับเดียวกัน มีระบบขับเคลื่อน 9 โหมดช่วยให้การขับขี่ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลายและท้าทายกลายเป็นเรื่องง่าย ลุยได้ดีในทุกสภาพถนนแม้จะเต็มไปด้วยหิมะและน้ำแข็งก็ตาม
นอกจากนี้ ภายในเทศกาลนี้ยังอัดแน่นไปด้วยกิจกรรมที่ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีล้ำสมัยและมนต์เสน่ห์ของวัฒนธรรมจีนดั้งเดิมได้อย่างลงตัว ผ่านการแสดงการเต้นมังกร การแสดงสิงโต การแสดงหยางเกอ ขบวนพาเหรดมังกร 5 ตัว พร้อมด้วยงานเลี้ยงรอบกองไฟที่มาพร้อมกับการแสดงดอกไม้ไฟ ทั้งยังได้มีงานเปิดตัว GWM Off-Road Alliance คอมมูนิตี้ระดับโลกที่รวมคนรักออฟโรดสไตล์ GWM จากหลากหลายประเทศเข้าไว้ด้วยกัน และมีการจัดแบ่งประเภทการขับขี่ออฟโรด โดยได้รับเกียรติจากแขกผู้ทรงเกียรติระดับนานาชาติที่เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ออฟโรดและการขับขี่แบบออฟโรดเพื่อร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองและประสบการณ์ในวงสนทนาพิเศษ พร้อมด้วยการมอบรางวัลให้กับเจ้าของรถ GWM ที่มีเรื่องราวการใช้งานที่น่าประทับใจ สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของชุมชนผู้ใช้รถ GWM ที่เชื่อมโยงกันทั่วโลก
นอกเหนือจากการส่งมอบประสบการณ์ในรูปแบบที่ตื่นตาตื่นใจมากมาย อาทิ GWM DAY ที่จะจัดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก, User Experience Day ที่จะให้ผู้ใช้รถได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่รูปแบบใหม่ และ User Service Day ที่จะยกระดับมาตรฐานการบริการให้กับลูกค้าทั่วโลก และแผนขยายกิจกรรมสำหรับผู้รักการผจญภัยไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลกในปี 2025 แล้ว “เกรท วอลล์ มอเตอร์” ได้เตรียมเผยโฉมรถยนต์รุ่นใหม่ที่ครอบคลุมทุกพลังงานและยังคงอัดแน่นด้วยความอัจฉริยะด้านเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มรถยนต์เอสยูวีและกระบะทั้งเพื่อการขับขี่ในเมืองและออฟโรด โดยเตรียมยกระดับประสบการณ์การผจญภัยให้น่าตื่นเต้นยิ่งขึ้น ตอกย้ำปณิธานในการขับเคลื่อนความฝันของนักผจญภัยทุกคน พร้อมเดินหน้าสู่อนาคตในทุกเส้นทางอย่างยั่งยืน
ชมไฮไลต์และบรรยากาศภายในงาน Ice and Snow 2025 ย้อนหลังได้ที่เฟซบุ๊ก GWM Thailand
ที่มา : GWM Thailand