Last updated: 12 ก.พ. 2567 | 670 จำนวนผู้เข้าชม |
ถนนทุกสายมุ่งสู่ EV เมื่อตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากำลังเติบโตแบบทวีคูณ !!
ด้วยยอดขายทั่วโลกที่สูงเกิน 10 ล้านคัน ในปี 2022 ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 9% จากปี 2021 (ข้อมูลจาก Global EV Outlook 2023 โดย IEA)
ภายในปี 2030 ตามคาดการณ์ขององค์การพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ระบุว่า รถยนต์ไฟฟ้าจะมีสัดส่วนมากกว่า 60% ของยอดจำหน่ายรถยนต์รวมทั่วโลก สอดคล้องกับมุมมองของนักวิเคราะห์ Morningstar (Morningstar's 2021 Electric Vehicle Observer) ที่คาดว่ายอดการใช้รถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยระบุว่ารถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริดจะขึ้นมามีสัดส่วนถึง 2 ใน 3 ของรถยนต์ที่จำหน่ายอยู่ในตลาด ซึ่งการเติบโตนี้ได้รับแรงหนุนจากการที่ราคารถยนต์ไฟฟ้าถูกลง การเพิ่มประสิทธิภาพให้รถยนต์ไฟฟ้าเทียบเท่ารถยนต์สันดาปภายใน และการขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านสถานีบริการชาร์จไฟที่หาได้ง่ายขึ้น
ประเทศไทยในฐานะที่มีบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนและผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า จึงเข้าไปมีบทบาทใน Supply Chain ของอุตสาหกรรม EV ระดับโลก และด้วยศักยภาพที่มีผู้ผลิตที่เข้มแข็ง มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมยานยนต์มายาวนาน กอปรกับความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ที่ตั้งอยู่จุดศูนย์กลางของภูมิภาค จึงทำให้ประเทศไทยมีความพร้อมในการเป็นจุดหมายปลายทางด้านการลงทุน และการเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาคต่อไป
ที่ผ่านมา บีโอไอได้จัดงานเชื่อมโยงธุรกิจแบบมุ่งเป้า ซึ่งเป็นงานที่รวบรวมบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนและผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่มีศักยภาพ มาจัดแสดงสินค้าและร่วมเจรจาธุรกิจ
โดยมีบริษัทไทยที่เข้าร่วม เช่น บริษัท ซัมมิท อีเล็คโทรนิค คอมโพเน้นท์, ไทยซัมมิท ฮาร์เนส, สามมิตรเทค, จงไทยรุ่งเรือง, แปซิฟิค รับเบอร์ เวิร์คส์ เป็นต้น รวมทั้งมีบริษัทต่างชาติชั้นนำที่มีฐานการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในประเทศไทยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นบริษัท โรเบิร์ต บ๊อช, บอร์กวอร์เนอร์, เม็กเท็ค แมนูแฟ็คเจอริ่ง คอร์ปอเรชั่น รวมไปถึงมีผู้ประกอบการ SMEs ไทยในกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์เข้าร่วมอีกจำนวนมาก
บีโอไอเชื่อมั่นว่าระบบนิเวศของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทยนั้นสามารถได้รับการต่อยอดให้มีความแข็งแกร่ง ทั้งจาก มาตรการสนับสนุนด้านอุปสงค์ (Demand Side) เพื่อให้ประชาชนที่สนใจสามารถซื้อยานยนต์ไฟฟ้าได้ในราคาที่เหมาะสม รวมถึงมาตการส่งเสริมการลงทุน เพื่อสร้างอุปทาน (Supply Side) จากทางบีโอไอ เพื่อให้ไทยมุ่งสู่การเป็น EV Hub ของโลก
โดยมุ่งเน้นส่งเสริมอุตสาหกรรม EV ผ่าน 3 กลยุทธ์สำคัญ ดังนี้
1.ดึงบริษัทมาตั้งฐานผลิต EV ทั้งบริษัทเดิมและใหม่
2.สร้างความเข้มแข็งให้กับ Supply Chain ในประเทศ โดยเน้นบริษัททำแบตเตอรี่และชิ้นส่วน EV รวมถึง SMEs ในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์
3.พัฒนาระบบนิเวศของ EV โดยเน้นสถานีชาร์จ บุคลากรทักษะสูง การปรับกฎระเบียบ การตั้งมาตรฐาน รวมทั้งการสร้างความเข้มแข็งให้ศูนย์วิจัยและพัฒนา EV
สำหรับอุตสาหกรรม EV บีโอไอได้ส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างครบวงจรตั้งแต่รถจักรยานไฟฟ้า รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า รถสามล้อไฟฟ้า รถยนต์ไฟฟ้า รถเมล์/รถบัส/รถบรรทุกไฟฟ้า เรือไฟฟ้า แพลตฟอร์มสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ชิ้นส่วนและอุปกรณ์สำหรับยานพาหนะไฟฟ้า หรือแม้แต่สถานีให้บริการชาร์จไฟฟ้าและสถานีบริการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่
โดยสิทธิประโยชน์ที่ได้รับนั้นจะแตกต่างกันตามประเภทกิจการที่ขอรับการส่งเสริม ตั้งแต่การได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ยกเว้นอากรนำเข้าเครื่องจักร อากรของนำเข้าเพื่อการวิจัย อากรวัตถุดิบผลิตเพื่อส่งออก รวมถึงการได้รับสิทธิประโยชน์อื่น ๆ นอกเหนือจากด้านภาษีที่น่าดึงดูดใจไม่แพ้กัน
ที่มา : เพจ BOI