อัพเดทสถานี G-Charge Supercharging 22 แห่ง ตั้งเป้าเปิดครบ 55 แห่งสิ้นปี 66

เกรท วอลล์ มอเตอร์ รุกขยายสถานีชาร์จไฟฟ้าแบบ DC Fast Charge ครบ 22 แห่งในเดือนสิงหาคม พร้อมตั้งเป้าเปิดครบ 55 แห่งภายในสิ้นปี 2566 เดินหน้ายกระดับระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเติมเต็มระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ด้วยการเปิดสถานีอัดประจุไฟฟ้าแบบเร็ว (DC Fast Charge) ครบ 22 แห่งภายในเดือนสิงหาคม รวมถึงมีแผนขยายเครือข่ายสถานี G-Charge เพิ่มอีก 33 แห่ง รวมเป็น 55 แห่ง ครอบคลุมทุกภูมิภาคภายในสิ้นปี 2566 นี้

เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2564 เกรท วอลล์ มอเตอร์ เปิดสถานีอัดประจุไฟฟ้า G-Charge Supercharging Station ย่านสยามสแควร์ ที่มีความสามารถในการชาร์จเร็วด้วยกำลังไฟฟ้าสูงสุดถึง 160 กิโลวัตต์ นับเป็นสถานีอัดประจุไฟฟ้าขนาดใหญ่แห่งแรกในประเทศไทยของเกรท วอลล์ มอเตอร์

ตลอดระยะเวลากว่า 2 ปีที่ผ่านมามีการดำเนินการเพื่อขยายเครือข่าย G-Charge ผ่านการดำเนินการ 3 รูปแบบ ได้แก่ G-Charge Supercharging Station สถานีอัดประจุไฟฟ้าที่ GWM Partner Store และ Destination Charge การร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจที่หลากหลายในการสร้างสถานีอัดประจุไฟฟ้า

นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “เกรท วอลล์ มอเตอร์ ไม่เคยหยุดพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าที่เหนือกว่าให้กับผู้บริโภคชาวไทยควบคู่ไปกับการพัฒนาและเติมเต็มระบบนิเวศของรถยนต์ไฟฟ้าให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม เราเล็งเห็นถึงความสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทยโดยการขยายเครือข่ายสถานีชาร์จไฟฟ้าในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วไทย พร้อมส่งมอบความสะดวกสบาย ความอุ่นใจขณะเดินทาง เพื่อนำพาผู้บริโภคและตลาดยานยนต์ของไทยก้าวสู่อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่อย่างยั่งยืน ซึ่งแสดงให้เห็นความตั้งใจในการคำนึงถึงประสบการณ์การใช้งานของผู้บริโภคเป็นหลัก ในการพัฒนายานยนต์คุณภาพ และตอกย้ำความตั้งใจสู่การเดินหน้าเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้า”

นอกจากนี้ เจ้าของยานยนต์ไฟฟ้าทั้งรถยนต์ GWM และรถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่น ทุกแบรนด์ สามารถวางแผนการเดินทาง การชาร์จไฟ และเข้าถึงฐานข้อมูลสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ากว่า 700 สถานีที่เป็นสถานีชาร์จสาธารณะในประเทศไทยผ่าน GWM Application ซึ่งสามารถค้นหาสถานีชาร์จ AC และ DC ได้ทั้งจาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ และค่ายอื่น ๆ ได้แก่ EA ANYWHERE , EGAT , PEA , SHARGE , EV Station PluZ , Evolt , ESPRO Noodoe , MEA, และ HAUP 

ปัจจุบันสถานี G-Charge ให้บริการรถยนต์ไฟฟ้าทุกแบรนด์ ที่ใช้หัวชาร์จประเภท CCS type 2 สามารถจ่ายกระแสไฟสูงสุดถึง 120  กิโลวัตต์ ผู้ที่จะใช้บริการสามารถจองคิวการชาร์จล่วงหน้าได้ผ่าน GWM Application โดยสถานีชาร์จไฟฟ้าแบบเร็วทั้ง 19 แห่งในปัจจุบัน ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯปริมณฑลและต่างจังหวัด มีรายละเอียดดังนี้

สถานีชาร์จในกรุงเทพฯ 7 แห่ง ได้แก่

G-Charge สยามสแควร์วัน

GWM พระราม 5

GWM แอทยู พาร์ค บางนา

GWM มอเตอร์มอลล์ พระราม 2

GWM อมรรัชดา

GWM เกรทวัน ออโต้ แจ้งวัฒนะ

GWM พระนครอุดมสุข

สถานีชาร์จในเขตปริมณฑล 1 แห่ง

GWM วัน เทพารักษ์ สมุทรปราการ

สถานีชาร์จในต่างจังหวัด 11 แห่ง

ภาคเหนือ

GWM ซีซีซีออโต้ เชียงใหม่

GWM แองเจิลเวย์ เชียงราย

ภาคกลาง

GWM พระนคร สระบุรี

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

GWM ซีซีซีออโต้ อุบลราชธานี

ภาคตะวันออก

GWM เอก ระยอง

GWM เอก จันทบุรี

ภาคใต้

GWM ชูเกียรติ กระบี่

GWM ชูเกียรติ หาดใหญ่

GWM ชูเกียรติ นครศรีธรรมราช

GWM เคที สุราษฎร์ธานี

GWM อนุภาษ ภูเก็ต

 
ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เกรท วอลล์ มอเตอร์ เปิดสถานี DC Fast Charge ที่ Partner Store เพิ่มอีก 3 แห่ง ได้แก่ GWM ซีเอซี ศรีราชา , GWM เอกสห โคราช และ GWM เอ็มวันเอ็กซ์ พิษณุโลก รวมเป็นสถานี DC Fast Charge ทั้งสิ้น 22 แห่ง

สถานีอัดประจุไฟฟ้าของ GWM ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และที่ GWM อนุภาษ ภูเก็ต จะเปิดให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง ในขณะที่สถานีชาร์จไฟฟ้าอื่น ๆ ในเขตพื้นที่ปริมณฑลและต่างจังหวัด ในช่วงเปิดทำการเฟสแรก จะเปิดให้บริการในช่วง Off-peak ในวันจันทร์-ศุกร์ ในช่วงเวลา 22.00 - 09.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

ลูกค้าที่เข้าใช้บริการสามารถชำระเงินผ่านบัตรเครดิตได้ทาง GWM Application โดยจะมีการตัดวงเงินบัตรเครดิตขั้นต่ำจำนวน 500 บาท และจะเรียกเก็บค่าใช้จ่ายตามจริงหลังจากที่ลูกค้าชาร์จไฟเสร็จ