Last updated: 15 Aug 2023 | 1539 Views |
นับตั่งแต่ตลาด EV บูม มูลค่าตลาดของแบตเตอรี่อีวีก็พลอยพุ่งพรวดตามไปด้วย
มูลค่าตลาดแบตเตอรี่ทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากระดับ 50,120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,744,852,620 ล้านล้านบาท ในปี 2021 คาดว่าจะพุ่งขึ้นไปสูงถึง 225,550 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 7,852,636,025 ล้านล้านบาท ภายในปี 2030 หรือคิดเป็น 18.9% ต่อปี (CAGR) ตามการคาดการณ์ของ Polaris Market Research
สิ่งที่น่าสนใจอยู่ที่ “เอเชีย” ซึ่งกำลังจะกลายเป็น HUB สำหรับการผลิตแบตเตอรี่ EV ของโลก
ยิ่งไปกว่านั้น 2 ใน 5 ผู้ผลิตแบตเตอรี่ยักษ์ใหญ่ของโลก “กำลังปักหมุด” เตรียมเดินหน้าตั้งโรงงานอยู่ในประเทศไทย
มาดูกันว่าเป็นใคร และใหญ่บิ๊กบะล่ะฮึ่มแค่ไหน...
CATL ผู้ผลิตแบตเตอรี่ EV อันดับ 1 ของโลก
CATL หรือ Contemporary Amperex Technology จับมือกับ บริษัท อรุณ พลัส จำกัด (Arun Plus) บริษัทในกลุ่มปตท. ร่วมจัดตั้งโรงงานประกอบแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบ Cell-To-Pack (CTP)* ในประเทศไทย พร้อมแผนการผลิตแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าทุกประเภทด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง สู่เป้าหมายการเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ครบวงจรในอาเซียน โดยจะเดินสายการผลิตในปี 2024
*แบตเตอรี่ Cell-To-Pack (CTP) เป็นการเชื่อมต่อรวมเซลล์ทั้งหมดเป็น Battery Pack โดยไม่แบ่ง module ทำให้ประหยัดพื้นที่ เพิ่มความจุพลังงาน ช่วยให้รถวิ่งได้ในระยะทางไกลขึ้น
เทคโนโลยีล่าสุดของ CATL คือ ฉีหลิน (Qilin) ซึ่งเป็นเทคโนโลยี CTP รุ่นที่ 3 กับประสิทธิภาพการใช้ความจุทำลายสถิติที่ 72% มีความหนาแน่นของพลังงานสูงสุดถึง 255 Wh/kg ทำให้แบตเตอรี่ส่งกำลังได้เป็นระยะทางมากกว่า 1,000 ก.ม.
BYD ผู้ผลิตแบตเตอรี่อันดับ 3 ของโลก
BYD มีแผนก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ชนิดพิเศษ (Blade Battery) ในประเทศไทย โดยจะเป็นครั้งแรกในการนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้ในฐานการผลิตนอกประเทศจีน
นวัตกรรม Blade Battery สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า มีลักษณะบาง ซึ่งตรงตามความหมายของคำว่า “Blade” ที่แปลว่า ใบมีด แบตเตอรี่ชนิดนี้มีคุณสมบัติระบายความร้อนได้ดี และกักเก็บพลังงานได้สูงกว่าแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไป และที่สำคัญที่สุดคือมีความปลอดภัยสูง
สำหรับบีโอไอในฐานะหน่วยงานภาครัฐ ก็มีบทบาทช่วยผลักดันให้เกิดการผลิตและการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในไทย โดยเปิดให้การส่งเสริมการลงทุนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามาตั้งแต่ปี พ.ศ.2560 ซึ่งในปัจจุบันบีโอไอไอได้ให้การส่งเสริมการผลิตยานพาหนะไฟฟ้าทุกประเภท รวมไปถึงการผลิตแพลตฟอร์มสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า
ตลอดจนการผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์สำหรับยานพาหนะไฟฟ้า ที่ครอบคลุมถึงการผลิตแบตเตอรี่ หรือแม้แต่กิจการสถานีบริการอัดประจุไฟฟ้าและสถานีบริการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่สำหรับยานพาหนะไฟฟ้า เพื่อให้ประเทศไทยเกิด ecosystem สำหรับอุตสาหกรรมยายนต์ไฟฟ้า ซึ่งถึง ณ ขณะนี้ไทยก็เป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่มีการส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างครบวงจร
นี่จึงเป็นโอกาสของไทยในการขยับขึ้นเป็น EV HUB หรือ ‘ศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าแห่งเอเชีย’
เพราะ “เบอร์ 1” กับ “เบอร์ 3” ของโลกก็ดาหน้ามาตั้งฐานผลิตที่นี่เรียบร้อยโรงเรียนจีน