Last updated: 18 Aug 2023 | 685 Views |
วันพุธที่ 24 พฤษภาคม 2566 นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และนายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ร่วมแถลงข่าวเปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนเมษายน 2566 ว่าจำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนเมษายน 2566 มีทั้งสิ้น 117,636 คัน ลดลงร้อยละ 0.13 ขาย 59,530 คัน ลดลงร้อยละ 6.14 ส่งออก 79,940 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 43.53
พร้อมกันนั้นยังได้กล่าวแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองว่าทางสอท.หวังว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่โดยเร็วเพื่อความต่อเนื่องทางเศรษฐกิจ
การผลิต
จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนเมษายน 2566 มีทั้งสิ้น 117,636 คัน ลดลงจากเดือนเมษายน 2565 ร้อยละ 0.13 จากการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศที่ลดลงร้อยละ 11.31 แต่ผลิตเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.04 และลดลงจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 34.59 เพราะวันทำงานน้อยกว่า
จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม – เมษายน 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 625,423 คัน และเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – เมษายน 2565 ร้อยละ 4.61
รถยนต์นั่ง เดือนเมษายน 2566 ผลิตได้ 40,366 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2565 ร้อยละ 10.54
ยอดผลิตของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม – เมษายน 2566 มีจำนวน 219,870 คัน เท่ากับร้อยละ 35.16 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – เมษายน 2565 ร้อยละ 27.11
รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนเมษายน 2566 ผลิตได้ 14 คันเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 100 รวมเดือนมกราคม – เมษายน 2566 ผลิตได้ 46 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 100
รถยนต์บรรทุก เดือนเมษายน 2566 ผลิตได้ทั้งหมด 77,256 คัน ลดลงจากเดือนเมษายน 2565 ร้อยละ 4.94และตั้งแต่เดือนมกราคม – เมษายน 2566 ผลิตได้ทั้งสิ้น 405,507 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – เมษายน 2565 ร้อยละ 4.56
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนเมษายน 2566 ผลิตได้ทั้งหมด 75,148 คัน ลดลงจากเดือนเมษายน 2565 ร้อยละ 4.38 และตั้งแต่เดือนมกราคม – เมษายน 2566 ผลิตได้ทั้งสิ้น 395,382 คัน เท่ากับร้อยละ 63.22 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม – เมษายน 2565 ร้อยละ 4.07 โดยแบ่งเป็น
รถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน – มากกว่า 10 ตัน เดือนเมษายน 2566 ผลิตได้ 2,108 คัน ลดลงจากเดือนเมษายน 2565 ร้อยละ 21.28 รวมเดือนมกราคม – เมษายน 2566 ผลิตได้ 10,125 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – เมษายน 2565 ร้อยละ 20.32
ผลิตเพื่อส่งออก
เดือนเมษายน 2566 ผลิตได้ 67,907 คัน เท่ากับร้อยละ 57.73 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2565 ร้อยละ 10.04 ส่วนเดือนมกราคม – เมษายน 2566 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 356,037 คัน เท่ากับร้อยละ 56.93 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 11.40
รถยนต์นั่ง เดือนเมษายน 2566 ผลิตเพื่อการส่งออก 19,796 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2565 ร้อยละ 21.06 และตั้งแต่เดือนมกราคม – เมษายน 2566 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 98,410 คัน เท่ากับร้อยละ 44.76 ของยอดผลิตรถยนต์นั่ง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – เมษายน 2565 ร้อยละ 32.29
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนเมษายน 2566 มียอดการผลิตเพื่อการส่งออก 48,111 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2565 ร้อยละ 6.06 และตั้งแต่เดือนมกราคม – เมษายน 2566 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 257,627 คัน เท่ากับร้อยละ 65.16 ของยอดการผลิตรถกระบะ เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – เมษายน 2565 ร้อยละ 5.06 โดยแบ่งเป็น
ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ
เดือนเมษายน 2566 ผลิตได้ 49,729 คัน เท่ากับร้อยละ 42.27 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนเมษายน 2565 ร้อยละ 11.31 และเดือนมกราคม – เมษายน 2565 ผลิตได้ 269,386 คัน เท่ากับ ร้อยละ 43.07 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม – เมษายน 2565 ร้อยละ 3.19
รถยนต์นั่ง เดือนเมษายน 2566 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 20,570 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2565 ร้อยละ 2.01 และตั้งแต่เดือนมกราคม – เมษายน 2565 ผลิตได้ 121,460 คัน เท่ากับร้อยละ 55.24 ของยอดการผลิตรถยนต์นั่ง โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม – เมษายน 2565 แล้ว เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.20
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนเมษายน 2566 มียอดการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 27,037 คัน ลดลงจากเดือนเมษายน 2565 ร้อยละ 18.64 และตั้งแต่เดือนมกราคม – เมษายน 2566 ผลิตได้ทั้งสิ้น 137,755 คัน เท่ากับร้อยละ 34.84 ของยอดการผลิตรถกระบะ แต่ลดลงจากเดือนมกราคม – เมษายน 2565 ร้อยละ 17.49 ซึ่งแบ่งเป็น
รถจักรยานยนต์
เดือนเมษายน 2566 ผลิตรถจักรยานยนต์ได้ทั้งสิ้น 169,293 คัน ลดลงจากเดือนเมษายน 2565 ร้อยละ 2.80 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 140,444 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 7.42 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 28,849 คัน แต่ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 33.57
ยอดการผลิตรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม – เมษายน 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 855,380 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 4.39 โดยแยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 721,122 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 16.31 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 134,258 คัน ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 32.67
ยอดขาย
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนเมษายน 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 59,530 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 25.53 และลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว ร้อยละ 6.14 จากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงิน เนื่องจากหนี้ครัวเรือนอยู่ในอัตราสูงและอัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้นเพิ่มขึ้นอีก
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 123,959 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2565 ร้อยละ 32.80 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2565 ร้อยละ 1.73
ตั้งแต่เดือนมกราคม – เมษายน 2566 รถยนต์มียอดขาย 276,603 คัน ลดลงจากปี 2565 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 6.11 ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 630,525 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – เมษายน 2565 ร้อยละ 10.62
การส่งออก
รถยนต์สำเร็จรูป
เดือนเมษายน 2566 ส่งออกได้ 79,940 คัน ลดลงจากเดือนที่แล้ว ร้อยละ 18.74 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2565 ร้อยละ 43.53 เพราะผลิตรถยนต์นั่งและรถกระบะเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 21.06 และ 6.06 ตามลำดับจากฐานต่ำของปีที่แล้วเนื่องจากขาดแคลนชิปจากสงครามยูเครนและการระบาดของโควิด-19 ในประเทศจีน เดือนเมษายนจึงส่งออกเพิ่มขึ้นในตลาดเอเชีย ออสเตรเลีย ตะวันออกออกกลาง แอฟริกา และยุโรปมูลค่าการส่งออก 50,164.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2565 ร้อยละ 49.83
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนเมษายน 2566 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 65,482.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2565 ร้อยละ 17.40
เดือนมกราคม – เมษายน 2566 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 353,632 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 18.38 มีมูลค่าการส่งออก 218,286.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – เมษายน 2565 ร้อยละ 22.88 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมกราคม – เมษายน 2566 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 293,549.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – เมษายน 2565 ร้อยละ 7.38
รถจักรยานยนต์
เดือนเมษายน 2566 มีจำนวนส่งออก 63,375 คัน (รวม CBU + CKD) ลดลงจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 16.66 และลดลงจากเดือนเมษายน 2565 ร้อยละ 9.82 โดยมีมูลค่า 5,379.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2565 ร้อยละ 10.38
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์ เดือนเมษายน 2566 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ 5,701.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2565 ร้อยละ 10.84
เดือนมกราคม – เมษายน 2566 รถจักรยานยนต์ มีจำนวนส่งออก 304,574 คัน (รวม CBU + CKD) ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 9.45 แต่มีมูลค่า 24,875.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 6.46
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม – เมษายน 2566 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 26,570.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – เมษายน 2565 ร้อยละ 7.14
เดือนเมษายน 2566 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่น ๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 71,183.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 16.85
เดือนมกราคม – เมษายน 2566 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 320,120.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 7.36
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนเมษายน 2566
เดือนเมษายน 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 5,181 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายนปีที่แล้วร้อยละ 320.88 โดยแบ่งเป็
เดือนมกราคม – เมษายน 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 26,233 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – เมษายนปีที่แล้วร้อยละ 534.41 โดยแบ่งเป็น
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท HEV เดือนเมษายน 2566
เดือนเมษายน 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 6,198 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายนปีที่แล้วร้อยละ 31.62 โดยแบ่งเป็น
เดือนมกราคม – เมษายน 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 30,634 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – เมษายนปีที่แล้วร้อยละ 40.97 โดยแบ่งเป็น
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท PHEV เดือนเมษายน 2566
เดือนเมษายน 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 784 คัน ลดลงจากเดือนเมษายนปีที่แล้วร้อยละ 6.33 โดยแบ่งเป็น
เดือนมกราคม – เมษายน 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 4,172 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – เมษายนปีที่แล้วร้อยละ 9.62 โดยแบ่งเป็น
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 30 เมษายน 2566
ณ วันที่ 30 เมษายน 2566 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV มีจำนวนทั้งสิ้น 58,228 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 276.30 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
รถโดยสารมีจำนวนทั้งสิ้น 1,915 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 98
รถบรรทุกมีจำนวนทั้งสิ้น 79 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 1,216.67
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV ณ วันที่ 30 เมษายน 2566
ณ วันที่ 30 เมษายน 2566 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV มีจำนวนทั้งสิ้น 290,035 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 32.99 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
รถโดยสารมีจำนวนทั้งสิ้น 2 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 100
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV ณ วันที่ 30 เมษายน 2566
ณ วันที่ 30 เมษายน 2566 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV มีจำนวนทั้งสิ้น 46,532 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 33.18 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้