Last updated: 13 มี.ค. 2568 | 69 จำนวนผู้เข้าชม |
AION Thailand สร้างปรากฏการณ์ใหม่ คว้ายอดจดทะเบียนอันดับ 1 และอันดับ 2 ในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า C-SUV ในรุ่น AION V และ AION Y Plus ตามลำดับ และคว้าตำแหน่ง ยอดจดทะเบียนอันดับ 1 รถยนต์ไฟฟ้า Premium SUV ในรุ่น HYPTEC HT ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันในส่วนของยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้ารวม AION Thailand มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 885 คัน นับเป็นยอดจดทะเบียนสูงเป็นอันดับที่ 2 ในกลุ่มแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย แสดงถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีและดีไซน์ที่ตอบโจทย์การขับขี่แห่งอนาคต โดยยอดจดทะเบียนทั้งหมดแบ่งออกเป็นรถรุ่นต่างๆ ดังต่อไปนี้
• AION V ยอดจดทะเบียน 439 คัน
• AION V ยอดจดทะเบียน 439 คัน
• AION Y Plus ยอดจดทะเบียน 152 คัน
• AION ES ยอดจดทะเบียน 29 คัน
• HYPTEC HT ยอดจดทะเบียน 264 คัน
• HYPTEC SSR ยอดจดทะเบียน 1 คัน
เมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา AION Thailand ได้รับรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่ง CAR OF THE YEAR 2025 จากบริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) จำนวน 2 รางวัล จากรถยนต์ไฟฟ้า 2 รุ่นดังนี้
• AION V ได้รับรางวัล BEST SUV EV (FWD)
• HYPTEC HT ได้รับรางวัล THE MOST VALUABLE & LUXURY SUV EV
“การได้รับรางวัลนี้ถือเป็นการยืนยันความสำเร็จของ AION Thailand ในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าที่มีคุณภาพทั้งในด้านนวัตกรรม, การออกแบบ, และการผลิต บ่งบอกถึงความยอมรับอย่างกว้างขวางของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทย และสะท้อนถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของเราในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค” นายหวัง เฮ่าวหย่ง (Mr. Wang HaoYong) ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอออน ออโตโมบิล เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
AION Thailand ไม่เพียงแต่มุ่งเน้นการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าที่ล้ำสมัยและมีคุณภาพสูง แต่ยังให้ความสำคัญกับ "การดูแลลูกค้าในทุกช่วงเวลา" เพราะเราเชื่อว่าความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และลูกค้า ไม่ได้จบลงเพียงแค่การส่งมอบรถยนต์ แต่คือการดูแลลูกค้าอย่างดีที่สุดตลอดอายุการใช้งาน รวมทั้งให้ความสำคัญกับบริการหลังการขายที่ครอบคลุม และการรับประกันให้ลูกค้าสามารถใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างไร้กังวล พร้อมด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย
นอกจากนี้ GAC AION ยังได้ลงทุนด้วยเม็ดเงินกว่า 2,300 ล้านบาท สร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ที่นิคมอมตะซิตี้ ระยอง สำหรับผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย รวมถึงยังมีความร่วมมือกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ในการศึกษาระบบเชื่อมต่อและความเข้ากันได้ระหว่างเครื่องอัดประจุไฟฟ้าของ GAC Energy กับ PEA VOLTA เพื่อให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้ชื่อ PEA VOLTA ทั้งยังได้ผนึกกำลังกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เปิดศูนย์ Training Center แห่งแรกในไทย พัฒนาและผลักดันบุคลากรในประเทศให้มีคุณภาพ เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยในอนาคตต่อไป
GAC Group เป็นบริษัทแม่ของ GAC AION ที่ได้รับการจัดอันดับใน Fortune Global 500 ต่อเนื่องถึง 12 ปี โดยในปี 2024 อยู่ที่อันดับ 181 มีบุคลากรระดับแนวหน้ากว่า 100,000 คน จาก 15 ประเทศทั่วโลก รวมถึงทีมวิจัยและพัฒนา 6,000 คน ที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ด้วยสิทธิบัตรกว่า 18,600 รายการ และนวัตกรรมที่จดสิทธิบัตรกว่า 7,600 รายการ พร้อมศักยภาพด้านการผลิตที่แข็งแกร่ง ด้วยยอดขายกว่า 2.5 ล้านคันในปี 2023 ติดอันดับ 4 ของอุตสาหกรรมยานยนต์จีน
ปัจจุบัน GAC Group มีแบรนด์รถยนต์ในเครือที่แยกเป็นอิสระ 3 แบรนด์ ได้แก่ AION, HYPTEC และ GAC Motor ที่สำคัญ GAC Group ยังเป็นพันธมิตรระยะยาวกับ HONDA และ TOYOTA ผ่านบริษัทร่วมทุน GAC HONDA และ GAC TOYOTA พร้อมสร้างเครือข่ายธุรกิจครบวงจร ตั้งแต่การผลิตและพัฒนา R&D Centers ในจีน สหรัฐฯ และอิตาลี ไปจนถึงการขยายตลาดสู่ 74 ประเทศทั่วโลก ทั้งยังมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานใหม่ ด้วยการใช้ Big Data ขับเคลื่อนโซลูชันพลังงานอัจฉริยะ พร้อมระบบ AI สำหรับการขนส่งที่มีความแม่นยำสูงถึง 95%
13 มี.ค. 2568