ชีวิตน่ะควรใช้ให้เต็มร้อย แต่การชาร์จแบตฯรถ EV คันเก่งไม่ต้องเต็มร้อยเปอร์เซนต์ก็ได้ แค่อย่าปล่อยไหลถึง 0 เป็นพอ นี่คือคำแนะนำของ “อรุณ พลัส”...
เพจ ARUN PLUS แกนหลักธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ EV ของ ปตท. ระบุว่า แบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้าเป็นชิ้นส่วนสำคัญที่มีต้นทุนคิดเป็น 1 ใน 3 ของราคารถ โดยปกติแบตฯ จะมีอายุการใช้งานประมาณ 8-15 ปี และจะเริ่มสูญเสียความสามารถในการกักเก็บไฟฟ้าไปเรื่อยๆ ตามการใช้งาน “อรุณ พลัส” ทำ Do & Don't ของคนใช้งาน EV เพื่อรักษาแบตฯ ให้อยู่กับรถไปนานๆ มีอะไรบ้างไปดูกันเลย
ควรชาร์จแบตฯ ให้อยู่ระหว่าง 80-90%
ไม่ควรชาร์จจนเต็ม 100%
- เพราะการชาร์จแบตฯ จนเต็ม จะทำให้แบตฯ เกิดความเครียดมากขึ้น แบตฯทำงานมากขึ้น อายุการใช้งานก็อาจสั้นลง
ควรเหลือแบตฯรถไว้อย่างน้อย 20%ไม่ควรปล่อยให้แบตฯ รถเหลือ 0% จึงค่อยชาร์จ- เพราะถ้าแบตฯ เหลือ 0% แล้วค่อยชาร์จ จะใช้เวลาชาร์จนานขึ้น ร้อนมากขึ้น ส่งผลให้แบตฯ ทำงานหนักขึ้น
ควรจอดรถและชาร์จไฟในที่ร่มหลีกเลี่ยงการจอดรถและชาร์จไฟในพื้นที่อุณหภูมิสูงจัด- เพราะแบตฯ จะร้อนเกินไป เนื่องจากได้รับความร้อนทั้งจากการชาร์จและสภาพอากาศ อาจส่งผลให้เซลล์แบตฯ เสียหาย อายุการใช้งานแบตฯ ยิ่งสั้นลง
ควรถอดปลั๊กหลังชาร์จเสร็จไม่จำเป็นต้องชาร์จแบตฯ รถทุกวัน- เพราะการเสียบปลั๊กชาร์จค้างไว้ แม้แบตฯ รถจะเต็มแล้ว จะทำให้แรงดันไฟแบตฯ ตก เซลล์แบตฯ จะทำงานได้ไม่เหมาะสม อายุการใช้งานแบตฯ จะสั้นลง เช่นเดียวกับการชาร์จแบตฯ รถ ควรชาร์จเมื่อแบตฯเหลือประมาณ 20% มากกว่าการชาร์จแบตฯรถทุกวัน เพราะในทุกรอบการชาร์จ เซลล์แบตฯ จะค่อยๆ เสื่อมลง ยิ่งมีรอบการชาร์จมาก แบตฯ ก็ยิ่งเสื่อมเร็วมากขึ้น
เพียงปรับพฤติกรรมเล็กน้อย ก็ช่วยยืดอายุการใช้งานแบตฯ ได้นานขึ้น สามารถใช้งานแบตฯ ได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้นแล้ว
ที่มา : เพจ ARUN PLUS