Last updated: 17 ก.พ. 2568 | 402 จำนวนผู้เข้าชม |
BMW เปิดปฏิบัติการทดสอบ “Heart of Joy” กล่องคอนโทรลเจนเนอเรชั่นใหม่ที่มีพลังการประมวลผลเร็วกว่าเวอร์ชั่นเก่า 10 เท่า ลดความล่าช้าลงเหลือระดับเพียงมิลลิวินาที ช่วยลดการใช้เบรก เพิ่มประสิทธิภาพการฟื้นพลังงาน และช่วยให้ประหยัดพลังงานขึ้น 25% โดยใช้ BMW Vision Driving Experience ยนตรกรรมไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่บีเอ็มดับเบิลยูเคยพัฒนาขึ้นมาเพื่อทำการทดสอบความทนทานขั้นสูงสุดโดยเฉพาะ หลังจากนั้น “ฮาร์ทออฟจอย” จะถูกนำไปติดตั้งใน NEUE KLASSE ขุมพลังไฟฟ้า 100% ที่กำลังจะเข้าสู่ไลน์การผลิตในช่วงปลายปีนี้ที่เมืองเดเบรเซน ประเทศฮังการี
Heart of Joy : next-generation control unit for driving dynamics
“Heart of Joy” คือ กล่องคอนโทรล (Control Unit) เจนเนอเรชั่นใหม่ เป็นนวัตกรรมที่รวมฟังก์ชันระบบส่งกำลังและการขับขี่แบบไดนามิกไว้ด้วยกัน เป็นหัวใจในการคอนโทรลฟังก์ชันต่างๆของระบบส่งกำลัง เบรก การชาร์จ การฟื้นคืนพลังงาน (recuperation) และการบังคับเลี้ยว มีพลังการประมวลผลข้อมูลเร็วกว่าเวอร์ชั่นเก่าถึง 10 เท่า และเมื่อใช้ร่วมกับซอฟต์แวร์ของ BMW Dynamic Performance Control ก็จะทำให้ความเพลิดเพลินในการขับขี่ก้าวไปสู่อีกระดับ
ในขณะที่ระบบทั่วไปทำงานด้วยอัลกอริธึมควบคุมระบบขับเคลื่อนและเบรกแยกจากกัน แต่ “Heart of Joy” จะผสานทั้งสองอย่างไว้ในหน่วยเดียว ช่วยลดความล่าช้าลงเหลือระดับเพียงมิลลิวินาที (milliseconds) และใช้ประโยชน์จากศักยภาพการควบคุมทั้งหมดของระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าอันทรงพลังได้ดียิ่งขึ้น
หน่วยควบคุมใหม่ที่ประกอบด้วย “Heart of Joy” และ BMW Dynamic Performance Control จะช่วยให้เข้าโค้งได้นุ่มนวลและง่ายดาย ใช้อินพุตในการควบคุมน้อยลงและทำให้เข้าโค้งได้แม่นยำและเสถียรยิ่งขึ้น เมื่อขับด้วยความเร็วต่ำ เช่น ขณะหยุด-ออกรถ หรือจอดรถ การส่งสัญญาณโดยตรงและการประมวลผลข้อมูลอย่างรวดเร็วช่วยให้ประสบการณ์การขับขี่ราบรื่น
การฟื้นฟูพลังงานช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (RECUPERATION BOOSTS ENERGY EFFICIENCY.)
นั่นไม่ใช่ทั้งหมดที่ “Heart of Joy” ทำได้ ด้วยการเชื่อมโยงระบบส่งกำลัง การเบรก และการฟื้นพลังงานอย่างชาญฉลาด ทำให้สามารถใช้พลังงานได้อย่างยั่งยืนมากขึ้น อย่างเช่น ในการขับขี่ปกติในแต่ละวัน พลังเบรกของเบรกฟื้นฟูพลังงานก็เพียงพอ โดยไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานเพิ่มเติมจากเบรกแบบเดิมถึง 98 เปอร์เซ็นต์ เบรกจำเป็นต้องใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น ดังนั้น เมื่อระบบขับเคลื่อนและฟังก์ชันการเบรกทำงานร่วมกันเพื่อฟื้นฟูพลังงาน ระบบจะเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานได้มากถึง 25 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งส่งผลให้ได้ระยะทางวิ่งต่อชาร์จเพิ่มขึ้น
Frank Weber สมาชิกคณะกรรมการบริหารของ BMW AG ที่รับผิดชอบด้านการพัฒนาได้สรุปสถานการณ์นี้อย่างเหมาะสมว่า “นี่คือพลวัตที่มีประสิทธิภาพยกกำลังสอง”
นอกจากนี้โรงงาน Steyr ของ BMW Group ที่ออสเตรีย ยังส่งมอเตอร์ไฟฟ้ารุ่นใหม่แกะกล่องตัวแรก บินลัดฟ้าไปถึง Debrecen ฮังการี เพื่อนำไปติดตั้งในรถทดสอบของ Neue Klasse
นี่คือก้าวสำคัญของ BMW ในการขับเคลื่อนสู่ยุค Neue Klasse ซึ่งจะเป็นอนาคตของ BMW EVs ที่น่าจับตา
BMW Vision Driving Experience ที่มีแรงบิดสูงสุด 17,990 Nm คันนี้ไม่ได้มีไว้สำหรับการผลิตเป็นซีรีส์ออกขาย แต่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ทดสอบกล่องอัจฉริยะ “Heart of Joy” โดยเฉพาะ
อ้างอิง : https://b.mw/McW29A
ที่มา : BMW