X

ดีเอชแอล ปักหมุด DHL International Multimodal Hub ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ยกระดับอุตฯขนส่งและโลจิสติกส์ไทยเป็นฮับของภูมิภาค

Last updated: 12 พ.ย. 2567  |  252 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ดีเอชแอล ปักหมุด “DHL International Multimodal Hub” ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ดีเอชแอล โกลเบิล ฟอร์เวิร์ดดิ้ง ประเทศไทย เปิดตัว “DHL International Multimodal Hub” ให้บริการขนส่งระหว่างประเทศแบบมัลติโมดอลบนพื้นที่ 480 ตารางเมตร ภายในศูนย์การขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ เขตปลอดอากร 3 สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเชื่อมโยงทางการค้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยกระดับอุตสาหกรรมการขนส่งและโลจิสติกส์ของไทยให้เป็นศูนย์กลางระดับภูมิภาค

ก่อนหน้านี้ บริษัท บริการภาคพื้น ท่าอากาศยานไทย จำกัด (AOTGA) ร่วมกับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) และกรมศุลกากรไทย จัดตั้งศูนย์การขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ (Multimodal Transportation Center) ซึ่งเป็นสถานที่ที่มุ่งเน้นการอำนวยความสะดวกด้านการค้าด้วยมาตรการควบคุมทางศุลกากรที่มีประสิทธิภาพ และยกระดับอุตสาหกรรมการขนส่งและโลจิสติกส์ของประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางระดับภูมิภาค


คุณวินเซนต์ ยง กรรมการผู้จัดการ ดีเอชแอล โกลเบิล ฟอร์เวิร์ดดิ้ง ประเทศไทย เปิดเผยว่า ภายในศูนย์ดังกล่าว DHL Global Forwarding Thailand เป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเพียงรายเดียวที่พร้อมด้วยคลังสินค้าพิเศษภายในศูนย์ บนพื้นที่กว่า 480 ตารางเมตร ทำให้ลูกค้าสามารถใช้บริการขนส่งแบบผสมผสานได้อย่างครบวงจร ตอบโจทย์การขนส่งที่หลากหลายรูปแบบ หรือ Multimodal ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งทางรถ ทางอากาศ หรือทางทะเล ช่วยให้การขนส่งสินค้าเข้า-ออกประเทศเป็นไปอย่างรวดเร็ว สะดวกสบาย ไร้รอยต่อ ช่วยให้ลูกค้าประหยัดเวลา ลดขั้นตอน และมีความคล่องตัวในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วยให้กระบวนการศุลกากรเป็นเรื่องง่ายตอบโจทย์แบบครบวงจร“


หนึ่งในข้อได้เปรียบหลักของ DHL International Multimodal Hub คือ การเป็นศูนย์กลางขนส่งแบบครบวงจรของ DHL ลูกค้าสามารถดำเนินกระบวนการศุลกากรได้อย่างรวดเร็วภายในกรุงเทพฯ ลดขั้นตอนแบบเดิมที่ต้องเดินทางเพื่อไปดำเนินการยังจุดชายแดน ทำให้สินค้าถึงมือผู้รับปลายทางได้เร็วขึ้น ลดระยะเวลาในการขนส่ง และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ”

สิทธิประโยชน์เมื่อใช้บริการที่ DHL International Multimodal Hub  :
  • ความยืดหยุ่นในการเปลี่ยนรูปแบบการขนส่ง
  • การยกเว้นเอกสาร Exporter of Record / Importer of Record สำหรับการขนส่งผ่านแดนและการขนส่งแบบ Multimodal
  • บริการขั้นตอนทางศุลกากรตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงการจัดการสินค้าที่ต้องการเอกสารเฉพาะและการอำนวยความสะดวกในการชำระภาษีและอากรในท้องถิ่น
  • มีระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูง เช่น กล้องวงจรปิด (CCTV) เซนเซอร์ตรวจจับและกรงนิรภัยสำหรับสินค้ามูลค่าสูง
  • การจัดการใบอนุญาตการขนส่งที่ง่ายดาย โดยสินค้าสามารถนำเข้ามาเก็บไว้ในศูนย์ได้ภายใต้แนวคิด "ศูนย์บริการครบวงจร" ซึ่งช่วยให้กระบวนการต่าง ๆ ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพในระหว่างที่รอเอกสาร ตัวอย่างสินค้า และการตรวจสอบ


เปลี่ยนมุมมอง Landlock สู่ Landlink สร้าง "จุดเชื่อมต่อที่สำคัญ" ในภูมิภาค

DHL International Multimodal Hub ได้ผลักดันการเชื่อมโยงทางการค้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเครือข่าย DHL Asiaconnect และ DHL Asiaconnect+ ซึ่งเป็นเครือข่ายการขนส่งแบบ LTL (Less Than Truckload) ของ DHL ด้วยศูนย์กลางการขนส่งแบบครบวงจรของ DHL ที่ประเทศไทย ทำให้การขนส่งสินค้าระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินโดจีน และจีน เป็นไปอย่างราบรื่นและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับประเทศลาว ด้วยแนวคิดเปลี่ยนมุมมอง Landlock สู่ Landlink ช่วยสร้าง "จุดเชื่อมต่อที่สำคัญ" ในภูมิภาค โดยคำนึงถึงการเชื่อมโยงกับผู้คนในท้องถิ่นตามแนวคิด  “thinking local, acting local” เน้นถึงความสำคัญของการขนส่งทางถนนอันเป็นส่วนหนึ่งของโซลูชันการขนส่งแบบมัลติโมดอล (Multimodal)



“ในช่วงการแพร่ระบาดโควิด 19 ความสามารถในการขนส่งที่จำกัด อัตราค่าขนส่งทางทะเลและทางอากาศที่สูง รวมถึงการปิดท่าเรือและสนามบิน ได้ผลักดันให้ลูกค้าหันมาใช้การขนส่งทางถนนมากขึ้น ขณะนี้เมื่อสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติแล้ว ลูกค้าก็ยังคงเห็นถึงความสำคัญของการขนส่งทางถนน โดยเฉพาะในภูมิภาคนี้

การขนส่งทางถนนมีบทบาทสำคัญในโซลูชันการขนส่งแบบ Multimodal โดยเฉพาะเมื่อต้องขนส่งสินค้าภายในภูมิภาคหรือกับประเทศจีน การขนส่งสินค้าผ่านรูปแบบการขนส่งแบบผสม เช่น ทางรถไฟและทางถนน สามารถช่วยลดระยะเวลา Door-to-Door (DTD) ได้เร็วกว่าการขนส่งทางทะเล และมีต้นทุนต่ำกว่าการขนส่งทางอากาศ” คุณบรูโน เซลโมนี รองประธานฝ่ายการขนส่งทางถนนและโซลูชันมัลติโมดอล ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท ดีเอชแอล โกลบอล ฟอร์เวิร์ดดิ้ง กล่าว


ซ้าย : นายวินเซนต์ ยง กรรมการผู้จัดการ ดีเอชแอล โกลเบิล ฟอร์เวิร์ดดิ้ง ประเทศไทย ขวา: นายบรูโน เซลโมนี รองประธานฝ่ายการขนส่งทางถนนและโซลูชันมัลติโมดอล ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดีเอชแอล โกลบอล ฟอร์เวิร์ดดิ้ง

เกี่ยวกับ DHL – The logistics company for the world

ดีเอชแอล (DHL) เป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลกในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ หน่วยธุรกิจของดีเอชแอลนำเสนอผลงานบริการโลจิสติกส์ที่ครอบคลุมหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการจัดส่งพัสดุภายในประเทศและระหว่างประเทศ บริการขนส่งและโซลูชันการจัดการคำสั่งซื้อในอีคอมเมิร์ซ การขนส่งด่วนระหว่างประเทศ การขนส่งทางถนน ทางอากาศ และทางทะเล ไปจนถึงการบริหารจัดการซัพพลายเชนอุตสาหกรรม ด้วยจำนวนพนักงานประมาณ 395,000 คนในกว่า 220 ประเทศและเขตปกครองทั่วโลก ดีเอชแอลเชื่อมโยงผู้คนและธุรกิจได้อย่างปลอดภัยและน่าเชื่อถือ ส่งเสริมการค้าที่ยั่งยืนทั่วโลก โดยโซลูชันเฉพาะทางสำหรับตลาดและอุตสาหกรรมที่เติบโต รวมถึงเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ชีวภาพและสุขภาพ วิศวกรรม การผลิตและพลังงาน ยานยนต์ และการค้าปลีก ดีเอชแอลจึงได้รับการยอมรับว่าเป็น “บริษัทโลจิสติกส์เพื่อโลก”

ดีเอชแอลเป็นส่วนหนึ่งของ DHL Group ซึ่งในปี 2023 DHL Group มีรายได้กว่า 81.8 พันล้านยูโร ด้วยการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืนและมุ่งมั่นใส่ใจต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม DHL Group มีบทบาทเชิงบวกต่อโลก โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นโลจิสติกส์ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050

ที่มา : DHL Global Forwarding Thailand


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้