Last updated: 8 พ.ย. 2567 | 65 จำนวนผู้เข้าชม |
ประธานนิสสัน มอเตอร์ เอเชีย แปซิฟิค และนิสสัน มอเตอร๋ ประเทศไทย เข้าพบ รมว.อุตสาหกรรม ยืนยันรักษาฐานผลิตรถยนต์ และรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย และพร้อมปรับตัวเข้ากับทิศทางนโยบายของรัฐบาลไทย
นายโทชิฮิโระ ฟูจิกิ ประธานบริษัท นิสสัน มอเตอร์ เอเซีย แปซิฟิค จำกัด และประธานบริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด และคณะเข้าพบ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อแสดงความยินดีในการเข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และขอรับทราบนโยบายเกี่ยวกับอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยมีนายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวไพลิน เทียนสุวรรณ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ประธานที่ปรึกษาคณะทำงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ด้านยุทธศาสตร์ นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายภาสกร ชัยรัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม และคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมหารือ ณ ห้องประชุม อก.1 ชั้น 2 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567
ในโอกาสเดียวกันนี้ “นิสสัน มอเตอร์” ได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินงานในประเทศไทย ซึ่งบริษัท ฯ ได้มีการก่อตั้งโรงงานประกอบรถยนต์ภายในประเทศ ณ จังหวัดสมุทรปราการ (บางนา - ตราด กม. 21) เพื่อผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล (Eco Car) จำนวน 4 รุ่น ได้แก่ Almera Kick Navara และ Terra โดยมีกำลังการผลิตรวม 240,000 คัน/ปี นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้มีการขยายกิจการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบผสม (Hybrid Electric Vehicle: HEV) และแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า รวมมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 10,960 ล้านบาท เพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบผสมรุ่น e-Power ซึ่งเดิมมีฐานการผลิตเพียงแห่งเดียวที่ประเทศญี่ปุ่น บริษัทฯ มีความตั้งใจที่จะรักษาฐานการผลิตในประเทศไทย โดยพร้อมที่จะปรับตัวให้เข้ากับทิศทางของนโยบายภาครัฐ และขยายการลงทุนต่อไปในอนาคต
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรมให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมยานยนต์ รวมทั้งรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในและรถยนต์ไฟฟ้า ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม เนื่องจากทั้งสองประเด็นจำเป็นต้องมีการดำเนินงานแบบบูรณาการร่วมกันอย่างสมดุลเพื่อให้สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจ และแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกันได้ ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมยินดีที่จะรับฟังข้อจำกัดและอุปสรรคจากการประกอบการ เพื่อนำมาหารือร่วมกันและกำหนดแนวทางในการแก้ไขอย่างยั่งยืน รวมทั้งผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นฐานการผลิตยานยนต์แห่งอนาคตที่สำคัญต่อไป
ที่มา : กระทรวงอุตสาหกรรม