Last updated: 6 พ.ย. 2567 | 154 จำนวนผู้เข้าชม |
Evolt Technology จับมือ Bolt Thailand สนับสนุนไรเดอร์ที่ใช้รถ EV ให้บริการรับ – ส่งผู้โดยสารผ่านแอปพลิเคชัน Bolt โดยมอบส่วนลดค่าชาร์จสูงสุด 600 บาท/เดือน ลูกค้าโบลท์ Tier Gold & Platinum ได้รับส่วนลดค่าชาร์จ 5% ทุกครั้งที่ใช้บริการที่สถานีชาร์จ Evolt ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนการให้บริการเรียกรถโดยสารสามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่การให้บริการด้วยยานยนต์ไฟฟ้าแบบเต็มรูป
ประเด็นสำคัญ
ผู้บริหาร Evolt Technology (อีโวลท์ เทคโนโลยี) และ Bolt Thailand (บริษัท โบลท์ ซัพพอร์ต เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด) ได้จับมือเป็นพันธมิตรเพื่อสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในเมืองไทยสำหรับกลุ่มไรเดอร์ หรือผู้ที่ประกอบอาชีพให้บริการรับ – ส่งผู้โดยสารผ่านทางแอปพลิเคชัน Bolt โดยมอบสิทธิพิเศษสำหรับ EV Rider เป็นส่วนลดค่าบริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
ความร่วมมือของทาง Evolt และ Bolt เกิดขึ้นได้จากการเล็งเห็นถึงความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมในเมืองไทย และหลังจากที่ทางโบลท์ได้เปิดตัว Bolt Green Category ในกรุงเทพฯ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำให้ได้ข้อมูลว่า ในปัจจุบันมีไรเดอร์ที่ใช้รถยนต์พลังงานทางเลือกให้บริการอยู่ ครอบคลุมทั้งรถยนต์ประเภทไฮบริดและรถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วน โดยในขณะนี้มีไรเดอร์ที่ใช้รถยนต์พลังงานทางเลือกให้บริการอยู่มากกว่า 2,000 คัน
ผู้จัดการประจำประเทศไทยของโบลท์กล่าวว่า “การจะทำให้บริการเรียกรถโดยสารสามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่การให้บริการด้วยยานยนต์ไฟฟ้าแบบเต็มรูป และทำให้การปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ (Zero Emissions) ได้นั้น จะต้องสร้างความเชื่อมั่นของผู้ขับขี่ที่มีต่อยานยนต์ไฟฟ้าให้ได้ก่อน หนึ่งในนั้นคือการส่งเสริมการเข้าถึงสถานีชาร์จไฟฟ้าในพื้นที่ต่าง ๆ การร่วมมือกับทาง Evolt ก็เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยขจัดความกังวลดังกล่าวนี้ได้ ทั้งยังช่วยเร่งการเปลี่ยนผ่านให้ผู้ขับขี่หันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าได้มากขึ้น ซึ่งก็จะทำให้การเรียกใช้บริการรถโดยสารไฟฟ้าเติบโตมากขึ้นตามไปด้วย”
ความร่วมมือกันระหว่าง Evolt และ Bolt จึงเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญ ที่จะช่วยสร้างสังคมที่ยั่งยืนผ่านการให้บริการรถโดยสารไฟฟ้า โดยเฉพาะทาง Bolt ที่เป็นผู้นำด้านการแบ่งปันยานพาหนะร่วมกัน หรือระบบการแบ่งปันบริการเคลื่อนที่ (Shared Mobility)
โดยการร่วมมือกันในครั้งนี้ ทางอีโวลท์และโบลท์ได้ร่วมกันหาแนวทางเพื่อสร้างแรงจูงใจต่อไรเดอร์ให้หันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ด้วยการมอบเครดิตเงินคืนและส่วนลดค่าชาร์จ ด้วยสิทธิพิเศษ “Bolt Rewards” ที่จะได้รับเมื่อใช้บริการที่สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Evolt ในพื้นที่ใดก็ได้ ซึ่งทางโบลท์จะมีการติด QR Code เอาไว้ที่ตู้ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของอีโวลท์ เพื่อประชาสัมพันธ์และเชิญชวนให้ผู้ที่ขับรถยนต์ไฟฟ้าที่สนใจเข้ามาสมัครสมาชิก Bolt และรับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม
นอกเหนือจากความร่วมมือดังกล่าว ทาง Bolt ยังได้สนับสนุนผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าด้วยการเพิ่มช่องทาง เพื่อให้เข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้าได้มากขึ้น ด้วยการผสานความร่วมมือกับทาง WATT’S UP ซึ่งเป็น e-Marketplace หรือผู้ให้บริการเช่ารถ EV Bike แบบครบวงจรผ่านทางแอปพลิเคชัน
โครงการ WATT’S UP นี้ เป็นการผนึกกำลังร่วมกันระหว่าง ธนาคารกสิกรไทย ไปรษณีย์ไทย และ เอซ เซม มอเตอร์ (HSEM) โดยผู้ที่สนใจสามารถจองและจ่ายเงินผ่านทางแอป โครงการดังกล่าวนี้นำร่องโดยการใช้กับพนักงานไปรษณีย์ไทย 3 สาขา ได้แก่ สาขาจตุจักร สาขาสามเสนใน และสาขานนทบุรี พร้อมเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้ใช้แพลตฟอร์มดังกล่าวในช่วงต้นปี 2567 ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ทาง Evolt และ Bolt ยังได้มีนโยบายต่าง ๆ เพื่อไรเดอร์ที่เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการดังกล่าวนี้ โดยเฉพาะการให้บริการสถานีชาร์จและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เพื่อไรเดอร์โดยเฉพาะ
1. Evolt มอบ Charging Credit สำหรับไรเดอร์ที่ใช้รถ EV
สำหรับไรเดอร์ที่รับงานผ่านทางแอปพลิเคชัน Bolt จะได้รับเครดิตการชาร์จผ่านทางแอป โดยเครดิตดังกล่าวสามารถนำมาใช้เป็นส่วนลดค่าชาร์จไฟรถไฟฟ้าที่สถานีชาร์จของ Evolt ได้ทุกสถานี โดยทางอีโวลท์มอบส่วนลดค่าชาร์จให้สูงสุดถึง 600 บาท/เดือน โดยทุก ๆการชาร์จครบ 200 kW จะได้รับเครดิตชาร์จคืน 200 บาท เพราะฉะนั้น ยิ่งไรเดอร์รับงานมากขึ้นก็ยิ่งได้รับเครดิตหรือส่วนลดมากขึ้นตามไปด้วย
2. ลูกค้า Bolt Tier Gold & Platinum รับส่วนลด 5%
นอกจากส่วนลดค่าชาร์จที่ไรเดอร์จะได้รับส่วนลดค่าชาร์จไฟรถไฟฟ้า 200 บาท ในการชาร์จไฟที่สถานีชาร์จครบทุก ๆ 200 kW แล้ว อีกหนึ่งสิทธิพิเศษที่มอบให้กับลูกค้าโบลท์ Tire Gold & Platinum คือจะได้รับส่วนลดค่าบริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า 5% ทุกครั้งที่ใช้บริการที่สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Evolt โดยสามารถใช้ได้ทั้งหัวชาร์จประเภท AC และ DC Charging ทั่วประเทศ
3. ใช้บริการสถานีชาร์จประเภท DC Charging ได้ทุกพื้นที่
Evolt มีความมุ่งมั่นที่จะขยายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยเฉพาะจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่มีหัวชาร์จประเภท DC Charging (การชาร์จรถแบบเร่งด่วน) เพื่อรองรับการชาร์จไฟในช่วงเวลาที่ไรเดอร์สามารถวิ่งงานได้มากขึ้น เช่น ช่วงเวลาเร่งด่วน หรือวันหยุด ที่มีผู้ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะเป็นจำนวนมาก ดังนั้น การชาร์จไฟในเวลาดังกล่าวก็ย่อมมีความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน
โดยปัจจุบัน Evolt มีพื้นที่ให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 250 แห่ง พร้อมจุดชาร์จที่มากกว่า 700 จุด โดยมีเครื่องชาร์จติดตั้งมากกว่า 20,000 เครื่อง และให้บริการลูกค้ามากกว่า 50,000 ราย และในอนาคตคาดว่าจะมีผู้ใช้บริการมากขึ้นตามการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในเมืองไทย
อย่างไรก็ตาม นโยบายและโครงการดังกล่าวที่ทาง Evolt และ Bolt ได้ร่วมมือกันนั้น นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่จะช่วยลดมลพิษในอากาศได้อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งยังเป็นแรงสนับสนุนให้กับไรเดอร์ที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้าให้มีความเชื่อมั่นต่อการใช้รถยนต์ EV ในการประกอบอาชีพ
ที่มา : Evolt