X

ยอดขายรถ xEV 8 เดือนแรกบวกถ้วนหน้า BEV เพิ่มขึ้น 14% HEV เด้งแรง 62%

Last updated: 25 ก.ย. 2567  |  232 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ยอดขายรถ xEV 8 เดือนแรก

สวนทางกับยอดขายรถยนต์สันดาปภายใน (ICE) ที่ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วเฉียด 40% ยอดขายรถ xEV 8 เดือนแรก มกราคม - สิงหาคม 2567 บวกถ้วนหน้า รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) มียอดขาย 47,645 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 13.86% PHEV 1,456 คัน ลดลง 8.14% HEV 84,625 คัน เพิ่มขึ้น 62.06%

  • ยอดผลิตรถ xEV 8 เดือนแรก มกราคม - สิงหาคม 2567 BEV 5,857 คัน เพิ่มขึ้น 3,857% PHEV 4,013 คัน ลดลง 42.84% HEV 124,684 คัน เพิ่มขึ้น 45.94%
  • ยอดส่งออกรถ HEV 8 เดือนแรก (มกราคม – สิงหาคม 2567) มี 34,712 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ถึง 472.71%

นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และนายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนสิงหาคม 2567 ว่ามียอดผลิตรถยนต์อยู่ที่ 119,680 คัน ลดลงร้อยละ 20.56 ขาย 45,190 คัน ลดลงร้อยละ 24.98 ส่งออก 86,066 คัน ลดลงร้อยละ 1.70

การผลิต

จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนสิงหาคม 2567 มีทั้งสิ้น 119,680 คัน ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2566 ร้อยละ 20.56 เพราะผลิตเพื่อขายในประเทศและผลิตเพื่อส่งออกลดลงร้อยละ 40.49 และ 6.62 ตามลำดับจากการผลิตรถกระบะลดลง และลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2567 ร้อยละ 4.12

จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม - สิงหาคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,005,749 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - สิงหาคม 2566 ร้อยละ 17.69

รถยนต์นั่ง เดือนสิงหาคม 2567 ผลิตได้ 46,765 คัน ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2566 ร้อยละ 8.84 แบ่งเป็น

  • รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine (ICE) มีจำนวน 31,909 คัน ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2566 ร้อยละ 15.26
  • รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle (BEV) มีจำนวน 352 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2566 ร้อยละ 17,500
  • รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle (PHEV) มีจำนวน 452 คัน ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2566 ร้อยละ 30.57
  • รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle (HEV) มีจำนวน 14,052 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2566 ร้อยละ 8.18

ยอดผลิตของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม - สิงหาคม 2567 มีจำนวน 376,034 คัน เท่ากับร้อยละ 37.39 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม - สิงหาคม 2566 ร้อยละ 11.09 แบ่งเป็น

  • รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine มีจำนวน 241,480 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - สิงหาคม 2566 ร้อยละ 26.90
  • รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle มีจำนวน 5,857 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - สิงหาคม 2566 ร้อยละ 3,857.43
  • รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 4,013 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - สิงหาคม 2566 ร้อยละ 42.84
  • รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 124,684 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - สิงหาคม 2566 ร้อยละ 45.94

ยอดขาย

ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนสิงหาคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 45,190 คัน ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2567 ร้อยละ 2.60 และลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 24.98 เพราะสถาบันการเงินเข้มงวดในการให้สินเชื่อจากหนี้ครัวเรือนสูงโดยหนี้เสีย (NPL) รถยนต์ ณ ไตรมาสสองของปีนี้ สูงถึง 254,484 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 29.7 จากไตรมาสสองปีที่แล้วและเศรษฐกิจในประเทศที่เติบโตในอัตราต่ำที่ร้อยละ 2.3 ในไตรมาสสองของปีนี้
 

รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 27,754 คัน เท่ากับร้อยละ 61.42 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 13.02

  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 11,748 คัน เท่ากับร้อยละ 26 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 39.31
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 7,302 คัน เท่ากับร้อยละ 16.16 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 20.44
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 93 คัน เท่ากับร้อยละ 0.21 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 29.01
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 8,611 คัน เท่ากับร้อยละ 19.06 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 35.46

ตั้งแต่เดือนมกราคม - สิงหาคม 2567 รถยนต์มียอดขาย 399,611 คัน ลดลงจากปี 2566 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 23.85 แยกเป็น

รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 239,971 คันเท่ากับร้อยละ 60.05 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 9.12

  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 106,245 คัน เท่ากับร้อยละ 26.59 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 36.91
  • รถยนต์นั่งแหละรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 47,645 คัน เท่ากับร้อยละ 11.92 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 13.86
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 1,456 คัน เท่ากับร้อยละ 0.36 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 8.14
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 84,625 คัน เท่ากับร้อยละ 21.18 ของยอดขายรถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 62.06
 

รถจักรยานยนต์ มียอดขาย 1,163,827 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – สิงหาคม 2566 ร้อยละ 10.81 แบ่งเป็นรถจักรยานยนต์ ICE จำนวน 1,163,627 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันร้อยละ 10.75 รถจักรยานยนต์ BEV จำนวน 200 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันร้อยละ 9.09

 
การส่งออก

รถยนต์สำเร็จรูป

เดือนสิงหาคม 2567 ส่งออกได้ 86,066 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้วร้อยละ 3.04 แต่ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2566 ร้อยละ 1.70 เป็นรถยนต์นั่ง HEV 3,516 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 4.09 ของการส่งออกทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 351.93

เดือนมกราคม – สิงหาคม 2567 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 688,633 คัน เป็นรถยนต์นั่ง HEV 34,712 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 5.04 ของการส่งออกทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 472.71

อ่านข้อมูลฉบับเต็ม คลิก https://www.fti.or.th/News/details?id=344



ที่มา : สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้