X

ราคาดี! HYPTEC HT เคาะราคาเริ่มต้น 1,449,000 รุ่นประตูปีกนก 1,749,000 บาท

Last updated: 29 ก.ย. 2567  |  1380 จำนวนผู้เข้าชม  | 

HYPTEC เปิดตัว


 

HYPTEC HT รถ EV หรู เปิดตัวอย่างเป็นทางการวันนี้ มาในสเป็คระดับไฮเอนด์ รุ่น HYPTEC HT 620 Premium เปิดราคา 1,449,000 บาท  ตัวท็อป HYPTEC HT 620 Luxury ที่มีประตูหลังแบบปีกนก  1,749,000บาท                                                                             

HYPTEC HT ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 250 กิโลวัตต์ ให้กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 340 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 430 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังสู่ล้อคู่หลัง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ใน 5.8 วินาที ทำงานคู่กับแบตเตอรี่ Magazine Battery 2.0 แบบ lithium ion phosphate ขนาดความจุ 83.3 กิโลวัตต์-ชั่วโมง                                                                                                                                                           

รถรุ่นนี้ได้รับการพัฒนาให้มีความปลอดภัยและคุณสมบัติที่ดียิ่งขึ้น พร้อมสถาปัตยกรรมไฟฟ้า 800 โวลต์ และเทคโนโลยี “ซูเปอร์ชาร์จ” รองรับการชาร์จเร็ว สามารถชาร์จไฟจาก 10-70% ได้ภายใน 15 นาที วิ่งได้ระยะทาง 372 กม. และมีระยะทางขับขี่ไกลสูงสุด 620 กม. 

HYPTEC  หรือชื่อไทยๆ "ไฮป์เทค" เป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ในเครือ GAC AION ภายใต้แนวคิด "Hyper Technology Life" ที่จัดเต็มเรื่องเทคโนโลยี และความหรูหรา ก่อนหน้านี้ GAC AION ใช้ชื่อ “Hyper” ในการโปรโมทรถแบรนด์นี้ แต่เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาได้เลือกใช้ชื่อ “HYPTEC” ในการทำตลาด พร้อมทั้งระบุที่มาของชื่อ “HYPTEC” ว่า

Hyp มาจาก Hyper และ Hyper Car ที่แสดงถึงความยอดเยี่ยม เกินขีดจำกัด หรูหราระดับไฮเอนด์

Tec มาจาก Technology ซึ่งแสดงถึงเทคโนโลยี เทคนิค และศิลปะ


HYPTEC HT มาในดีไซน์ฝากระโปรงหน้าลาดเอียง พร้อมประตูคู่หลังแบบปีกนก (GULL WING DOOR) มือเปิดประตูแบบซ่อนไปกับตัวรถ ไฟหน้าแบบไดมอนด์คัท ไฟท้าย HORIZON LIGHT สปอยเลอร์หลังแบบอัตโนมัติ LiDAR เซนเซอร์ติดตั้งบริเวณแนวหลังคา 1 ตำแหน่ง พร้อม LiDAR อีก 2 ตำแหน่งบริเวณซุ้มล้อคู่หน้า มีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ หรือ Cd. เพียงแค่ 0.197

ไฮไลท์ของ HYPTEC HT คือ ประตูปีกนก (Gull wing doors) ที่นอกจากจะดูเท่แล้วยังทำให้ขึ้น-ลงสะดวกด้วยความสูงของการเปิดที่ 2.3 เมตร ทำให้ไม่จำเป็นต้องก้มศีรษะหรือย่อตัวเมื่อต้องขึ้นหรือลงจากรถ สามารถเปิดประตูในที่จอดรถแคบๆได้ง่ายเพราะต้องการระยะห่างด้านข้างเพียง 34 ซม. เพื่อเปิดประตู ระบบหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางของระบบประตูปีกนกติดตั้งเรดาร์ 12 จุด ทำให้การเปิดประตูมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น ระบบดูดประตูไฟฟ้าช่วยให้ประตูเปิดและปิดได้อย่างเงียบสนิทโดยไม่ส่งเสียงรบกวน (เฉพาะรุ่น 620 Luxury)



ห้องโดยสารระดับเฟิร์สคลาสขนาดใหญ่พิเศษ เพื่อการพักผ่อนที่สะดวกสบาย เบาะนั่งโดยสารหุ้มด้วยวัสดุหนัง Nappa คุณภาพสูงและที่พักแขนทำจากวัสดุไม้แท้ พร้อมด้วยฟีเจอร์เบาะรองน่องผู้โดยสารด้านหน้าปรับด้วยระบบไฟฟ้า พนักพิงเบาะหลังปรับเอนได้มากถึง 143 องศา ทำให้ผู้โดยสารสามารถนอนพักผ่อนได้อย่างสบายๆ เพิ่มความสบายระหว่างการเดินทางด้วยที่รองขาสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ทำให้สามารถเหยียดขาได้อย่างอิสระ ลดอาการเมื่อยล้าของขาและเท้าระหว่างการเดินทางไกล

นอกจากนี้ยังมีโต๊ะอเนกประสงค์ในเบาะหลังคนขับดีไซน์โค้ง เพื่อลดอันตรายจากการกระแทกสำหรับเด็ก เบาะนวดไฟฟ้า 10 จุดคู่หน้า มีโหมดการนวด 5 รูปแบบ

หลังคากระจกพาโนรามาขนาด 2.6 ตารางเมตร พร้อมม่านไฟฟ้า (เฉพาะรุ่น 620 Premium) ให้การป้องกันแสงแดดและสะท้อนความร้อนได้ดียิ่งขึ้น กระจกลามิเนตสองชั้นรอบคัน ช่วยป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก พื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่พิเศษ 670 ลิตร สามารถบรรจุกระเป๋ากอล์ฟได้ถึงสามใบ พร้อมด้วยพื้นที่จัดเก็บสัมภาระแบบสองชั้นขนาด 80 ลิตร สามารถบรรจุกระเป๋าเดินทางขนาด 20 นิ้ว และอุปกรณ์อื่นๆ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่จัดเก็บด้านหน้ารถใต้ฝากระโปรงหน้าขนาด 55 ลิตร


ระบบเสียง Dolby Atmos 7.1.2 พร้อมลำโพงคุณภาพสูง 22 ตำแหน่ง สร้างประสบการณ์เสียงรอบทิศทางที่สมจริง ทำงานร่วมกับซับวูฟเฟอร์ ให้เสียงเบสที่หนักแน่นเหมือนการแสดงสด พร้อมลำโพงอิสระที่ตำแหน่งไหล่ของผู้ขับขี่ ช่วยให้สามารถพูดคุยโทรศัพท์หรือฟังระบบนำทางโดยไม่รบกวนการฟังเพลงหรือภาพยนตร์ของผู้โดยสาร หน้าจอความละเอียดสูง 2.5K ขนาด 14.6 นิ้ว ประมวลผลด้วยชิป Qualcomm 8155 ที่ช่วยให้การเล่นลื่นไหล รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และแอปพลิเคชันอื่น ๆ นอกจากนี้ HYPTEC HT ยังมาพร้อมระบบน้ำหอมปรับอากาศ ที่สามารถสั่งการผ่านหน้าจอกลาง เลือกกลิ่นได้ถึง 3 รูปแบบ

HYPTEC Smart

ห้องโดยสารอัจฉริยะ ADiGO SPACE มาพร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียงแบบ 4 ตำแหน่ง ไม่ว่าผู้ใช้อยู่ที่ใดภายในรถ ระบบสามารถรับรู้และดำเนินการตามคำสั่งได้อย่างรวดเร็ว, ระบบเตือนเมื่อเหนื่อยล้าหรือเสียสมาธิขณะขับขี่ ระบบสามารถวิเคราะห์สถานะการขับขี่ของผู้ขับได้อย่างชาญฉลาด และจะแจ้งเตือนผู้ขับขี่ด้วยเสียงและข้อความบนจอคอนโซลกลาง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ รวมถึงฟีเจอร์การปรับที่นั่งสำหรับผู้โดยสารด้านหน้าแบบคลิกเดียว สามารถเลื่อนที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้าไปด้านหน้าด้วยการกดเพียงครั้งเดียวเพื่อเพิ่มพื้นที่นั่งในแถวที่สอง



ผู้อยู่เบื้องหลังงานดีไซน์นี้คือ Pontus Fontaeus เป็นนักออกแบบยานยนต์ระดับโลกที่มีประสบการณ์กว่า 30 ปี และเคยร่วมงานกับแบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง Ferrari , Volvo , Jaguar และ Mercedes-Benz ด้วยวิสัยทัศน์ที่เน้นความหรูหรา นวัตกรรม และการใช้งานจริง ปัจจุบันดำรงตำแหน่งหัวหน้าทีมออกแบบของ HYPTEC โดยมุ่งมั่นสร้างสรรค์รถยนต์ที่มีดีไซน์ล้ำสมัยและยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ ทั้งในด้านความงาม ประสิทธิภาพ และการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม


HYPTEC HT ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาวจากสถาบัน C-NCAP และได้รับคะแนนระดับ G (ระดับสูงสุด) ในด้านการปกป้องผู้โดยสาร , การปกป้องคนเดินถนน และความปลอดภัยเชิงรุก จากสถาบัน Zhongbao Research พร้อมด้วยช่วยเหลือการขับขี่และระบบความปลอดภัยอัจฉริยะมากมาย ดังนี้
  • ถุงลมเสริมความปลอดภัยด้านหน้า (SRS Airbags)
  • ถุงลมเสริมความปลอดภัยด้านข้างตอนหน้า
  • ม่านถุงลมเสริมความปลอดภัยด้านข้าง
  • ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
  • ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า (FCW)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
  • ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน (LDP)
  • ระบบไฟสูงอัจฉริยะ (IHBC)
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (BSD)
  • ระบบเตือนการเปิดประตู (DOW)
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถคันหลังเข้าใกล้ (RAW)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมฟังก์ชัน Stop & Go (ACC-S&G)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัจฉริยะ (ICA)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ (TJA)
  • ระบบควบคุมความเร็วในขณะเข้าโค้ง (CSC)
  • ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (DMS)
  • ระบบเสียงเตือนคนภายนอกรถขณะขับขี่โหมดมอเตอร์ไฟฟ้า (AVAS)
  • ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง (TPMS)
  • ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา

HYPTEC HT มาพร้อมสีตัวถังภายนอกทั้งหมด 5 สี และสีภายในห้องโดยสาร 3 สี

สีภายนอก (Exterior) : Rose Star (โรสสตาร์) *เฉพาะรุ่น 620 Luxury , Spinel Grey (สปิเนลเกร) , Alpine White (อัลไพน์ไวท์) , Crystal Silver (คริสตัลซิลเวอร์) และ Onyx Black (โอนิกซ์แบล็ก)

สีภายใน (Interior) : Berlin Beige (เบอร์ลินเบจ) *เฉพาะรุ่น 620 Luxury , Midnight Black (มิดไนท์แบล็ก) และ Olympus Brown (โอลิมปัสบราวน์)


สิทธิประโยชน์ HYPTEC Exclusive Privilege*

1.Financial Benefit ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% (เมื่อดาวน์ 30% ผ่อน 48 งวด)

*เมื่อรับรถและจดทะเบียนรถ ระหว่างวันที่ 19 กันยายน 2567 ถึง 31 ธันวาคม 2567 เท่านั้น

2.Exclusive Warranty Package

1.1 รับประกันแบตเตอรี่ และชุดขับเคลื่อนไฟฟ้าแบบรวม ตลอดอายุการใช้งาน

(เฉพาะเจ้าของรถส่วนบุคคล ผู้ครอบครองรถลำดับที่ 1 , และไม่ใช้งานรถในลักษณะเชิงพาณิชย์)

*กรณีไม่เข้าตามเงื่อนไขด้านบน ระยะการรับประกันสำหรับชิ้นส่วนแบตเตอรี่ และระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าแบบรวม จะถูกปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการรับประกันเป็น 8 ปี หรือ 240,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) โดยนับจากวันที่ออกรถ

1.2 รับประกันคุณภาพรถยนต์ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

1.3 รับประกันชิ้นส่วนประตูปีกนก 8 ปี หรือ 240,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

3. Insurance Gift ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี

4. Exquisite Gifts ฟรี ฟิล์มกระจก แผ่นรองเท้า ค่าจดทะเบียน

5. Exclusive Deal for Home Charger ฟรี Home Chager พร้อมบริการติดตั้ง (ฟรีสายไฟความยาวไม่เกิน 20 เมตร / รับประกันเครื่องชาร์จ 1 ปี)

6. In-car Internet Service แพ็กเกจอินเตอร์เน็ตในรถยนต์ฟรี นาน 2 ปี ไม่จำกัดปริมาณการใช้งาน

7. Lifetime OTA Firmware Update ล้ำสมัยตลอดการขับขี่ บริการอัพเกรดซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องในระบบรถยนต์ฟรีตลอดชีพ

8. 24 Hours Roadside Service บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง นาน 8 ปี


คู่แข่งของ HYPTEC HT น่าจะเป็น AVATR 11 ที่ชิงเปิดตัวปาดหน้าไปก่อน 2 วัน คู่แข่งอีกคันก็น่าจะเป็น Tesla Model Y

- HYPTEC HT : 4,935 x 1,920 x 1,700 มม. | ฐานล้อ 2,935 มม.

- AVATR 11 : 4,880 x 1,970 x 1,601 มม. | ฐานล้อ 2,975 มม.

- Tesla Model Y : 4,751 x 1,921 x 1,624 มม. | ฐานล้อ 2,890 มม.

HYPTEC HT เคยเปิดตัวที่จีนในชื่อ GAC Aion Hyper GT เคาะราคาเริ่มต้น 219,900 หยวน หรือประมาณ 1,057,791 บาท ตัวท็อปราคา 339,900 หยวน คิดเป็นเงินไทย 1,635,748 บาท (ยังไม่รวมภาษีต่างๆ) ถือว่าเป็นราคาที่ใกล้เคียงกันมากกับราคาที่เปิดตัวในไทย และสู้ในเซกเมนท์นี้ได้สนุกทีเดียว


ที่มา : HYPTEC THAILAND

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้