X

ALL NEW MG3 HYBRID+ เคาะราคาพิเศษ 1,000 คันแรก เริ่มต้น 559,000 บาท

Last updated: 21 ส.ค. 2567  |  254 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ALL NEW MG3 HYBRID+ เคาะราคาเริ่มต้น 559,000 บาท

เอ็มจี เปิดตัว ALL NEW MG3 HYBRID+ พร้อมกันทุกภูมิภาคครั้งแรก เคาะราคาเริ่มต้นเพียง 559,900 บาท สำหรับผู้จอง 1,000 คันแรก ประกาศรุกตลาด B-Segment สร้างจุดเปลี่ยนให้กับวงการไฮบริด ภายใต้คอนเส็ปท์รถยนต์ไฮบริดสมรรถนะสูง อิสระพลัสเวลยนตรกรรมที่พลัสมาให้ครบ แรง ขับสนุก ประหยัดเหนือชั้น

กรุงเทพฯ – 20 สิงหาคม 2567 - บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย เปิดตัว ALL NEW MG3 HYBRID+ พร้อมกันในทุกภูมิภาคทั้งในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ หาดใหญ่ และโคราช เป็นครั้งแรก  ประกาศรุกตลาด B-Segment สร้างจุดเปลี่ยนให้กับวงการไฮบริด ภายใต้คอนเส็ปท์รถยนต์ไฮบริดสมรรถนะสูง “อิสระพลัสเวล”ยนตรกรรมที่พลัสมาให้ครบ แรง ขับสนุก ประหยัดเหนือชั้น ล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยีไฮบริดอัจฉริยะ อีกระดับของประสบการณ์การขับขี่ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ในราคาเริ่มต้นเพียง  559,900 บาท สำหรับผู้จอง 1,000 คันแรก สัมผัสตัวจริงและทดลองขับได้ที่งาน BIG MOTOR SALE 2024 และ โชว์รูม เอ็มจี กว่า 150 แห่งทั่วประเทศ  


ALL NEW MG3 HYBRID+ มีให้เลือก 2 รุ่น โดยรุ่น D มีราคาจำหน่าย 579,900 บาท ราคาช่วงเปิดตัว 559,900 บาท รุ่น X ราคาจำหน่าย 619,900 บาท ราคาช่วงเปิดตัว 599,900 บาท ทั้งนี้ราคาลดพิเศษช่วงเปิดตัวมีจำนวนจำกัดเพียงแค่ 1,000 คันเท่านั้น

ข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์ ALL NEW MG3 HYBRID+

  • ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. 1 ปี
  • รับประกันคุณภาพรถยนต์ 5 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)*
  • พิเศษ! เงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
  • ดาวน์ต่ำเริ่มต้น 5% หรือ 27,950 บาท
  • ผ่อนเริ่มต้น 6,291 บาท คำนวณจากราคาพิเศษเปิดตัวของรุ่นย่อย D ดาวน์ 25% ระยะเวลาผ่อน 84 เดือน อัตราดอกเบี้ย 3.69%
  • เลือกรับดอกเบี้ยพิเศษ 2.39% ผ่อนนาน 48 เดือน หรือเลือกรับดอกเบี้ยปกติ ดาวน์ต่ำเริ่มต้น 5%
  • ฟรี ชุดพรมปูพื้น



ALL NEW MG3 HYBRID+ โดดเด่นด้วยระบบ HYBRID+ ที่ใช้เทคโนโลยีล่าสุดจาก SAIC MOTOR เพื่อพัฒนายนตรกรรมที่มาพร้อมสมรรถนะและความประหยัดที่เหนือชั้น โดยระบบ HYBRID+ เป็นการผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์สันดาปภายในและมอเตอร์ไฟฟ้า ทำงานร่วมกันเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงในทุกสภาวะการขับขี่ รถรุ่นนี้ถือเป็น Global Model ที่พัฒนาและปรับจูนทุกระบบโดยทีมวิศวกรระดับโลก เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งานจริงบนถนนทั่วโลก โดยผ่านการทดสอบในทุกสภาพเส้นทาง สภาพอากาศ รวมถึงวิ่งทดสอบในสถานการณ์ที่หลากหลาย



สำหรับในประเทศไทย ALL NEW MG3 HYBRID+ มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “อิสระพลัสเวล” นำเสนอประสบการณ์การขับขี่ครบครัน ทั้งความประหยัด ความสนุกเร้าใจ เป็นการยกระดับระบบการทำงานของเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้า ให้มีการทำงานที่อิสระ ครอบคลุมโหมดการขับเคลื่อนที่หลากหลาย มอบความคล่องตัว ให้ความรู้สึกเหมือนขับรถไฟฟ้าโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จ เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหารถยนต์ในกลุ่ม City Car ที่มีฟังก์ชันครบครัน แต่ยังคงมีสมรรถนะและเทคโนโลยีที่โดดเด่นในระดับราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่าย



การเปิดตัว ALL NEW MG3 HYBRID+ ครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำวิสัยทัศน์ของ เอ็มจี ในการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในวงการยานยนต์ไทยและระดับโลก ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีล้ำสมัย ความคุ้มค่า และการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ได้อย่างลงตัวสำหรับผู้ที่มองหายานพาหนะที่มีประสิทธิภาพสูงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นก้าวสำคัญของ เอ็มจี ในการก้าวสู่อนาคตแห่งการขับเคลื่อนที่ยั่งยืน
 
นายซู๋ว์ หยิ่น กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “นอกจาก ALL NEW MG3 HYBRID+ จะเป็น The Best-in-Class ใน B-Segment ด้วยการยกระดับผลิตภัณฑ์ในหลายๆ ด้านแล้วนั้น เอ็มจี ยังได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่แตกต่างจากการเปิดตัวรถยนต์ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น การเปิดโอกาสให้ผู้สนใจลงทะเบียนทดลองขับรถรุ่นใหม่นี้ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ 4 ภาคทั่วไทย เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสสมรรถนะของ ALL NEW MG3 HYBRID+ รวมไปถึงการทดสอบขับจริงบนท้องถนน ผ่านกิจกรรมขับทางไกล "กรุงเทพฯ - เชียงใหม่ ด้วยน้ำมันถังเดียว" ที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของรถเมื่อขับขี่บนถนนจริง สามารถวิ่งได้ไกลถึง 800 กิโลเมตร ต่อน้ำมันหนึ่งถัง


การเปิดตัวครั้งนี้ยังเป็นครั้งแรกที่ เอ็มจี ได้เปิดตัว ALL NEW MG3 HYBRID+ พร้อมกันในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ (Nationwide launch) โดยมีกรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางการประกาศราคาอย่างเป็นทางการ ซึ่งจัดขึ้นที่ สยามสแควร์วัน สำหรับในภูมิภาคต่างๆ ได้มีการจัดงานเปิดในย่านสำคัญของแต่ละพื้นที่ อาทิ ภาคเหนือ ที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ ศูนย์การค้าเดอะมอลล์โคราช และภาคใต้ ที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล หาดใหญ่ โดยในทุกสถานที่จะมีกิจกรรมพิเศษต่อเนื่องจากการเปิดตัว เพื่อให้ผู้สนใจเข้ามาได้สัมผัสประสบการณ์อย่างใกล้ชิด โดย เอ็มจี พร้อมให้ผู้ที่สนใจสามารถจองและทดลองขับได้ที่ งาน BIG MOTOR SALE 2024 และศูนย์บริการของ เอ็มจี 150 แห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่ปลายเดือนนี้ เป็นต้นไป”

GLOBAL EXTERIOR DESIGN สปอร์ต โฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว คล่องตัว

ALL NEW MG3 HYBRID+ โดดเด่นด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ ผสานระหว่างความสปอร์ตและความหรูหราได้อย่างลงตัว ปราดเปรียว และคล่องตัวในสไตล์รถแอทช์แบ็ก มาพร้อมความเท่ และดุดันด้วยการดีไซน์ไฟหน้าแบบใหม่ Hunter Eye Headlamp หรือ ดวงตานักล่า ที่ดูโฉบเฉี่ยว พร้อมกระจังหน้าแบบใหม่ ไฟท้ายได้รับแรงบันดาลใจจากปีกผีเสื้อ สะท้อนถึงการเคลื่อนไหวที่คล่องตัว เส้นสายการออกแบบรอบตัวถังเน้นความโค้งมนตามแบบฉบับของ “เอ็มจี”

  • มิติตัวถัง​ 4,113 x 1,797 x 1,502 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x สูง)
  • ระยะความยาวฐานล้อ 2,570 มิลลิเมตร
  • ระยะต่ำสุดจากพื้น 117 มิลลิเมตร
  • ไฟหน้า แบบ LED พร้อมระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ
  • ไฟท้ายและไฟเบรกดวงที่สาม
  • ไฟตัดหมอกหลัง
  • ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน (Daytime Running Lights)
  • กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว และพับอัตโนมัติ
  • ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบอัตโนมัติ พร้อมใบปัดน้ำฝนด้านหลัง
  • ล้ออัลลอยด์ขนาด 16 นิ้ว

INTERIOR DESIGN: ภายในสปอร์ตอย่างมีสไตล์ สะดวกสบาย ครบจบทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน

ภายในห้องโดยสารสร้างสรรค์ขึ้นภายใต้ Modular Concept ให้ความสำคัญกับ วัสดุที่มีคุณภาพพร้อมการออกแบบคอนโซลที่เล่นระดับให้มีมิติ เพิ่มความหรูหราด้วยภายในแบบทูโทนขาวสลับดำ เน้นความสะดวกในการใช้สอย สำหรับทั้งคนขับและผู้โดยสาร เพิ่มอรรถประโยชน์ในการใช้งาน โดยเฉพาะการออกแบบห้องโดยสารที่โดดเด่นในเรื่องของพื้นที่เหนือศีรษะ (Head room) และพื้นที่วางขา (Leg room) ที่ไม่อึดอัด ALL NEW MG3 HYBRID+ ถือเป็นรถที่กว้างที่สุดในคลาสเดียวกัน โดยเฉพาะห้องสัมภาระท้ายจุได้มากถึง 293 ลิตร และเมื่อพับเบาะสามารถจุได้มากถึง 1,037 ลิตร

  • พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนัง พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ – วางสายโทรศัพท์
  • กระจกไฟฟ้า One Touch Up-Down ด้านผู้ขับขี่
  • หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว (Digital Multi – Function Display) และหน้าจอสี
    ระบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว
  • ลำโพง 6 จุด
  • ช่องใส่ของภายในห้องโดยสาร 25 จุด
  • เบาะนั่งคนขับปรับ 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง
  • ที่พักแขนด้านหน้า และเบาะนั่งด้านหลังพนักพิงพับได้
  • ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
  • รองรับระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android แบบไร้สาย
  • ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อมปุ่ม Push Start
  • ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล
  • ระบบกรองอากาศ PM 2.5

PERFORMANCE: ขับสนุกเหมือนรถไฟฟ้า เร็วกว่าเพราะไม่ต้องรอชาร์จไฟ 

ALL NEW MG3 HYBRID+ ให้กำลังมากที่สุดในคลาสเดียวกัน ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 102 แรงม้า (75 กิโลวัตต์) ผสานการทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 136 แรงม้า (100 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร แรงสุดในกลุ่ม B-Segment สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 8 วินาที และอัตราเร่ง 80-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 5 วินาที ผลลัพธ์จากเทคโนโลยีไฮบริดใหม่ของ เอ็มจี อย่างระบบ HYBRID+ กับ 8 โหมดขับเคลื่อนที่จะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ประหยัดน้ำมันสามารถวิ่งได้ไกลกว่า 800 กิโลเมตร และขับสนุก    

  • การทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว DVVT 102 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ High-performance Permanent Magnet Synchronous Motors กำลังสูงสุด 136 แรงม้าให้ขุมพลังรวมสูงสุดถึง 194 แรงม้า (143 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร
  • แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดใหญ่ ในรูปแบบ Cell-To-Pack ความจุ 1.83 kWh ซึ่งมีความจุมากที่สุดในรถขนาดเดียวกัน
  • โหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่ ECO, NORMAL, SPORT
  • ระบบส่งกำลัง Hybrid Transmission ขับเคลื่อนด้วยเกียร์ไฟฟ้าแบบ E-AT 3 อัตราทดเกียร์ ปรับการทำงานแบบอัตโนมัติ
  • ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 3 ระดับ ได้แก่ มาก ปานกลาง และน้อย
  • รัศมีวงเลี้ยว 5.2 เมตร
  • ระบบพวงมาลัยแร็คแอนด์พิเนียน ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS)
  • ระบบช่วงล่างหน้า MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง
  • ระบบช่วงล่างหลัง Torsion Beam
  • ดิสก์เบรกหน้าพร้อมช่องระบายความร้อน และดิสก์เบรกหลัง

SAFETY: มอบความปลอดภัยเหนือระดับทุกการเดินทาง

ALL NEW MG3 HYBRID+ มาพร้อมโครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ FSF (Full Space Frame) เพียบพร้อมด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM ซึ่งรวมระบบADVANCED DRIVER ASSISTANCE SYSTEM (ADAS) หรือระบบอำนวยความสะดวกช่วยควบคุมการขับขี่ และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจำนวน 8 ระบบ พร้อมระบบเบรกอัจฉริยะ (Intelligent Brake System)

  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
  • ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
  • ระบบป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock Braking System) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake Force Distribution)
  • ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
  • ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็ว XDS (Electronic Differential System)
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
  • ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
  • ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping System) โดยผสานรวมระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist) และ ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning) เข้าไว้ด้วยกัน
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
  • ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
  • ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ UDW (Unsteady Driving Warning)
  • ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ ICA (Intelligent Cruise Assist)
  • ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control)
  • ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
  • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย
  • กล้องรอบคัน 360 องศา แบบ High Definition
  • จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX
  • ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock)
  • สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง
  • ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer
  • ระบบไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง (FOLLOW ME HOME)

ALL NEW MG3 HYBRID+ นิยามใหม่ของรถไฮบริดใน B-Segment มาพร้อมกับความคุ้มค่ามากที่สุด มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย คือ รุ่น D และ รุ่น X โดยมีสีตัวถังให้เลือก 6 สี ได้แก่ สีแดง (Scarlet Red) สีขาว (Arctic White) สีดำ (Black Knight) และสีเทา (Metal Ash Grey) จับคู่กับเบาะสีดำ ในรุ่น D ทั้งยังมีสีให้เลือกเพิ่มเติม คือ สีฟ้า (ST. Moritz Blue) และ สีเหลือง (Pastel Yellow) จับคู่กับเบาะสีทูโทน ในรุ่น X
 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ MG CALL CENTRE โทร. 1267 และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมของ เอ็มจีได้ที่
Website: www.mgcars.com

Line: @MGThailand   Facebook: www.facebook.com/MGcarsThailand

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้