X

MGC-ASIA โชว์ฟอร์มไตรมาส 2 กำไรเพิ่ม 628.4% รถยนต์ไฟฟ้า XPENG- ZEEKR ผลตอบรับดี

Last updated: 14 ส.ค. 2567  |  189 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย)

MGC-ASIA โชว์ฟอร์มไตรมาส 2 กำไร 50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 628.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน รถยนต์ไฟฟ้า XPENG - ZEEKR เล็งผนึกพันธมิตรลุยธุรกิจรีไซเคิลแบตฯ เสริมแกร่งระบบนิเวศ EV ครบวงจร

บมจ. มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) หรือ MGC-ASIA ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 ทำรายได้จากการขายและบริการ 5,304 ล้านบาท กำไรสุทธิทำได้ 50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% และ 628.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าตามลำดับ แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า XPENG- ZEEKR ผลตอบรับดี เร่งเครื่องขยายธุรกิจ รับดีมานด์พุ่ง เซ็นสัญญาตัวแทนจำหน่าย 12 ราย พร้อมเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการต้นแบบ XPENG หัวหมาก รวมถึงศูนย์บริการ ZEEKR ศรีนครินทร์และวิภาวดี เดินหน้าขยายระบบนิเวศทางธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร พร้อมจับมือพันธมิตรศึกษาความเป็นไปได้ธุรกิจรีไซเคิลแบตเตอรี่ EV ขณะธุรกิจให้บริการด้านการเงินครบวงจร ALPHA X – Wealth Lending เริ่มมีผลกำไรจากการดำเนินงาน และธุรกิจประกันภัย HOWDEN MAXI หนุนธุรกิจเติบโต

ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 (เมษายน-มิถุนายน) เติบโตแข็งแกร่ง บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 5,304 ล้านบาท โตขึ้น 17% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ขณะที่กำไรสุทธิทำได้ 50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 628.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า รายได้และกำไรสุทธิที่เติบโต มาจากการรับรู้รายได้จากการส่งมอบรถยนต์ที่จองในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2024 นอกจากนี้ บริษัทฯยังได้มีการเปิดตัวแบรนด์ยานยนต์ไฟฟ้า XPENG ยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะระดับพรีเมียมไฮ-เทค และ ซีคเกอร์ ZEEKR ยานยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียม-ลักชัวรี่ ซึ่งได้รับการตอบรับดีกว่าที่คาดการณ์ และจากการเปิดตัวในงานฯ ที่ผ่านมาได้มีการจองเข้ามาอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ พร้อมส่งมอบรถยนต์ เริ่มรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 3/2567


ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง 2567 มีปัจจัยส่งเสริมการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ ดังนี้

1.กลุ่มธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ (Mobility Retail) ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 บริษัทฯ มียานยนต์รอส่งมอบ (Backlog) ทั้งสิ้น 1,235 คัน และเรือยอทช์ AZIMUT รอส่งมอบ 1 ลำ และมีการขยายบริการเช่าเหมาลำ ภายใต้แบรนด์ AZIMUT และ CHRIS-CRAFT เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยว นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนจะขยายธุรกิจจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้ารองรับการเติบโตในอนาคต ในช่วงไตรมาส 3/2567 เตรียมเปิดศูนย์ให้บริการยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ XPENG สาขาหัวหมาก พร้อมลงนามแต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย เพื่อขยายช่องทางการจัดจำหน่าย รวม 12 ราย และยังได้การตอบรับจากผู้สนใจมาสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างต่อเนื่องจากการเปิดตัวยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะรุ่น G6 คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า ส่วนแบรนด์ ZEEKR บริษัทฯ เริ่มส่งมอบยานยนต์ไฟฟ้าให้แก่ลูกค้าแล้ว และในช่วงไตรมาส 3/2567 เตรียมเปิดศูนย์ให้บริการครบวงจร สาขาศรีนครินทร์ และวิภาวดี

2.ธุรกิจให้บริการหลังการขายและให้บริการซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระ (Aftersales and Car Maintenance Services) รายได้ของกลุ่มธุรกิจให้บริการหลังการขายและซ่อมบำรุง ถือเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้แก่บริษัทฯ และมีศักยภาพเติบโตตามยอดจำหน่ายยานยนต์ที่เพิ่มขึ้น และบริษัทฯ ยังได้รับสิทธิ์ในการดำเนินธุรกิจศูนย์บริการซ่อมสีและตัวถังรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Approved Body Shop (TAB) แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กลุ่มธุรกิจ

3.ธุรกิจบริการเช่ารถยนต์ ทั้งระยะสั้นและระยะยาวพร้อมพนักงานขับ (Car Rental and Driver Services) บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจบริการเช่ารถยนต์ทั้งระยะสั้นและระยะยาวพร้อมพนักงานขับรถ โดยมุ่งเน้น 5 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ การสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์และให้ความสำคัญกับลูกค้า, พัฒนานวัตกรรมผ่านแอปพลิเคชัน, ร่วมมือกับพันธมิตร, ขยายบริการรถยนต์ไฟฟ้าในหัวเมืองใหญ่, และเพิ่มรถยนต์พรีเมียม รวมถึงรถบรรทุกเชิงพาณิชย์ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า

4.กลุ่มธุรกิจอื่นๆ (Other Services) ALPHA X ผู้ให้บริการทางการเงินครบวงจรที่เกิดจากการร่วมทุนระหว่าง MGC-ASIA และ SCBX มีผลการดำเนินงานเป็นกำไรสุทธิก่อนตั้งสำรอง (Pre-Provision Operating) เป็นไตรมาสแรก จากการเพิ่มขึ้นของพอร์ตสินเชื่อย่างต่อเนื่อง และส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (Net Interest Margin) เติบโตจากการขยายธุรกิจ Wealth Lending ให้กลุ่มลูกค้ามั่งคั่ง (High-Net-Worth)รวมทั้งการบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินและต้นทุนการดำเนินงานได้ดี สามารถทำกำไรเติบโตต่อเนื่อง นอกจากนี้ ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยกลยุทธ์การนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบรับกระแส ESG และเมกะเทรนด์ต่างๆ มีรายได้สุทธิเติบโต 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการประกันภัยทรัพย์สิน อัญมณี เครื่องประดับ งานศิลปะ และโครงการพิเศษ โดยมีรายได้เติบโตจากลูกค้ารายใหญ่ รายใหม่ ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 59 ล้านบาท เกินเป้าหมายที่วางไว้ 3% บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถทำตามเป้าหมายการเติบโตที่คาดหวังไว้ประมาณ 7% จากปีก่อน

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MGC-ASIA กล่าวว่า “MGC-ASIA มุ่งขยายระบบนิเวศทางธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร (EV Ecosystem )  อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด บริษัท นีโอ โมบิลิตี้ เอเชีย จำกัด ผู้นำธุรกิจให้บริการด้านยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร ได้ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ PRIMOBIUS บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการรีไซเคิลแบตเตอรี่จากเยอรมนี ทั้งสองบริษัทจะร่วมกันศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งธุรกิจรีไซเคิลแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย นับเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว”


บริษัท นีโอ โมบิลิตี้ เอเชีย จำกัด บริษัทร่วมทุนระหว่างกลุ่มอรุณ พลัส และ MGC-ASIA  จัดพิธีลงนาม MOU เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการรีไซเคิลแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย กับ PRIMOBIUS (ไพรโมเบียส) หนึ่งในผู้นำด้านการรีไซเคิลแบตเตอรี่จากประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2567

ความร่วมมือครั้งนี้ไม่เพียงตอกย้ำความมุ่งมั่นของ นีโอ โมบิลิตี้ เอเชีย ในการเป็นผู้นำธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร แต่แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของบริษัท ในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนผ่านการจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและรับผิดชอบต่อสังคม โดยความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีขั้นสูงของ PRIMOBIUS จะช่วยให้ นีโอ โมบิลิตี้ เอเชีย นำแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่หมดอายุการใช้งานกลับมาใช้ประโยชน์ได้อีกครั้ง ช่วยลดการพึ่งพาทรัพยากรใหม่และลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลไทย ในการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า และการพัฒนาอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำและเศรษฐกิจสีเขียว

MGC-ASIA มุ่งมั่นเติบโตอย่างต่อเนื่องในเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ด้วยการขยายระบบนิเวศทางธุรกิจครบวงจร สอดคล้องกับ Paris Agreement ที่เป็นความตกลงตามกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change-UNFCCC) ตั้งแต่การจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ชั้นนำ การให้บริการหลังการขายซ่อมบำรุง บริการด้านการเงินและประกันภัย รวมถึงศึกษาความเป็นไปได้ของการดำเนินธุรกิจรีไซเคิลแบตเตอรี่ ซึ่งจะเติบโตอย่างมากในอนาคต มุ่งสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจรตั้งแต่ต้นถึงปลายน้ำ และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับบริษัทฯ ในระยะยาว

ที่มา: มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้