อัพเลเวลความแรง! Cayenne S E-Hybrid Coupé ใหม่อัพขุมพลังไฮบริดเป็น 519 แรงม้า วิ่งด้วยไฟฟ้า 90 กม.

Cayenne S E-Hybrid Coupé เอสยูวีคูเป้ใหม่อัพขุมพลังไฮบริดสู่ระดับ 519 แรงม้า วิ่งด้วยไฟฟ้าสูงสุด 90 กม. เคาะราคา 6.29 ล้านบาท สั่งซื้อได้แล้ว พร้อมส่งมอบในไทยเดือนสิงหาคม 2567

ปอร์เช่ ประเทศไทย เปิดตัว Cayenne S E-Hybrid Coupé ใหม่ จากสายการผลิตในมาเลเซีย ที่ผ่านการอัพเลเวลความแรงด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ V6 เทอร์โบ 3.0 ลิตร ให้กำลัง 260 กิโลวัตต์ (353 แรงม้า) แรงกว่าเครื่องยนต์ใน Cayenne E-Hybrid ถึง 36 กิโลวัตต์ (49 แรงม้า) เมื่อผสมผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าใหม่ ส่งผลให้ระบบมีกำลังรวม 382 กิโลวัตต์ (519 แรงม้า) เร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลาเพียง 4.7 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 263 กิโลเมตร/ชั่วโมง ระยะทางวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าสูงสุด 90 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน EAER City)

ปอร์เช่ คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด คูเป้ ใหม่มาจากสายการผลิตในประเทศมาเลเซีย มาในดีไซน์ใหม่ ผสมผสานความสปอร์ตอันทรงพลังของ Cayenne S เข้ากับระบบขับเคลื่อนอันล้ำสมัยของ Cayenne E-Hybrid ให้สมรรถนะการขับขี่อันเร้าใจ และประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานมากขึ้น มีตัวเลือกการปรับแต่งผ่าน Tequipment เพื่อให้ตรงกับสไตล์ของเจ้าของ

คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด คูเป้ โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่ทรงพลังและสปอร์ตยิ่งขึ้น เสริมความโดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบ HD Matrix LED ดีไซน์ใหม่ ที่มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดดเด่นด้วยโมดูลความละเอียดสูง 2 ชุด และพิกเซลกว่า 32,000 พิกเซลต่อโคมไฟ ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยและความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ขณะที่ล้ออัลลอยลาย Cayenne ขนาด 20 นิ้ว สีเทา Vesuvius Grey ดูหรูหราและสปอร์ต

สามารถเลือกสีตัวถังได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ได้แก่ สีขาวเมทาลิก Carrara White , สีดำเมทาลิก Chromite Black และสีเงินเมทาลิก Dolomite Silver

ภายในได้รับการยกระดับด้วยฟีเจอร์เพิ่มเติมหลายจุด  เป็นครั้งแรกที่มีการติดตั้งพวงมาลัย GT Sports และแพ็คเกจ Sport Chrono พร้อมนาฬิกา Porsche Design เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งช่วยยกระดับความหรูหราตั้งแต่ก้าวเข้ามาภายในห้องโดยสาร

รถเอสยูวีไฮบริดคันนี้ยังติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ อีกมากมาย ได้แก่ ระบบเสียงรอบทิศทาง BOSE® เบาะหนังคุณภาพเยี่ยม เลือกได้ 2 สี คือ สีดำ หรือ สีแดงบอร์โด (Bordeaux Red) พร้อมตราสัญลักษณ์ปอร์เช่บนพนักพิงศรีษะที่เบาะคู่หน้า อีกทั้งระบบควบคุมอุณหภูมิแยก 4 โซน เครื่องฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร เบาะนั่งไฟฟ้าปรับได้ 14 ทิศทางพร้อมระบบจำตำแหน่งสำหรับเบาะผู้โดยสารด้านหลัง และม่านบังแดดด้านหลังที่เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า

ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ อาทิ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) ระบบช่วยจอด (ParkAssist) พร้อมกล้องรอบทิศทาง (Surround View) และรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Apple® CarPlay ทั้งยังเอาใจผู้โดยสารด้านหลังด้วยระบบ Rear Seat Entertainment ที่มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน สามารถติดตั้งหน้าจอสำหรับผู้โดยสารด้านหลังเพิ่มเติมได้อย่างง่ายดาย เพื่อยกระดับความเพลิดเพลินตลอดการเดินทาง

เพิ่มเติมความทันสมัยให้กับห้องโดยสารด้วย Porsche Driver Experience ประกอบด้วย ชุดหน้าปัดดิจิตอลแบบโค้งมนขนาด 12.6 นิ้ว และหน้าจอระบบ Infotainment ขนาด 12.3 นิ้ว สำหรับรถยนต์พวงมาลัยขวา ตำแหน่งคันเกียร์อัตโนมัติได้รับการย้ายไปทางซ้ายของพวงมาลัยบนคอนโซลกลาง  การปรับเปลี่ยนนี้ช่วยเพิ่มพื้นที่สำหรับช่องเก็บของและแผงควบคุมระบบปรับอากาศขนาดใหญ่ในโทนสีดำ แผงควบคุมระบบปรับอากาศมาพร้อมปุ่มกดขนาดใหญ่ ใช้งานง่าย พร้อมสวิตช์ปรับอากาศแบบหมุน และปุ่มปรับระดับเสียงแบบสัมผัส ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย

คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด คูเป้ ผสมผสานความสปอร์ตอันทรงพลังของ Cayenne S เข้ากับระบบขับเคลื่อนอันล้ำสมัยของ Cayenne E-Hybrid นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของผู้ผลิตรถยนต์สปอร์ตระดับโลกในการมอบประสบการณ์การขับขี่อันเร้าใจ ผสานเทคโนโลยีไฮบริดที่ล้ำหน้า

ขุมพลังเครื่องยนต์ V6 เทอร์โบ 3.0 ลิตร ให้กำลัง 260 กิโลวัตต์ (353 แรงม้า) แรงกว่าเครื่องยนต์ใน Cayenne E-Hybrid ถึง 36 กิโลวัตต์ (49 แรงม้า) เมื่อผสมผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าใหม่ ส่งผลให้ระบบมีกำลังรวม 382 กิโลวัตต์ (519 แรงม้า) รถเอสยูวีคูเป้รุ่นนี้เร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลาเพียง 4.7 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 263 กิโลเมตร/ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับระยะทางวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าสูงสุด 90 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน EAER City)

ปอร์เช่ ยกระดับระบบช่วงล่างใหม่ ที่มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมระบบกันสะเทือนแบบถุงลม Porsche Active Suspension Management (PASM) เทคโนโลยี Two-Chamber Two-Valve ที่ช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่ เพิ่มความมั่นคง และง่ายต่อการควบคุมรถยนต์ทั้งบนถนนและทางออฟโรด เมื่อเทียบกับระบบช่วงล่างมาตรฐานและรุ่นก่อนหน้า

เทคโนโลยี Two-Chamber Two-Valve ช่วยให้ปรับช่วงล่างได้หลากหลาย ตั้งแต่เน้นความนุ่มนวลสำหรับการขับขี่สบายๆ ไปจนถึงโหมดสปอร์ตที่เน้นการตอบสนองฉับไว

นอกจากนี้ ระบบกันสะเทือนแบบถุงลมยังช่วยเพิ่มความแม่นยำและสมรรถนะของการขับขี่ ด้วยการลดการโคลงของตัวรถในขณะขับขี่แบบสปอร์ต อีกทั้งยังช่วยให้การปรับโหมดการขับขี่ระหว่าง Normal , Sport และ Sport Plus แตกต่างกันอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

ปอร์เช่เข้าใจว่าลูกค้าต้องการความเป็นตัวเอง ดังนั้น คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด คูเป้ รุ่นใหม่สามารถปรับแต่งผ่านไมโครไซต์พิเศษที่สร้างขึ้นสำหรับรถรุ่นนี้โดยเฉพาะ เว็บไซต์นี้เปิดโอกาสให้แฟนๆ ปอร์เช่ สามารถออกแบบ Cayenne S E-Hybrid Coupé ในฝันได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกสีตัวถังและการตกแต่งภายใน รวมไปถึงการเพิ่มอุปกรณ์เสริม Tequipment หรือ แพ็คเกจปรับแต่งพิเศษจาก Porsche Exclusive Manufaktur

คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด คูเป้ รุ่นใหม่มีราคาเริ่มต้นที่ราคา 6,290,000 บาท โดยมีกำหนดส่งมอบให้ลูกค้าตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2567 เป็นต้นไป สามารถจองรถยนต์รุ่นนี้ผ่านไมโครไซต์ (Microsite) ได้ที่ thcayenne.online

ไมโครไซต์ (Microsite) เป็นเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะสำหรับการจองรถยนต์รุ่นใหม่นี้ผ่านทางออนไลน์ เพื่อมอบประสบการณ์การจองที่สะดวกสบายให้กับลูกค้าที่สนใจ และรองรับการปรับแต่งเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นสีภายนอก ตัวเลือกหนังภายใน และอุปกรณ์เสริม Tequipment ต่างๆ

ที่มา : Porsche Thailand