Last updated: 14 ก.ค. 2567 | 897 จำนวนผู้เข้าชม |
ZEEKR เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย สร้างเซกเมนต์ใหม่ “รถไฟฟ้าพรีเมียม-ลักชูรี” อัปเลเวลประสบการณ์ไลฟ์สไตล์การเดินทาง รุ่น Standard มอเตอร์เดี่ยว 272 แรงม้า ราคา 1,199,000 บาท ส่วนตัวท็อป รุ่น Flagship ที่โดดเด่นด้าน Performance ขุมพลังมอเตอร์แฝด ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ กำลังสูง 428 แรงม้า วิ่งไกล 470 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง เคาะราคา 1,349,000 บาท ตั้งเป้ายอดขายมากกว่า 2,000 คันภายในสิ้นปี 2567 พร้อมส่งมอบรถภายในเดือนสิงหาคม
เฉิน หยู (มาร์ส) Vice President of ZEEKR Intelligent Technology เปิดเผยว่า “ZEEKR ใช้เวลาเพียง 2 ปีในการส่งมอบรถยนต์ครบ 100,000 คัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ZEEKR กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง เรากำลังสร้างแบรนด์ให้เป็นที่ยอมรับในตลาดโลก ด้วยนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะที่ก้าวล้ำยุค และการบูรณาการพลังการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเข้ากับแนวทางที่มีผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง เรามุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์และพัฒนายานยนต์พลังงานไฟฟ้าระดับพรีเมียม-ลักชูรี จะเปลี่ยนนิยามของการขับขี่ด้วยนวัตกรรมและความมุ่งมั่นในความพึงพอใจของลูกค้า ZEEKR จึงนับเป็นแบรนด์พร้อมที่จะส่งมอบสุดยอดประสบการณ์ของการเดินทาง สู่ยุคสมัยที่เทคโนโลยี ดีไซน์ และไลฟ์สไตล์ระดับลักชูรี สามารถสอดประสานเข้ากันได้อย่างกลมกลืน”
จากความสำเร็จระดับสากล สู่การบุกตลาดไทยที่เติบโตสูงที่สุดในภูมิภาค
แนวโน้มการใช้รถยนต์ไฟฟ้า หรือ อีวี ของไทยในระยะต่อไปจะยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดย ttb analytics ประเมินยอดขายรถยนต์อีวี ในปี 2567 จะอยู่ที่ 103,182 คัน หรือขยายตัว 36.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทำให้ส่วนแบ่งตลาดรถยนต์อีวีเพิ่มสูงขึ้นเป็น 13.4% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่9.8%
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีช่องว่างของรถอีวีระดับพรีเมียม-ลักชูรี ที่ยังไม่มีแบรนด์ใดทำตลาด เป่า จ้วงเฟย (อเล็กซ์) ZEEKR Intelligent Technology Head of Southeast Asia Region เผยว่า “สำหรับตลาดยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยนั้น ZEEKR จะช่วยเข้ามาเติมเต็มเซกเมนต์ พรีเมียม-ลักชูรี ซึ่งจากการพิสูจน์ในตลาดทั่วโลกทำให้มั่นใจได้ว่า ประสบการณ์ของผู้ใช้ที่มีต่อผลิตภัณฑ์ได้สร้างความประทับใจขั้นสูงสุด เมื่อรวมกับอีโคซิสเต็มด้านการบริการอันหลากหลายที่ผสานเข้ากับไลฟ์สไตล์ทุกด้านของผู้ใช้ได้อย่างราบรื่นที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในตลาดระดับโลก วันนี้ เราจะนำเสนอทั้งหมดนี้ให้แก่คนไทยเช่นกัน
เรามองเห็นโอกาสในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ การบริการขาย และการบริการหลังการขายผ่านดีเลอร์รายใหญ่กว่า 6 ราย มี ZEEKR House 14 แห่ง และจะขยายเพิ่มอีกกว่า 20 แห่งครอบคลุมทั่วประเทศ โดยเราตั้งเป้ายอดขายมากกว่าสองพันคันภายในสิ้นปี 2567 นี้ เพื่อตอบสนองความต้องการที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ของลูกค้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียม-ลักชูรี“
ZEEKR X เอสยูวีสำหรับคนเมืองยุคใหม่ เติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต
ZEEKR X เป็นรถเอสยูวีหรูหราขนาดกะทัดรัดที่สร้างขึ้นมาเพื่อไลฟ์สไตล์คนเมืองในปัจจุบัน เป็นรถคู่ใจสำหรับนักผจญภัยและครอบครัวที่กำลังมองหาการเดินทางเพื่อสำรวจสถานที่ใหม่ๆ ด้วยสมรรถนะอันทรงพลัง ZEEKR ได้ผสมผสานการควบคุมการขับขี่ขั้นสุดยอด กับนวัตกรรมขับเคลื่อนแห่งโลกอนาคต จากพละกำลังจากระบบมอเตอร์คู่ 315kW (428 hp) แรงบิดสูงสุด 543 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 3.8 วินาที แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขนาด 67 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ระยะทางวิ่งสูงสุด 540 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC โดดเด่นด้วยระบบสลับโหมดการขับเคลื่อนอัจฉริยะ (Lightning Switch AWD System) ระหว่างสองล้อและสี่ล้อได้ภายในเสี้ยววินาที ปลอดภัยขั้นสุดด้วยผลการทดสอบความปลอดภัยระดับ 5 ดาว ตามมาตรฐาน EURO NCAP
ดีไซน์พรีเมียม-ลักชูรีเพื่อการใช้ชีวิตในเมืองได้อย่างง่ายดาย
ด้วยปรัชญาการออกแบบที่ยึดถือ ความงดงามของนวัตกรรม ความหรูหรา และความยั่งยืน ZEEKR X ได้รับแรงบันดาลใจจากความเรียบง่ายแบบสแกนดิเนเวีย ผสมผสานเส้นสายที่สะอาดและความหรูหราที่โปร่งโล่ง โดยเน้นที่การใช้งาน สร้างพื้นที่ที่เทคโนโลยีผสมผสานอย่างลงตัวกับสุนทรียภาพ ตัวรถมีขนาด ความกว้าง x ความยาว x ความสูง 4,432 mm x 1,836 mm x 1,566 mm ระยะฐานล้อ 2,750 mm ซึ่งเป็นขนาดสมมาตร
โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นในทุกมุมมอง ไม่ว่าจะเป็น ความโค้งมน กระจกมองข้างแบบไร้กรอบ ดีไซน์ที่จับประตูแบบ Hidden Capacitive Sensing Door Handles ช่องชาร์จไฟที่เรียบสนิทไปกับตัวรถ ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED ที่เป็นเอกลักษณ์ของ ZEEKR ไฟท้ายแบบ LED พร้อมสัญลักษณ์ ZEEKR แบบสามมิติ
การออกแบบภายในที่พิถีพิถันในทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ของหลังคากระจกพาโนรามาขนาด 1.21 ตารางเมตร พร้อมสัมผัสแสงธรรมชาติที่สาดส่องเข้ามาในห้องโดยสาร ตกแต่งด้วยสี Rose Gold ทั่วทั้งคัน ไม่ว่าจะเป็นสวิตช์หน้าต่าง ปุ่มเปิดประตู หรือแม้แต่ Hook สำหรับแขวนแจ็คเก็ต
หน้าจอกลางขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว มาพร้อมกับชิป 8155 จาก Qualcomm Snapdragon เพื่อรองรับการประมวลผลอย่างรวดเร็ว และเพราะความยั่งยืนคือหัวใจสำคัญของทุกการตัดสินใจออกแบบ ZEEKR จึงใช้วัสดุคุณภาพสูงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทั้งคัน สะท้อนถึงความมุ่งมั่นต่ออนาคตที่สะอาดกว่า
มาพร้อมความปลอดภัยขั้นสูง
ZEEKR มองเห็นอนาคตของการขับเคลื่อนที่มีความชาญฉลาด เป็นมิตร มั่นใจ และปรับเปลี่ยนได้ ด้วยระบบอัตโนมัติขั้นสูงแห่งอนาคตที่จะนำพาผู้ใช้งานไปสู่ที่หมายตามต้องการได้อย่างปลอดภัยและง่ายดาย กับนวัตกรรมการขับเคลื่อนด้วยสถาปัตยกรรมทางประสบการณ์ที่ยั่งยืน (Sustainable Experience Architecture – SEA) รวมถึง ระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง (ZEEKR Advanced Driving Assistance System – ZEEKR AD) ด้วยกล้องความละเอียดสูง 5 ตัว เรดาร์ความยาวคลื่น 5 มิลลิเมตร และ เรดาร์อัลตราโซนิค 12 ตัว รวมถึงระบบช่วยเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ (Automatic Lane Change – ALC) ระบบรักษาตำแหน่งในเลน (Lane Centering Control – LCC) ระบบแจ้งเตือนวัตถุในจุดบอด (Blind Spot Detection – BSD) ระบบแสดงภาพรอบตัวรถ (Around View Monitor – AVM)
หนึ่งในจุดเด่นก็คือ โครงสร้างแบบ SEA Platform ที่เป็นเอกลักษณ์ของ ZEEKR ที่จะช่วยทั้งในด้านการขับขี่ สมรรถนะ การทรงตัว รวมถึงการลดเสียงรบกวนที่อาจเกิดขึ้นตามจุดต่างๆ เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่ดีเยี่ยม เพิ่มความพิเศษยิ่งขึ้นกับ Lightning Switch Intelligent AWD System หรือระบบปรับเปลี่ยนรูปแบบการขับขี่แบบ AWD อัตโนมัติเพียงแค่เสี้ยววินาที เทคโนโลยีและนวัตกรรมเหล่านี้ ช่วยให้การขับขี่เกิดความคล่องตัวแต่ยังสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของผู้ใช้ ด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียดนั่นเอง
“ZEEKR X ไม่ได้เป็นเพียงแค่ยานยนต์ไฟฟ้าธรรมดา แต่มันคือปรากฏการณ์ระดับโลก นี่คือ Global Premium Compact SUV เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงพลังของความกล้าที่จะแตกต่าง มันไม่ใช่แค่ยานพาหนะ แต่คือสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม เป็นตัวแทนของโลกที่เชื่อมโยงกันด้วยความตื่นเต้นเร้าใจของการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า” เป่า จ้วงเฟย (อเล็กซ์) กล่าว
ZEEKR X มาพร้อม 5 โทนสี ได้แก่ สีขาว Crystal White สีครีม Palace Beige สีเขียว Pine Green สีเทาเข้ม Grid Grey และสีเทาพิเศษ Mist Grey
ZEEKR X ทำตลาดในไทยทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น Standard ที่มาพร้อมมอเตอร์เดี่ยว ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลังการขับขี่ 272 แรงม้า และระยะทางในการขับขี่ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ไกลถึง 540 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC มาพร้อมกับอุปกรณ์ครบครัน ทั้งไฟหน้าแบบ Full LED , Panoramic Glassroof ล้อขนาด 18 นิ้ว และที่โดดเด่นคือ รุ่น Standard ราคา 1,199,000 บาท
รุ่น Flagship ซึ่งเป็นรุ่นที่โดดเด่นด้าน Performance มาพร้อมกับมอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้กำลังสูงถึง 428 แรงม้า และระยะทางการขับขี่ที่ 470 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง รุ่น Flagship จะมีอุปกรณเพิ่มเติมมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ล้อแบบ Forged Wheel ขนาด 20 นิ้ว AR HUD , ไฟ Ambient Light และระบบเสียงรอบทิศทางจาก YAMAHA ทั้งหมด 13 ตำแหน่ง เคาะราคา 1,349,000 บาท พร้อมโปรโมชั่นพิเศษประกันภัยชั้น 1 พร้อมการรับประกัน ตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน
การรับประกันมอเตอร์และแบตเตอรี่แรงดันสูง 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง และบริการ Mobile Service
พิเศษสำหรับ 500 คนแรก ที่จองและรับรถภายในสิงหาคม 2567 นี้ รับฟรี Wallbox จาก “VREMT” พร้อมแพคเกจติดตั้ง มูลค่า 50,000 บาท สามารถจองและชมรถได้จาก POP UP STORE ทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ Emsphere , Central Westgate , The Mall Bangkae และ Central Rama 2
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวต่างๆของ ZEEKR ได้ที่
Website: https://www.zeekrglobal.com/th/
Facebook: https://www.facebook.com/ZEEKRTHA/
ที่มา : ZEEKR THAILAND