ยอดผลิต BEV ในไทยไตรมาสแรก ปี 2567 สะสมแล้ว 2,647 คัน ยอดผลิตเดือนมีนาคม 1,226 คัน ยอดขาย BEV เดือนมีนาคมชลอตัวที่ 4,615 คัน สอท.คาดการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจะเพิ่มมากขึ้นในไตรมาสที่ 3
สถิติการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าประเภท BEV (Battery Electric Vehicle) ในไทยยังสร้างนิวไฮอย่างต่อเนื่อง จากยอดรวมทั้งปี ของปี 2566 ตั้งแต่ ม.ค.-ธ.ค. ที่มีการผลิตรถ BEV ในไทยเพียง 164 คัน แต่ล่าสุด ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สายการผลิตรถ BEV ในไทยเร่งสปีดสู่หลักพัน ที่ตัวเลข 1,226 คัน เป็นครั้งแรก ทำให้ยอดผลิต BEV ในไทยไตรมาสแรก ปี 2567 สะสมแล้ว 2,647 คัน
สถิติการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ประเภท BEV (Battery Electric Vehicle) ในประเทศไทย
- ปี 2565 ยังไม่มีการผลิต
- ปี 2566 ตั้งแต่ ม.ค.-ธ.ค. 2566 ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ประเภท BEV (Battery Electric Vehicle) จำนวน 164 คัน
- ปี 2567 เดือนมกราคม ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ประเภท BEV (Battery Electric Vehicle) จำนวน 652 คัน
- ปี 2567 เดือนกุมภาพันธ์ ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ประเภท BEV (Battery Electric Vehicle) จำนวน 766 คัน
- ปี 2567 เดือนมีนาคม 2567 ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ประเภท BEV (Battery Electric Vehicle) จำนวน 1,226 คัน
- รวมยอดผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ประเภท BEV ตั้งแต่เดือนมกราคม – มีนาคม 2567 มีจำนวน 2,647 คัน
อย่างไรก็ตาม นี่ยังเป็นตัวเลขช่วงตั้งไข่ของการผลิตรถ BEV ในไทย หากโรงงานของค่ายรถยนต์ต่างๆเดินเครื่องเต็มที่จะสามารถผลิตรถ BEV ได้มากกว่าปัจจุบัน เพราะแค่โรงงานประกอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของ NETA ที่นิคมอุตสาหกรรมบางชัน กรุงเทพมหานคร ก็มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 20,000 คัน/ปี
ส่วนค่าย Honda นั้นยอดผลิต Honda e:N1 อาจจะไม่สูงมากนัก เนื่องจากปรับกลยุทธ์การทำตลาดเป็นการเช่าซื้อ โดยมุ่งกลุ่มลูกค้าองค์กรเป็นหลัก จากต้นทุนการผลิตที่สูง
ล่าสุดนายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยจำนวนการผลิตรถยนต์ ในเดือนมีนาคม 2567 ผลิตรถยนต์ 138,331 คัน ลดลงร้อยละ 23.08 ขาย 56,099 คัน ลดลงร้อยละ 29.83 ส่งออก 95,089 คัน ลดลงร้อยละ 3.35 ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 1,226 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 2,965 ขายรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) 4,615 คัน ลดลงร้อยละ 28.38
การผลิตจำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนมีนาคม 2567 มีทั้งสิ้น 138,331 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 23.08 ลดลงจากการผลิตขายในประเทศลดลงร้อยละ 41.01 จากการผลิตรถกระบะและรถยนต์นั่งที่ลดลงตามยอดขายในประเทศที่ลดลงจากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงิน รวมไปถึงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยยังไม่มาก เพราะโรงงานผลิตรถยนต์บางบริษัทยังไม่พร้อม ซึ่งคาดว่าการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจะเพิ่มมากขึ้นในไตรมาสที่ 3 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ร้อยละ 3.47
รถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม – มีนาคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 414,123 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2566 ร้อยละ 18.45
- รถยนต์นั่ง เดือนมีนาคม 2567 ผลิตได้ 52,099 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 18.39 โดยแบ่งเป็น
- รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine มีจำนวน 31,684 คัน
- รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle มีจำนวน 1,226 คัน
- รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 606 คัน
- รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 18,583 คัน
ยอดผลิตของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม – มีนาคม 2567มีจำนวน 155,049 คัน เท่ากับร้อยละ 37.44 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2566 ร้อยละ 13.62 โดยแบ่งเป็น
- รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine มีจำนวน 93,923 คัน
- รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle มีจำนวน 2,647 คัน
- รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 1,548 คัน
- รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 56,931 คัน
ยอดขายยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนมีนาคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 56,099 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ร้อยละ 6.16 และลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 29.83 ลดลงจากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงินจากหนี้ครัวเรือนที่สูงมากและเศรษฐกิจที่อ่อนแอ เพราะความล่าช้าของงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ที่ล่าช้าไปหลายเดือน ทำให้การใช้จ่าย การลงทุน และการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชะลอตัวไปด้วย ซึ่งคาดว่าครึ่งปีหลังยอดขายรถยนต์จะดีขึ้นจากการใช้จ่าย การลงทุนและการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลร่วมกับการลงทุนของเอกชนและการท่องเที่ยวที่เติบโตขึ้นมากกว่า 33 ล้านคน
- รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 30,894 คัน เท่ากับร้อยละ 55.07 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 22.70
- รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 13,390 คัน
- รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 4,615 คัน
- รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 201 คัน
- รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 12,688 คัน
ตั้งแต่เดือนมกราคม – มีนาคม 2567 รถยนต์มียอดขาย 163,756 คัน ลดลงจากปี 2566 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 24.56 แยกเป็น
- รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 96,794 คัน เท่ากับร้อยละ 59.11 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 8.23
- รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 41,058 คัน
- รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 19,131 คัน
- รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 563 คัน
- รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 36,042 คัน
อ่านฉบับเต็มได้ที่
https://url.fti.or.th/l/Pb6obgaQq
ที่มา : สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)