Last updated: 5 เม.ย 2567 | 1257 จำนวนผู้เข้าชม |
บีโอไอ บุกโรดโชว์แดนมังกร 7-10 เมษายน พบผู้บริหารระดับสูงแบตเตอรี่ยักษ์ใหญ่อย่าง CATL, CALB, IBT, Eve Energy, Gotion High-tech, Sunwoda และ SVOLT Energy Technology ดึงเข้ามาลงทุนตั้งฐานผลิตแบตเตอรี่ต้นน้ำระดับเซลล์ในไทยตามนโยบายบอร์ดอีวี
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) เห็นชอบ “มาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อผลิตแบตเตอรี่ระดับเซลล์สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และระบบกักเก็บพลังงาน (ESS)” เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 และต่อมาคณะกรรมการนโยบายเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย (บอร์ดกองทุนเพิ่มขีดความสามารถฯ) ได้เห็นชอบหลักเกณฑ์และสิทธิประโยชน์ส่งเสริมการลงทุนตามมาตรการดังกล่าว เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 บีโอไอจึงได้จัดคณะเดินทางโรดโชว์การลงทุน ณ มณฑลกวางตุ้ง และมณฑลฝูเจี้ยน สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 7 – 10 เมษายน 2567 เพื่อดึงการลงทุนจากผู้ผลิตแบตเตอรี่ระดับเซลล์ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและใช้เงินลงทุนสูง อีกทั้งเป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า มาลงทุนในประเทศไทย
ทั้งนี้ มาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อผลิตแบตเตอรี่ระดับเซลล์ มีวัตถุประสงค์เพื่อดึงดูดให้ผู้ผลิตแบตเตอรี่ชั้นนำของโลกเข้ามาลงทุนตั้งฐานการผลิตแบตเตอรี่ระดับเซลล์ในประเทศไทย เพื่อจำหน่ายในประเทศและใช้ไทยเป็นฐานการส่งออก โดยกำหนดเงื่อนไขในการขอรับการส่งเสริม 4 ข้อ คือ (1) ต้องเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ชั้นนำที่มีการใช้งานโดยผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (2) ต้องเป็นการผลิตเซลล์แบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ทั้งยังสามารถผลิตเซลล์แบตเตอรี่สำหรับระบบกักเก็บพลังงานในโครงการเดียวกันด้วยได้ (3) ต้องผลิตเซลล์แบตเตอรี่ที่มีค่าพลังงานจำเพาะ ไม่น้อยกว่า 150 Wh/Kg และ (4) ต้องมีจำนวนรอบการอัดประจุ (Life Cycle) ไม่น้อยกว่า 1,000 รอบ
ผู้ลงทุนที่ได้รับการส่งเสริมจะได้รับสิทธิประโยชน์หลายด้าน เช่น ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลาสูงสุดไม่เกิน 15 ปี ยกเว้นภาษีจากเงินปันผล ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร ยกเว้นอากรขาเข้าวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตเพื่อส่งออก ลดหย่อนอากรขาเข้าไม่เกินร้อยละ 90 ของอัตราปกติสำหรับวัตถุดิบที่นำเข้ามาผลิตเพื่อจำหน่ายภายในประเทศ ยกเว้นอากรขาเข้าสำหรับของที่นำเข้ามาเพื่อใช้ในการวิจัยและพัฒนา นอกจากนี้ ยังจะได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันฯ เพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายบางส่วนในการลงทุน การวิจัยและพัฒนา หรือการพัฒนาบุคลากร สำหรับวิธีการให้สิทธิประโยชน์จะเป็นรูปแบบการเจรจาเป็นรายโครงการ
ในด้านการเจรจา คณะกรรมการจะคำนึงถึงแผนการลงทุน ขนาดกำลังการผลิต การเชื่อมโยงและสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ระดับของเทคโนโลยี แผนการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยี การจ้างงานและการพัฒนาบุคลากร และประเด็นอื่น ๆ ที่จะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับห่วงโซ่อุปทานและการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
การโรดโชว์ครั้งนี้ บีโอไอจะพบกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัทแบตเตอรี่ยักษ์ใหญ่ของจีน ซึ่ง ล้วนเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าชั้นนำ 10 อันดับแรกของโลก อาทิ บริษัท Contemporary Amperex Technology (CATL), China Aviation Lithium Battery (CALB), Inpow Battery Technology (IBT), Eve Energy, Gotion High-tech, Sunwoda และ SVOLT Energy Technology เพื่อนำเสนอศักยภาพด้านการลงทุนของประเทศไทย พร้อมทั้งสิทธิประโยชน์และมาตรการสนับสนุนของรัฐ นอกจากนี้ยังจะพบกับบริษัท XPeng Motor ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ ที่เพิ่งเปิดตัวในประเทศไทยในงานมอเตอร์โชว์ปีนี้ เพื่อหารือแผนการลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในระยะต่อไปด้วย
ปัจจุบันบีโอไอได้อนุมัติให้การส่งเสริมในกิจการที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้าทั้งสิ้น 103 โครงการ เงินลงทุนกว่า 77,000 ล้านบาท โดยเป็นการส่งเสริมในกิจการผลิตแบตเตอรี่ 40 โครงการ เงินลงทุนประมาณ 25,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้ เป็นแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า 24 โครงการ เงินลงทุนรวม 13,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นการผลิตแบตเตอรี่ที่มีความจุสูง (High-Density Battery) สำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ 16 โครงการ เงินลงทุนรวม 12,000 ล้านบาทโครงการเกือบทั้งหมดเป็นการผลิตในขั้นโมดูลและแพ็คเท่านั้น ครั้งนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญที่จะดึงบริษัทชั้นนำของโลกมาลงทุนผลิตแบตเตอรี่ระดับเซลล์ในประเทศไทย
“โรดโชว์ครั้งนี้มีเป้าหมายชัดเจนที่จะมุ่งเจาะกลุ่มบริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่ระดับโลกจากจีน เพื่อดึงให้เข้ามาตั้งฐานผลิตเซลล์ในประเทศไทย ซึ่งเป็นวัตถุดิบต้นน้ำที่มีความสำคัญอย่างมากต่อการสร้างความเข้มแข็งและเติมเต็มซัพพลายเชนของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า จะทำให้ไทยเป็น Hub ของการผลิตแบตเตอรี่และยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร ทั้งยังช่วยต่อยอดให้กับอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดที่ต้องใช้แบตเตอรี่ในระบบกักเก็บพลังงานด้วย” นายนฤตม์ กล่าว
ที่มา : บีโอไอ