ดร. นลินี หารือ ทูตสวีเดน ปลื้มสัมพันธ์ใกล้ชิด ชวนลงทุนในไทยเพิ่มเติม เน้นให้ความสำคัญการลงทุนเทคโนโลยีสีเขียว

“ดร. นลินี ทวีสิน” หารือ ทูตสวีเดน ปลื้มความสัมพันธ์ 156 ปี ใกล้ชิดทุกมิติ ชวนลงทุนในไทยเพิ่มเติม โดยเฉพาะการลงทุนเทคโนโลยีสีเขียวเผยที่ผ่านมามีผู้ประกอบการสวีเดนลงทุนไทยกว่า 70 บริษัท อาทิ Volvo, Electrolux, IKEA และ Ericsson

วันนี้ (16 มี.ค. 67) ดร. นลินี ทวีสิน หารือทูตสวีเดน ชี้ความสัมพันธ์ใกล้ชิดทุกมิติ ทั้งในด้านการค้า การลงทุน ความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน ชักชวนรับการลงทุนเพิ่มเติม โดยเฉพาะการลงทุนสีเขียวและเทคโนโลยีสีเขียว ปลื้มสวีเดนสนับสนุนการเจรจา THAI – EU FTA

ดร.นลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยหลังจากการหารือร่วมกับนางอันนา ฮัมมาร์เกรน เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรสวีเดนประจำประเทศไทย และผู้บริหารระดับสูงของบริษัทจากสวีเดน เช่น SAAB และ Midsummer ว่า ไทยและสวีเดนมีความสัมพันธ์ทางการทูตยาวนานถึง 156 ปี และมีความสัมพันธ์ที่ใกลิชิดในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นในด้านการค้า ที่สวีเดนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทยในกลุ่มประเทศนอร์ดิก มีมูลค่าการค้ารวมในปี 2566 อยู่ที่ราว 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือในด้านการลงทุน ซึ่งมีบริษัทสวีเดนที่มาลงทุนในไทยกว่า 70 บริษัท อาทิ Volvo, Electrolux, IKEA และ Ericsson ส่วนมากอยู่ในพื้นที่ EEC รวมถึงมิติด้านความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน ที่ในปีที่ผ่านมามีชาวสวีเดนเดินทางมาไทยกว่า 1.7 แสนคน ขณะที่มีคนไทยอาศัยอยู่ในสวีเดนราว 8 หมื่นคน รวมถึงสวีเดนยังได้แสดงความพร้อมในการสนับสนับสนุนการเจรจา FTA THAI-EU ให้บรรลุผลการเจรจาภายในปี 2025

ผู้แทนการค้าไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้ใช้โอกาสนี้ในการเชิญชวนนักลงทุนสวีเดนมาลงทุนเพิ่มเติมในสาขาที่สวีเดนมีศักยภาพสูง โดยเฉพาะการลงทุนสีเขียว หรือ Green Investment และเทคโนโลยีสีเขียว (Green Technology) ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนการมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net-zero) ของไทย โดยเน้นย้ำความพร้อมในการเปิดกว้างรับการลงทุน ทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐานและนโยบายที่สนับสนุนการลงทุนสีเขียวของไทย นอกจากนี้ยังได้หารือแนวทางการยกระดับฝีมือแรงงาน โดยเฉพาะการยกระดับอาชีวศึกษาเพื่อให้พร้อมรับกับการลงทุนสมัยใหม่ในอุตสาหกรรมที่ต้องการทักษะแรงงานระดับสูง

ทั้งนี้ทางฝ่ายสวีเดน แจ้งว่าพร้อมเข้ามาสนับสนุนในเรื่องนี้ เนื่องจากทางการดำเนินงานของบริษัทชั้นนำของสวีเดนนั้นจะเน้นไปที่การทำธุรกิจในระยะยาว จะไม่ใช่เฉพาะการขายสินค้า แต่จะมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการฝึกอบรมแก่ผู้ใช้ด้วย