Last updated: 7 มี.ค. 2567 | 542 จำนวนผู้เข้าชม |
“เกีย คอร์ปอเรชั่น” ผนึก สยามกลการอะไหล่ และลีนุตพงษ์โฮลดิ้ง เสริมศักยภาพ เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) วางกลยุทธ์ “Plan S-5” เพิ่มสัดส่วนรถยนต์ไฟฟ้า 50% ของยอดขายทั้งหมด ตั้งเป้าครองส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ส่วนบุคคล 5% เป็นแบรนด์ผู้บริโภครับรู้ 5 อันดับแรก เล็งขยายเครือข่ายดีลเลอร์เพิ่ม 5 เท่า
การร่วมทุนครั้งนี้เป็นการรวบรวมจุดแข็งและความเชี่ยวชาญอันหลากหลายของทั้ง 3 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท สยามกลการอะไหล่ จำกัด อีกหนึ่งธุรกิจสำคัญภายใต้ Siam Motors Group กลุ่มบริษัทยานยนต์ที่มีประวัติยาวนานที่สุดในประเทศไทย มีความโดดเด่นในด้านเครือข่ายการจัดจำหน่าย อะไหล่ยานยนต์ โลจิสติกส์ โซลูชันระบบ ขับเคลื่อน (Powertrain) รวมถึงการลงทุนในธุรกิจยานยนต์ และบริษัท ลีนุตพงษ์โฮลดิ้ง จำกัด กลุ่มบริษัท ยนตรกิจ คอร์ปอเรชั่น ที่มีประสบการณ์อันยาวนานในการนำเข้าเทคโนโลยียานยนต์ชั้นนำจากยุโรปและเอเชียมากว่า 70 ปี มาสู่ตลาดประเทศไทย เมื่อรวมศักยภาพด้านต่างๆ ของทั้ง 2 บริษัทเข้ากับไลน์อัปผลิตภัณฑ์ของเกีย จะช่วยผลักดันให้เกีย เซลส์ (ประเทศไทย)
ความร่วมมือครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากกลยุทธ์ “Plan S-5” ของเกีย เซลส์ (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นแผนการดำเนินธุรกิจระยะ 5 ปี ระหว่างปี 2567 ถึง 2571 โดยมุ่งหวังที่จะบรรลุเป้าหมายสำคัญ 4 ประการ ได้แก่ 1.) การครองส่วนแบ่ง 5% ของตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในประเทศไทย 2.) การเพิ่มสัดส่วนการทำตลาดรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวขึ้นเป็น 50% ของยอดจำหน่ายทั้งหมด 3.) การก้าวขึ้นสู่ทำเนียบแบรนด์ที่มีการรับรู้จากผู้บริโภคสูงสุด 5 อันดับแรก และ 5.) การขยายเครือข่ายดีลเลอร์ทั่วประเทศให้เติบโตขึ้น 5 เท่าตัว
นายธเนส วัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามกลการอะไหล่ จำกัด ได้กล่าวแสดงถึงความมุ่งมั่นในการร่วมทุนครั้งนี้ ด้วยประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจกว่า 35 ปี รวมถึงการมีเครือข่ายและพันธมิตรที่แข็งแกร่ง ครอบคลุมอุตสาหกรรมในด้านต่างๆ ของบริษัทฯ ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสําคัญในการขยายเส้นทางการเติบโตของเกียในประเทศไทยผ่านความสัมพันธ์ทาง ธุรกิจที่แน่นแฟ้นกับทางบริษัท สยามกลการอะไหล่ จำกัด
นางธันยนันท์ ลีนุตพงษ์ ศิริมงคลเกษม กรรมการบริหาร บริษัท ลีนุตพงษ์โฮลดิ้ง จำกัด ได้สะท้อนความเห็นที่สอดคล้องกัน โดยเน้นย้ำถึงการผนึกกำลังใช้จุดแข็งของทั้ง 3 บริษัทในการส่งเสริมศักยภาพและขับเคลื่อนแบรนด์เกียไปสู่อนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน เกียเชื่อมั่นว่าความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพให้กับกลยุทธ์ด้านเครือข่ายการจำหน่าย การตลาด และการให้บริการ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในตลาดประเทศไทยได้ตรงจุด รวมทั้งช่วยให้แบรนด์มีสถานะที่แข็งแกร่งและเป็นที่จับตามองมากขึ้นในภูมิทัศน์ยานยนต์ของประเทศไทย