อินฟอร์มาฯ ร่วมกับ สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย จัดงาน “Electric Vehicle Asia 2024” และ “iEVTech 2024” วันที่ 3-5 ก.ค.2567

อินฟอร์มาฯ ร่วมกับ สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย จัดงาน “Electric Vehicle Asia 2024” และ “iEVTech 2024” ระหว่างวันที่ 3-5 กรกฎาคม 2567 เผยผู้ประกอบการ EV กว่า 25 ประเทศทั่วโลก อาทิ ABB, Bossard, Delta, Grob, Trumpf, Carl Zeiss, Wima ขนเทคโนโลยีและนวัตกรรมทันสมัยยานยนต์ไฟฟ้ามาจัดแสดงในงาน

อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย พร้อมด้วยสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) สานต่อความร่วมมือจัดงาน “Electric Vehicle Asia (EVA) และ iEVTech 2024” งานแสดงเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้างานแรกที่จัดมาอย่างยาวนานที่สุดในประเทศไทย โดยได้รับการสนับสนุนจาก กระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ปักธงเตรียมจัดงานใหญ่ ระหว่างวันที่ 3-5 กรกฎาคม 2567 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

Electric Vehicle Asia (EVA) และ iEVTech 2024 เป็นงานที่รวบรวมเทคโนโลยีและการประชุมเฉพาะทางด้านยานยนต์ไฟฟ้าระดับนานาชาติไว้อย่างครบวงจร โดยมีเป้าหมายเสริมความแข็งแกร่งให้กับผู้ประกอบการ EV และภาคการผลิตเพื่อขานรับการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทยในระดับภูมิภาค  โดยมีหมุดหมายสร้างเครือข่าย ต่อยอดธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า และเตรียมความพร้อมไทยสู่การเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) อย่างยั่งยืนในอนาคต 

นายกฤษฎา อุตตโมทย์ นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) กล่าวว่า ปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกมีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลจาก EV-Volumes.com ระบุว่ายอดการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก ทั้งแบบใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ (BEV) และปลั๊กอิน-ไฮบริด (PHEV) ในปี 2023 มีปริมาณ 14.2 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบกับปี 2022  มีการคาดการณ์ว่าปี 2024 จะมียอดการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 2 ประเภท รวมกันราว 17.8 ล้านคัน ส่งผลให้มีจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าสะสมทั่วโลกอยู่ที่ราวๆ 40 ล้านคัน โดยเฉพาะประเทศไทยในปี 2023 กลุ่มยานยนต์ไฟฟ้าในประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่จดทะเบียนใหม่มีอัตราการเติบโตในภาพรวมจากปีก่อนประมาณ 690% หรือ 76,366 คัน

ขณะที่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามียอดการเติบโต 121% หรือประมาณ 21,927 คัน ทั่งนี้ปัจจัยบวกสำคัญมาจากนโยบายของภาครัฐในการสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้า อย่างมาตรการ EV 3.0 และ 3.5 ที่ให้เงินอุดหนุน ลดภาษีนำเข้า และลดภาษีสรรพสามิตสำหรับค่ายรถยนต์ที่ลงนามในข้อตกลง MoU กับกรมสรรพสามิต เพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศตามมาตรการสนับสนุน ยกระดับให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค โดยมาตรการ EV 3.5 มีผลบังคับใช้ในปี 2024-2027 เพื่อสนับสนุนการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ

มาตรของรัฐได้กำหนดให้มีการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า BEV ภายในประเทศ ในปี 2026 ที่อัตราส่วนการผลิต 2 คัน ต่อการนำเข้า 1 คัน และในปี 2027 กำหนดการผลิตภายในประเทศ 3 คันต่อการนำเข้า 1 คัน นอกจากนี้แล้วยังมีแนวโน้มการลงทุนเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่น่าสนใจ อาทิ ยานยนต์ไร้คนขับ (Autonomous Driving) ข้อมูลสำหรับเชื่อมต่อยานยนต์กับการสื่อสาร (Data-Driven & Connected Service) และ การแบ่งปันการใช้งาน (Shared Service) จะเข้ามาช่วยสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจของยานยนต์สมัยใหม่

“ที่ผ่านมาสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทยได้ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อสนับสนุนองค์ความรู้ในด้านต่างๆเกี่ยวข้อง ทั้งระบบขับเคลื่อนแบตเตอรี่ ระบบการชาร์จ รวมถึงเทคโนโลยี simulation ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการผลิต มีการทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายต่างๆ อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน”

ทั้งนี้หนึ่งเวทีสำคัญ คือ การจัดการประชุมนานาชาติ iEVTech 2024 ร่วมกับอินฟอร์มาฯ ในงาน Electric Vehicle Asia ต่อเนื่องทุกปี สำหรับในปีนี้จัดขึ้นในหัวข้อ “Global EV Industry Transformation Towards  Decarbonization ” เป็นเวทีที่รวบรวมผู้เชี่ยวชาญระดับโลก นักวิจัย นักพัฒนา ผู้กำหนดนโยบาย และซัพพลายเออร์ที่เกี่ยวข้องในแวดวงยานยนต์ไฟฟ้ามาร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ใหม่ๆ ร่วมกัน นับเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองในการพัฒนาเทคโนโลยีในอุตสาหกรรม EV ครบวงจรและเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับการขนส่งพลังงานสะอาดของไทยสู่การเป็นผู้นำในอาเซียนต่อไป” นายกฤษฎา กล่าว

นายสรรชาย นุ่มบุญนำ ผู้จัดการทั่วไป อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ – ประเทศไทย กล่าวว่า อินฟอร์มาฯ มองเห็นทิศทางการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานมาอย่างต่อเนื่อง และได้เริ่มจัดแสดงเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าเป็นรายแรกในไทยผ่านการจัดงาน “Electric Vehicle Asia” ที่มีการจัดงานต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 ระยะแรกมีเป้าหมายสำคัญในการชี้เทรนด์รวมถึงสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับยานยนต์ดังกล่าว ปัจจุบันงานนี้กลายเป็นเวทีที่ได้รับการยอมรับในระดับภูมิภาค

สำหรับการจัดงานครั้งนี้ผู้ประกอบการได้ขนทัพเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยด้านยานยนต์ไฟฟ้ามาจัดแสดงจากกว่า 25 ประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น มอเตอร์ แบตเตอรี่ สถานีชาร์จ ชิ้นส่วน รวมถึงยานยนต์ต้นแบบ อาทิ  ABB, Bossard, Delta, Grob, Trumpf, Carl Zeiss, Wima เป็นต้น พร้อมกันนี้ยังมีพาวิเลียนนานาชาติกว่า 7 ประเทศ ทั้ง เยอรมนี ญี่ปุ่น เกาหลี จีน สวิตเซอร์แลนด์ สิงคโปร์ และไต้หวัน นอกจากนี้ยังได้รวบรวมผู้นำและผู้เชี่ยวชาญจากเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าจากทั่วทุกมุมโลกครอบคลุมในมิติของยานยนต์ไฟฟ้า (EV Eco System) ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำในทุกห่วงโซ่อุปทาน เสริมแกร่งให้ผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะในภาคการผลิตมีความพร้อมในทุกด้านสู่การเป็นฐานการผลิตและเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมในอนาคตของภูมิภาค

ปีนี้งาน EVA 2024 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “EV Ecosystem Transformation Towards Net Zero” หรือ การเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศน์ยานยนต์ไฟฟ้าสู่คาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ มีการเชิญ Delegation จากหลายประเทศในกลุ่มอาเซียน รวมทั้งประชาสัมพันธ์งานสู่ผู้ซื้อคุณภาพทั่วโลก ผ่านเครือข่ายและฐานข้อมูลในแวดวงยานยนต์ไฟฟ้าตอกย้ำความพร้อมการเป็นศูนย์กลางในการสร้างเครือข่ายพันธมิตรในทุกห่วงโซ่อุปทานด้าน EV โดยมีไฮไลต์สำคัญ คือ การประชุมนานาชาติด้านยานยนต์ไฟฟ้า iEVTech ที่รวบรวมหัวข้อเทรนด์ยานยนต์ไฟฟ้าต่างๆอย่างครอบคลุม

ที่มา :  ฮิต ทู พับบลิค