ร้อนฉ่าส่งท้ายปี! เสี่ยวมี่เปิดตัว “Xiaomi SU7” มอเตอร์แฝด 673 แรงม้า เทคโนโลยีแรงดัน 800V วิ่งไกล 800 กม./ชาร์จ

Last updated: 29 ธ.ค. 2566 | 989 จำนวนผู้เข้าชม |

น้องเล็กสเป็คแรง! เสี่ยวมี่เปิดตัว EV รุ่นแรกของค่ายภายใต้ชื่อ “Xiaomi SU7” ตัวท็อป ติดตั้งแบตเตอรี่ความจุ 101 kWh เทคโนโลยีแรงดัน 800V มอเตอร์แฝด 673 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 838 นิวตันเมตร วิ่งได้ไกล 800 กม.หลังชาร์จเต็ม

โลกของ EV ปีมังกรมีสีสันขึ้นมาทันทีที่ “เสี่ยวมี่” ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนยักษ์ใหญ่ของจีนเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของบริษัทภายใต้ชื่อ “Xiaomi SU7” อย่างเป็นทางการในงาน Xiaomi 12S Series Launch เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2023 Lei Jun ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Xiaomi ประกาศท้าชน Porsche Taycan และ Tesla Model S ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศจีนแบบเปิดหน้าชก

Xiaomi SU7 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าซีดานขนาดกลาง ออกแบบโดยทีมงานของ Li Tianyuan หัวหน้าฝ่ายออกแบบรถยนต์ของเสี่ยวมี่ที่เคยทำงานกับ BMW โดยเขารับผิดชอบการออกแบบรถแนวคิด BMW i Vision Circular, BMW iX และซีรีส์ 7 ใหม่ ส่วนนักออกแบบภายนอกตัวรถคือ James Qiu ซึ่งเคยร่วมงานกับ Mercedes-Benz ในการออกแบบ Vision EQXX

การออกแบบ Xiaomi SU7 เน้นความเรียบง่ายและทันสมัย ด้านหน้าของตัวรถมีไฟหน้าแบบ Matrix LED ดีไซน์หยดน้ำ ไฟท้ายแบบ Halo Ring ดีไซน์โค้งมน ส่วนภายในห้องโดยสาร ตกแต่งด้วยวัสดุพรีเมียม ติดตั้งหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ถึง 5 จอ รองรับการเชื่อมต่อกับระบบอัจฉริยะ MIUI for Car

ตัวรถมีมิติความยาว 4,997 มม. กว้าง 1,963 มม. สูง 1,440 มม. และระยะฐานล้อ 3,000 มม. พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถมีความจุ 517 ลิตร

Xiaomi SU7 ติดตั้งแบตเตอรี่แบบ Cell-to-body เทคโนโลยีแรงดัน 800V แบตเตอรี่มี 2 ขนาดให้เลือก คือ ขนาดความจุ 73.6 kWh กับแบตเตอรรี่ความจุ 101 kWh โดยรุ่นที่ติดตั้งแบตเตอรี่ขนาด 73.6 kWh สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด 668 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

ตัวท็อปติดตั้งแบตเตอรี่ความจุ 101 kWh ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ กำลังสูงสุด 673 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 838 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ใน 2.78 วินาที และทำอัตราเร่ง 0-/200 กม./ชม. ได้ใน 10.67 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 265 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รองรับระบบชาร์จเร็วแบบ 800V โดยใช้เวลาชาร์จจาก 0-80% เพียง 25 นาที

และไม่จำเป็นต้องชาร์จนาน

ชาร์จด้วย DC HyperCharge 5 นาที วิ่งได้ 220 km.

ชาร์จด้วย DC HyperCharge 10 นาที วิ่งได้ 390 km.

ชาร์จด้วย DC HyperCharge 15 นาที วิ่งได้ 510 km.

ภายในห้องโดยสารของ Xiaomi SU7 ตกแต่งสไตล์เรียบหรู ติดตั้งหน้าจอกลางขนาด 16.1 นิ้ว ความละเอียด 3K เสริมด้วยชิป Snapdragon 8295 และระบบ Hyper OS ด้านหลังติดตั้งหน้าจอแท็บเล็ตสำหรับผู้โดยสารตอนหลังขนาด 12.3 นิ้ว เบาะนั่งหุ้มวัสดุหนัง Nappa ระดับพรีเมียม กว้างขวางและสะดวกสบาย

Xiaomi SU7 ติดตั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่อัตโนมัติแบบเต็มรูปแบบ (Full-stack autonomous driving) ทำงานด้วยชิปประมวลผล NVIDIA DRIVE Orin จำนวน 2 ตัว รองรับการตรวจจับวัตถุได้ไกลสูงสุด 500 เมตร

ก่อนที่จะกลายเป็นหนึ่งในบริษัทอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภครายใหญ่ที่สุด เดิม Xiaomi เคยเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่สร้าง ROM Android ที่ได้รับการดัดแปลงที่เรียกว่า MIUI ตอนนี้ HyperOS จะมาแทนที่ MIUI และกลายเป็นระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์เกือบทั้งหมดในระบบนิเวศของ Xiaomi รวมถึงรถยนต์

นั่นหมายถึงประสบการณ์การเชื่อมต่อและการบูรณาการจะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน Xiaomi สัญญาว่า SU7 จะสามารถจำลองโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตของคุณและจับคู่กับอุปกรณ์ Mi Watch , Mi Band และอุปกรณ์ Mi Home ได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตาม แม้จะใช้ผลิตภัณฑ์ของ Apple ผู้ใช้ก็จะได้รับประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมกับรถยนต์ Xiaomi ได้เช่นกัน

Xiaomi SU7 มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Aqua Blue , Mineral Gray และ Vendant Green

ระบบความปลอดภัย : เบรก ABS, EBD, ESC, TCS, TPMS, ถุงลมนิรภัย 6 จุด

ระบบช่วยเหลือการขับขี่ : กล้อง 360 องศา , ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ , ระบบเตือนเปลี่ยนเลน , ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) , ระบบเตือนรถตัดหน้า , ระบบเตือนจุดอับสายตา

ระบบความบันเทิง : หน้าจอกลางขนาด 16.1 นิ้ว ความละเอียด 3K , หน้าจอ Head-up Display ขนาด 56 นิ้ว , หน้าจอแท็บเล็ตสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง 2 จอ

“Xiaomi ต้องการก้าวขึ้นไปเป็นบริษัทรถยนต์ชั้นนำระดับท๊อปไฟว์ 5 อันดับแรกของโลก ในอีก 15-20 ปีข้างหน้า” CEO Lei Jun ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Xiaomi กล่าวในช่วงเริ่มต้นของการเปิดตัว เขาระบุว่า SU7 จะแข่งขันกับ Porsche Taycan และ Tesla Model S ในประเทศจีน

Carnewschina คาดว่าราคาของรุ่นพื้นฐานจะเริ่มต้นต่ำกว่า 300,000 หยวน (42,500 USD) โดยรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังเริ่มต้นที่ราคา 299,900 หยวน (ประมาณ 1.2 ล้านบาท) และรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อเริ่มต้นที่ราคา 399,900 หยวน (ประมาณ 1.6 ล้านบาท)