ซูเปอร์ เพาช์ โซลูชัน แบตเตอรี่สมรรถนะสูง ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าระยะทางวิ่ง 400 กม.ใช้เวลาเพียง 10 นาที

ฟาราซิส เอเนอร์จี เผยโฉม ซูเปอร์ เพาช์ โซลูชัน เทคโนโลยีแบตเตอรี่ eVTOL โซลูชันระบบแบตเตอรี่สมรรถนะสูง ผสานรวม 4 เทคโนโลยี ช่วยให้รถยนต์ไฟฟ้าชาร์จได้รวดเร็ว สามารถชาร์จให้มีระยะทางวิ่ง 400 กม.ในเวลาเพียง 10 นาที

นับตั้งแต่เดือนมกราคมถึงตุลาคม 2566 แบตเตอรี่พลังงานมีการติดตั้งสูงถึง 225GWh ทั่วโลก เพิ่มขึ้น 116.1% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ผู้ผลิตแบตเตอรี่ชั้นนำหลายรายจึงคิดค้นและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ รองรับความต้องการในด้านสมรรถนะของแบตเตอรี่ ทั้งในด้านการชาร์จเร็ว ความคุ้มทุน การใช้งานในระยะไกล โซลูชันน้ำหนักเบา และความปลอดภัย กันอย่างต่อเนื่อง

ฟาราซิส เอเนอร์จี (Farasis Energy) ผู้ผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสำหรับรถยนต์พลังงานใหม่และระบบกักเก็บพลังงานระดับโลก ได้มีการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ ๆ มากมายที่พัฒนาเอาไว้ รวมถึงซูเปอร์ เพาช์ โซลูชัน (Super Pouch Solution) หรือเอสพีเอส (SPS) เทคโนโลยีแบตเตอรี่ eVTOL โซลูชันระบบแบตเตอรี่สมรรถนะสูงสำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า และสถานีไฟฟ้าแบบพกพา ที่มหกรรมซัพพลายเชนนานาชาติจีน (China International Supply Chain Expo หรือ CISCE) ประจำปี 2566

เอสพีเอสถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาร์จ ลดต้นทุน ปรับปรุงสมรรถนะ และปรับให้เข้ากับยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่าง ๆ โซลูชันนี้ผสานรวม 4 เทคโนโลยีหลัก ได้แก่ เพาช์เซลล์ (pouch cell) ขนาดใหญ่ ระบบแบตเตอรี่แบบบูรณาการ กระบวนการผลิตที่ล้ำสมัย และการรีไซเคิลโดยตรงที่มีประสิทธิภาพ

ไฮไลต์เด่นของเอสพีเอส

• ความหนาแน่นของพลังงานสูง: ระบบเอสพีเอสให้ความหนาแน่นของพลังงานกว่า 220Wh/kg ความหนาแน่นนี้ทำให้ขับขี่ได้ไกลกว่า 1,000 กม. ขณะที่โครงแนวนอนแบบไม่ใช่โมดูลาร์อันเป็นเอกลักษณ์ทำให้มีความหนาแน่นของพลังงานเพิ่มขึ้นมากกว่า 30% เมื่อเทียบกับระบบโมดูลาร์ทั่วไปที่มีปริมาตรเท่ากัน
• เทคโนโลยีเซลล์ล้ำสมัย: เซลล์เอสพีเอสใช้การห่อหุ้มฟิล์มพลาสติกอะลูมิเนียมน้ำหนักเบาและกระบวนการซ้อนขั้นสูง ทำให้มีประสิทธิภาพเหนือกว่าแบตเตอรี่ทรงแท่งปริซึมและทรงกระบอกแบบดั้งเดิมในแง่ความหนาแน่นของพลังงานมากกว่า 10% สำหรับเซลล์ขนาดเดียวกัน
• ความสามารถในการชาร์จและการคายประจุอย่างรวดเร็ว: เทคโนโลยีเทอร์โบชาร์จ 800VTC ของฟาราซิส เอเนอร์จี ทำให้เอสพีเอสรองรับอัตราการชาร์จและการคายประจุได้ตั้งแต่ 2C ถึง 6C และสูงกว่า คุณสมบัตินี้ช่วยให้รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่าง ๆ ชาร์จได้รวดเร็ว โดยชาร์จให้มีระยะวิ่ง 400 กม. ได้ในเวลาเพียง 10 นาที ขณะเดียวกันก็ยังทำให้ปล่อยพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงด้วย
• นวัตกรรมการออกแบบน้ำหนักเบา: เอสพีเอสนำเพาช์เซลล์ขนาดใหญ่รูปแบบกึ่งแข็งมารวมเข้ากับแชสซีของระบบโดยตรง ควบคู่ไปกับแผ่นระบายความร้อนด้วยของเหลวสมรรถนะสูง ส่งผลให้ใช้ประโยชน์จากปริมาณได้ถึง 75% และลดจำนวนส่วนประกอบลงครึ่งหนึ่ง ทำให้ระบบมีน้ำหนักเบากว่าระบบแบตเตอรี่แบบเดิมถึง 20-30 กก. ทำให้น้ำหนักเบาและประสิทธิภาพผสมผสานกันอย่างลงตัว
• ปลอดภัยกว่าเดิม: เอสพีเอสมาพร้อมระบบเคมีที่ปลอดภัย มีการออกแบบเพาช์เซลล์ให้ซ้อนกันได้อย่างปลอดภัย ใช้วัสดุการเปลี่ยนเฟสที่เป็นกรรมสิทธิ์ การจัดการระบายความร้อนที่เหนือกว่า และระบบจัดการแบตเตอรี่ (BMS) ที่ขับเคลื่อนด้วยเอไอ เพื่อให้จัดการความปลอดภัยได้อย่างครอบคลุม นวัตกรรมนี้เพิ่มประสิทธิภาพการกระจายความร้อนได้ถึงสี่เท่า ยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้มากกว่า 3,000 รอบ แม้ในเซลล์ที่มีปริมาณนิกเกิลสูง เอสพีเอสป้องกันการแพร่กระจายของความร้อนในกรณีเกิดปฏิกิริยาที่มีการคายความร้อนสูงในแต่ละเซลล์ด้วย
• ความคุ้มค่า: การออกแบบของเอสพีเอสลดความต้องการวัสดุเสริมได้อย่างมาก ทำให้ไม่ต้องแยกส่วน ช่วยลดต้นทุนวัสดุได้ถึง 33% สายการผลิตนี้ทำงานร่วมกับระบบเคมีต่าง ๆ ได้ ทั้งแบตเตอรี่เหลว กึ่งแข็ง และโซลิดสเตต ซึ่งตอบสนองความต้องการที่หลากหลายและระยะยาวของผู้ผลิตยานยนต์ได้ ตัวระบบปรับแต่งขนาดได้ มีความยืดหยุ่นในการปรับความหนาของเพาช์เซลล์แนวนอนตั้งแต่ 85 มม. ถึง 145 มม. ความสามารถในการปรับตัวนี้ช่วยให้ระบบแบตเตอรี่มีความจุได้ตั้งแต่ 80kWh ถึง 150kWh ทำให้เอสพีเอสเหมาะกับยานพาหนะทุกประเภทบนแชสซีเดียว จึงช่วยให้ผู้ผลิตรถยนต์ย่นวงจรการวิจัยและพัฒนารถรุ่นใหม่ ๆ ลดต้นทุนการจัดซื้อ และหาซัพพลายได้
• การผลิตอัจฉริยะและปล่อยคาร์บอนต่ำ: เอสพีเอสนำเทคโนโลยีอัจฉริยะ นวัตกรรมดิจิทัล ระบบอัตโนมัติ และความยั่งยืนมาใช้ จึงซ้อนอิเล็กโทรดได้เร็วถึง 0.125 วินาทีต่ออิเล็กโทรด โดยใช้หุ่นยนต์มากกว่า 1,200 ตัว ทำให้มีอัตราระบบอัตโนมัติอยู่ที่ 98.5% ช่วยให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์จะตรงตามมาตรฐานคุณภาพ PPB อย่างสม่ำเสมอ
  

ระบบเอสพีเอสของฟาราซิส เอเนอร์จี สร้างมาตรฐานใหม่ในด้านนวัตกรรมแบตเตอรี่พลังงานระดับโลก นับตั้งแต่เปิดตัวโซลูชันดังกล่าวได้รับความนิยมจากผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำทั่วโลก ทุกวันนี้ ภาคส่วนแบตเตอรี่มีแนวทางทางเทคนิคและเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่ มีเป้าหมายสูงสุดในการหาสมดุลที่เหมาะสมระหว่างต้นทุน ความปลอดภัย และสมรรถนะ เพื่อรองรับการใช้งานรูปแบบต่าง ๆ และเมื่อตลาดรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) มีความเสถียร และผู้ผลิตรถยนต์มุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงประสิทธิภาพการชาร์จ โซลูชันที่เป็นนวัตกรรมใหม่อย่างเอสพีเอสก็กำลังกรุยทางสู่ยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยโอกาส

ที่มา: พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์