Last updated: 7 ธ.ค. 2566 | 11296 จำนวนผู้เข้าชม |
ปลัดฯ ณัฐพล ปลื้ม จัดตั้ง ศูนย์ศูนย์วิจัยเทคโนโลยียานยนต์จีน CATARC ในไทยสำเร็จ กระตุ้นการวิจัยพัฒนายานยนต์แห่งอนาคตเสริมสมรรถนะมุ่งสู่ EV Hub เผยไตรมาสแรกปี 2566 ประเทศไทยใช้รถ EV 78% ของอาเซียน
ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า รัฐบาลและกระทรวงอุตสาหกรรม ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไปพร้อมกับการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องยนต์สันดาป (ICE) โดยร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนขับเคลื่อนนโยบายและมาตรการต่าง ๆ ผ่านคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ มุ่งให้ความสำคัญกับการวางรากฐานของการวิจัยและพัฒนายานยนต์และชิ้นส่วนในประเทศ รวมทั้งการกำหนดมาตรฐานเพื่อสร้างความเชื่อมั่น
ทั้งนี้หน่วยงานกำหนดมาตรฐานและหน่วยงานทดสอบและรับรอง ถือเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ให้เติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งการจัดตั้งศูนย์วิจัยเทคโนโลยียานยนต์จีน หรือ China Automotive Technology and Research Center (CATARC) สำนักงานสาขาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประจำประเทศไทยเป็นจุดเริ่มต้นความร่วมมือในการนำศักยภาพด้านการพัฒนานโยบาย การกำหนดมาตรฐาน และการรับรอง รวมทั้งเครือข่ายอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ของจีนมาเชื่อมโยงในการพัฒนาอุตสาหกรรม และโครงสร้างพื้นฐานยานยนต์ของประเทศไทย เพื่อรองรับการเป็นฐานการผลิตยานยนต์ของภูมิภาคอาเซียน และฐานการผลิตที่สำคัญของโลก
ดร.ณัฐพล กล่าวว่า เป้าหมายสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการ คือการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมาย S-curve ของประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ ที่มุ่งเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขัน และลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศในเวทีการประชุมสุดยอดด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยสนับสนุนมาตรการส่งเสริมการใช้และการผลิต ยานยนต์สมัยใหม่ โดยเฉพาะมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์ หรือ มาตรการ EV3 ซึ่งมีผู้ประกอบการเข้าร่วม 10 แบรนด์ มียอดจองรถยนต์ BEV ไปแล้วกว่า 50,000 คัน และมีการส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งการกำหนดมาตรฐานสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าไปแล้วกว่า 150 มาตรฐาน
นอกจากนี้ ยังมีการให้บริการทดสอบและรับรองมาตรฐานของศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ (ATTRIC) รวมทั้งการพัฒนาบุคลากรและเตรียมความพร้อมในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้า และยานยนต์สมัยใหม่ ส่งผลให้ไตรมาสแรกของปี 2566 ประเทศไทยมีการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า คิดเป็นร้อยละ 78 ของปริมาณการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในอาเซียน และในปี 2565 จะมีการผลิตยานยนต์ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า หรือ xEV เป็นอันดับ 1 ของอาเซียนประมาณ 72,000 คัน แสดงให้เห็นถึงกระแสการตอบรับของตลาดยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ และความพร้อมที่จะเปลี่ยนผ่านไปสู่ยานยนต์สมัยใหม่
ปัจจุบันมีผู้ผลิตรถยนต์ระดับแนวหน้าของประเทศจีนหลายค่ายได้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเป็นฐานการผลิตของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่สามารถแข่งขันได้ในอาเซียน และเวทีโลก
อย่างไรก็ดี ศูนย์วิจัยเทคโนโลยียานยนต์จีน สำนักงานสาขาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้จัดตั้งขึ้นในประเทศไทย เป็นสาขาลำดับที่ 4 ต่อจากเยอรมนี สวิสเซอร์แลนด์ และญี่ปุ่น ซึ่งหน่วยงานรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ของจีน รับผิดชอบงานด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างครบวงจร ทั้งด้านกำหนดนโยบาย ด้านวิจัยพัฒนา ด้านมาตรฐานและการทดสอบ ครอบคลุม ยานยนต์ทุกประเภท และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล จนทำให้ยานยนต์ไฟฟ้าของจีนเติบโตอย่างก้าวกระโดด และเป็นฐานการผลิตอันดับต้น ๆ ของโลก
ที่มา : กระทรวงอุตสาหกรรม