X

ท็อปส์ ผนึก ดีเอชแอล ซัพพลายเชน ประเทศไทย เปิดตัวรถขนส่งไฟฟ้า 4 ล้อ ขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า 100%

Last updated: 5 ธ.ค. 2566  |  9984 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ท็อปส์ ผนึก ดีเอชแอล ซัพพลายเชน ประเทศไทย เปิดตัวรถขนส่งไฟฟ้า 10 คัน ตั้งเป้าขยายเป็น 29 คันในปี 2567

ท็อปส์ ผนึก ดีเอชแอล ซัพพลายเชน ประเทศไทย เปิดตัวรถขนส่งไฟฟ้า 4 ล้อ ขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า 100% ยกระดับสู่การเป็น “Green & Sustainable Retail” เริ่มต้น 10 คันปีนี้ วางแผนขยายเป็น 29 คันปี 2567ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซ 13,335 ตัน ภายใน 5 ปี

ท็อปส์ ธุรกิจกลุ่มฟู้ด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ผนึกกำลัง ดีเอชแอล ซัพพลายเชน ประเทศไทย ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ชั้นนำระดับโลก ยกระดับสู่การเป็น “Green & Sustainable Retail” ด้วยการเปิดตัวรถขนส่งพลังงานไฟฟ้า 4 ล้อ ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% เริ่มต้นนำร่องรถขนส่งพลังงานไฟฟ้ารวม 10 คัน เพื่อขนส่งกระจายสินค้าจากดีเอชแอล บางนา โลจิสติกส์ แคมปัส ไปยังร้านท็อปส์ เดลี่ ทั่วกรุงเทพฯ

นอกจากนี้ ท็อปส์ ยังวางแผนเพิ่มจำนวนรถขนส่งพลังงานไฟฟ้าในระบบขนส่งของท็อปส์อีกเพิ่มเติม รวม 29 คันในปี 2567 ครอบคลุมพื้นที่ในต่างจังหวัด นับเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนานวัตกรรมการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยังเป็นการเดินหน้าสู่เป้าหมายร่วมกันในการบรรลุการปล่อยก๊าซเป็นศูนย์ภายในปี 2050 ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากถึง 13,335 ตันภายใน 5 ปี


นายสเตฟาน คูม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฟู้ด เซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า ท็อปส์มุ่งมั่นเป็นต้นแบบองค์กรค้าปลีกสีเขียวที่ยั่งยืน หรือ Green & Sustainable Retail ตามเจตนารมณ์ของเซ็นทรัล รีเทล ที่ตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 ล่าสุด ได้ร่วมมือกับดีเอชแอล ซัพพลายเชน ประเทศไทย ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์ร่วมกันสร้างความยั่งยืนในส่วนโลจิสติกส์ด้วยการเปิดตัวรถขนส่งพลังงานไฟฟ้า (EV Truck) ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ จำนวน 10 คัน โดยจะเริ่มนำร่องใช้ในการขนส่งกระจายสินค้าของร้านท็อปส์ เดลี่ ในพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ

ทั้งนี้ ท็อปส์ ได้วางแผนขยายจำนวนรถเพิ่มเติมรวม 29 คัน ภายในปี 2567 ทั้งรถขนส่งอุณหภูมิปกติและรถขนส่งควบคุมอุณหภูมิ และวางแผนความร่วมมือกับพันธมิตรทลายขีดจำกัดด้านสถานีชาร์จเพื่อรองรับการขนส่งและกระจายสินค้าในระยะทางไกลในพื้นที่ต่างจังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ขอนแก่น นครสวรรค์ และเชียงใหม่ โดยคาดว่าจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 2,667 ตันต่อปี และสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 13,335 ตัน ในระยะเวลา 5 ปี เทียบเท่าการปลูกต้นไม้กว่า 150,000 ต้น

นายสตีฟ วอล์กเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีเอชแอล ซัพพลายเชน กลุ่มธุรกิจประเทศไทย กล่าวถึงความสำคัญในการร่วมมือครั้งนี้ว่า "ตลอดระยะเวลาอันยาวนานที่เราเป็นพันธมิตรกับกลุ่มเซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล เราได้นำนวัตกรรมต่างๆ เข้ามาใช้ในการปฏิบัติการทั้งในส่วนของคลังสินค้าและการขนส่ง การเปิดตัวรถขนส่งพลังงานไฟฟ้าในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นวิสัยทัศน์ร่วมกันในการขับเคลื่อนสู่อนาคตที่รถพลังงานไฟฟ้าและการปฏิบัติการอย่างยั่งยืนคือหัวใจหลักของการขนส่ง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของดีเอชแอล ที่มีเป้าหมายหลักคือการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตามแผนการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของ ดีเอชแอล


รถขนส่งพลังงานไฟฟ้ารุ่นนี้วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ใช้เวลาชาร์จพลังงานเต็มประสิทธิภาพเพียง 40 นาที และไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยดีเอชแอลได้ติดตั้งสถานีชาร์จ 3 จุดในบางนา โลจิสติกส์ แคมปัส เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าไปยังท็อปส์ เดลี่ จำนวน 25 สาขา ทั่วกรุงเทพฯ ตอกย้ำถึงการให้ความสำคัญในกระบวนการขนส่งและการปฏิบัติการอย่างยั่งยืน

ท็อปส์ มุ่งพัฒนาองค์กรควบคู่กับการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดี โดยเชื่อว่าทุกคนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพลังเล็กๆ เพื่อสร้างโลกที่น่าอยู่ได้ จึงได้สานต่อโครงการ “Small Acts Together หรือ 4 พลังเล็กสร้างสุขเพื่อโลกที่ยั่งยืน” ครอบคลุม 4 ด้าน ได้แก่

          1) ดูแลฐานรากผลักดันผู้ผลิต ผ่านการให้การสนับสนุนและส่งเสริมเกษตรกรและ SMEs ให้เกิดการสร้างานสร้างรายได้อย่างยั่งยืน

          2) หมุนเวียน ส่งต่ออาหารส่วนเกิน ลดปริมาณอาหารเหลือทิ้งและก๊าซเรือนกระจก

          3) แบ่งปัน ความสุขและความช่วยเหลือเพื่อสังคมที่ดีขึ้น

          4) คิดค้นและสร้างสรรค์ การดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งการริเริ่มนำรถขนส่งพลังงานไฟฟ้ามาใช้ในระบบโลจิสติกส์ ถือเป็นการคิดค้นและสร้างสรรค์ในการนำเอาเทคโนโลยี เข้ามาปรับใช้ในกระบวนการการดำเนินธุรกิจเพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ พร้อมขับเคลื่อนสู่การเป็นผู้นำองค์กรค้าปลีกสีเขียวที่ยั่งยืน

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.tops.co.th, เฟซบุ๊ก TopsThailand, หรือแอปพลิเคชันไลน์ @TopsThailand

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้