X

ลีสซิ่งกสิกรไทย เปิด K EV SHOP ศูนย์รวมข้อเสนอพิเศษจากผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำ คาดสิ้นปีนี้ยอดขาย EV สูงกว่า 75,500 คัน

Last updated: 16 มิ.ย. 2567  |  798 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ลีสซิ่งกสิกรไทย เปิด K EV SHOP รวมข้อเสนอพิเศษจากผู้ผลิตรถ EV

ลีสซิ่งกสิกรไทย เปิด K EV SHOP นับเป็นครั้งแรกที่มีศูนย์รวมข้อเสนอพิเศษจากผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำให้แก่ลูกค้า K PLUS มอบแคมเปญอัตราดอกเบี้ยพิเศษ และบัตรของขวัญมูลค่า 2,000 บาท คาดตลาดรถยนต์ไฟฟ้าสิ้นปีนี้อาจมียอดขายมากกว่า 75,000 คัน
 
นายธีรชาติ  จิรจรัสพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า “ปีนี้เป็นปีแห่งการเติบโตรุดหน้าของตลาดรถยนต์ BEV ในประเทศไทย ลีสซิ่งกสิกรไทย รวมทั้งพันธมิตรผู้ให้บริการสินเชื่ออย่างเป็นทางการกับแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำหลากหลายแบรนด์ ต่อยอดและสร้างประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า โดยการเปิดตัว K EV SHOP เพิ่มช่องทางการขายของรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์พันธมิตรของลีสซิ่งกสิกรไทย ให้เข้าถึงฐานลูกค้า K PLUS กว่า 21.4 ล้านราย เพื่อนำเสนอแคมเปญสุดเอ็กซ์คลูซีฟให้แก่ฐานลูกค้าธนาคารกสิกรไทย โดยใช้ Data Analytics วิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าที่มีแนวโน้มจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าใหม่และนำเสนอผลิตภัณฑ์แบบเจาะกลุ่มเป้าหมาย (Customized Target)



ทั้งนี้ ในช่วงแรก มีพันธมิตรแบรนด์รถยนต์ตอบรับเข้าร่วมโครงการหลากหลายแบรนด์และร่วมมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้า อาทิ Audi, MG, Neta, AION, Porsche และ BYD สำหรับลูกค้าสมัครสินเชื่อรถไฟฟ้าใหม่กับแบรนด์ที่ร่วมรายการกับลีสซิ่งกสิกรไทยผ่านช่องทาง K EV SHOP จะได้รับบัตรของขวัญเซ็นทรัลมูลค่า 2,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธันวาคม 2566 โดยลูกค้าสามารถเลือกแบรนด์รถยนต์ที่โดนใจและคลิกสมัครสินเชื่อรถได้ที่ www.kasikornbank.com/th/personal/autoloan/pages/k-ev-shop.aspx ”

สำหรับมุมมองแนวโน้มของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยของศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ตลอดทั้งปี 66 รถยนต์ BEV มีโอกาสทำยอดขายได้สูงถึง 68,000 คัน เพิ่มขึ้น 405% (YoY) หลัง 8 เดือนแรกมียอดขาย41,844 คัน ผลักดันให้ส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ BEV ในตลาดรถยนต์รวมไทยมีโอกาสเพิ่มขึ้นเป็น 8.6% จาก 1% ในปี 2565 โดยภาพรวมการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าสอดคล้องกับการขยายตัวของยอดสินเชื่อรถไฟฟ้าใหม่ของลีสซิ่งกสิกรไทย 

นายธีรชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจนถึงสิ้นปีนี้ อาจมียอดขายมากกว่า 75,000 คัน และสำหรับผลประกอบการของลีสซิ่งกสิกรไทย ในช่วง 9 เดือนของปี 66 บริษัทสามารถขยายฐานสินเชื่อหรือยอดคงค้างสินเชื่อ (Outstanding Loan) เพิ่มขึ้น 13% สำหรับสัดส่วนการปล่อยสินเชื่อรถใหม่ แบ่งเป็นรถสันดาป 72.5% และในส่วนของสินเชื่อสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า 27.5% โดยมีส่วนแบ่งการตลาดของสินเชื่อรถไฟฟ้าแบรนด์พันธมิตรหลักกว่า 21%  และมียอดธุรกิจเติบโตถึง 400% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าซึ่งสูงกว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของตลาดที่เติบโตประมาณ 340% ทั้งยังมีสัดส่วนของยอดธุรกิจสินเชื่อรถใหม่ของรถยนต์ไฟฟ้า (BEV New Business) เพิ่มขึ้นและลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าธนาคารกสิกรไทยที่มีคุณภาพหนี้ที่ดี”

สำหรับปี 2567 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมีมุมมองเพิ่มเติมว่า การทยอยเข้ามาเพิ่มเติมของรถยนต์ BEV ค่ายใหม่ๆ ในตลาด ทั้งจากจีน เกาหลี และการลุยตลาด BEV ของค่ายญี่ปุ่นบางราย ส่งผลให้ตลาดยิ่งมีความคึกคักขึ้น รถยนต์ BEV น่าจะมีโอกาสทำยอดขายได้เพิ่มขึ้นไปถึง 85,000-100,00 คัน หรือขยายตัวระหว่าง 25%-47% คาดการณ์ว่าช่วง 1-2 ปีนี้ รถยนต์นั่ง BEV ที่มีระดับราคา 1 ล้านบาทขึ้นไป จะเป็นกลุ่มที่ได้รับการตอบรับดีด้านยอดขายต่อเนื่องมากกว่ารถยนต์นั่งกลุ่มอื่น คาดการณ์ว่ารถยนต์นั่งไฟฟ้าจะมีส่วนแบ่งของยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 17% ของรถยนต์นั่งทั้งหมดในปี 2566 และขยับเป็น 21% ในปี 2567 ภายใต้มุมมองที่ระมัดระวังจากปัจจัยพื้นฐานด้านเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นผนวกกับการปล่อยสินเชื่อที่ระมัดระวัง และประเด็นความต่อเนื่องด้านนโยบายของภาครัฐ 

นายธีรชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า การพัฒนาแพลตฟอร์มแคมเปญสินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้า K EV SHOP เพื่อให้ลูกค้าเลือกซื้อรถได้ตามไลฟ์สไตล์และจะเชื่อมต่อให้ลูกค้าสามารถสมัครสินเชื่อได้ด้วยตนเองผ่านแพลตฟอร์ม Digital Self-Apply ที่ได้เปิดให้บริการไปก่อนหน้า พร้อมยังได้สิทธิพิเศษที่มากมาย ถือเป็นการนำร่องการยกระดับมาตรฐานการให้บริการสินเชื่อให้กับลูกค้าในยุคดิจิทัล ทั้งนี้ลีสซิ่งกสิกรไทยได้เตรียมการพัฒนาการเชื่อมต่อ API กับแพลตฟอร์มของผู้ผลิตรถยนต์ที่เป็นพันธมิตรกับบริษัทอย่างต่อเนื่อง 

ช่วงเริ่มต้นของโครงการตั้งเป้าหมายว่าจะส่งเสริมการขายรถยนต์ไฟฟ้าของพันธมิตร ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ส่วนแบ่งการตลาดการให้สินเชื่อรถไฟฟ้าของบริษัทเพิ่มขึ้นได้อีก 3-5% รวมเป็น 25% และตั้งเป้าจะมีสัดส่วนลูกค้าที่สมัครขอสินเชื่อรถยนต์จากช่องทางออนไลน์เป็น 10% ภายใน 3 ปี โดยลีสซิ่งกสิกรไทยยังคงเดินหน้านำเสนอโครงการที่สอดรับนโยบายเพื่อความยั่งยืนหรือ ESG ของธนาคารกสิกรไทย เพื่อสนับสนุนการสร้างสังคมสีเขียวให้เกิดขึ้นจริง  ด้วยการออกแคมเปญเชิงรุกผ่านการผนึกกำลังกับพันธมิตรของบริษัท โดยใช้แพลตฟอร์มต่างๆของธนาคาร และ K PLUS เป็นศูนย์กลางเพื่อเพิ่มประสบการณ์การขอสินเชื่อรถยนต์ที่ดีและไร้รอยต่อให้กับลูกค้าของธนาคารกสิกรไทย

ที่มา : ลิสซิ่งกสิกรไทย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้