“บีโอไอ” มั่นใจประเทศไทยพร้อมเป็น “EV Hub” เผยส่วนแบ่งตลาด 10 อันดับแบรนด์ EV โลก

บีโอไอ มั่นใจประเทศไทยพร้อมเป็น “EV Hub” เผยผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ดังทั่วโลกเลือกลงทุนในไทย พร้อมเผยส่วนแบ่งตลาด 10 อันดับแบรนด์ EV ระดับโลก

เพจ BOI NEWS ได้เผยแพร่บทความสรุปสถานการณ์ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ  EV (Electric Vehicle) ว่ากำลังเป็นเทรนด์ใหญ่ของโลก เนื่องจากทุกสายตาต่างจับจ้องพัฒนาการของยานยนต์พลังงานสะอาดอย่างใกล้ชิด เพราะปัจจัยขับเคลื่อนทั้งจากฝั่งของผู้ขับขี่ที่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจากการใช้รถยนต์สันดาปภายในสู่รถยนต์ไฟฟ้าและจากฝั่งของรัฐบาลทั่วโลกที่ออกนโยบายสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด

พร้อมกันนั้นยังได้ยืนยันถึงความพร้อมของประเทศไทยในเป็น “EV Hub” ของภูมิภาคด้วยศักยภาพที่สามารถต่อยอดสู่การเป็นอันดับหนึ่งในอุตสาหกรรม EV จากการมีข้อได้เปรียบด้านการเป็นฐานผลิตรถยนต์สันดาปภายในรายใหญ่ในเอเชียอยู่เดิม อันมาจากการมีทำเลที่ตั้งอยู่บริเวณใจกลางอาเซียนที่เอื้อต่อการคมนาคมขนส่ง ร่วมกับการมีแรงงานที่มีทักษะ

ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่จากทั้งจีน ยุโรป และอเมริกา ต่างก็เลือกเข้ามาลงทุนในไทย ซึ่งจะช่วยยืนยันได้ว่าประเทศไทยมีห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่ครบวงจร อีกทั้งตลาดยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศก็เป็นอีกแห่งหนึ่งของโลกที่มีแนวโน้มจะเติบโตได้สูง พร้อมทั้งสรุปข้อมูลแบรนด์ EV ที่เข้ามาเปิดไลน์การผลิตหรือเตรียมเข้ามาตั้งฐานการผลิตในไทย ดังนี้

BYD : ซื้อที่ดินนิคมอุตสาหกรรม WHA จ.ระยอง 600 ไร่ เพื่อตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่

GWM : ลงทุนในไทยตั้งแต่ปี 2563 โดยซื้อโรงงานจาก GM เพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้า

MG : มีฐานการผลิตรถยนต์สันดาปภายในในไทย และประกาศที่จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าด้วยเช่นกัน

Foxconn : ร่วมทุนกับ ปตท. ตั้งบริษัท HORIZON PLUS ลงทุน 36,000 ล้านบาท สร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า

NETA V : ลงนามในสัญญากับโรงงานประกอบรถยนต์บางชันเยนเนอเรลเอเซมบลี

Aiways : เปิดตัวและมีแผนตั้งโรงงานผลิตรถแท็กซี่ไฟฟ้าใน EEC

Mercedes-Benz : เริ่มต้นไลน์การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 100% สำหรับโมเดล EQS ซึ่งเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกที่ประกอบในไทย

BMW : ผลิตรถในกลุ่ม PHEV ที่โรงงานจังหวัดระยอง

ทั้งนี้ แบรนด์ FOMM, Takano, Toyota, Nissan, Mitsubishi และHonda นับเป็นกลุ่มแรก ๆ ที่ขอส่งเสริมลงทุนการผลิตรถในกลุ่ม BEV ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามการที่ประเทศไทยโดยบีโอไอมีมาตรการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมผลิตยานยนต์ไฟฟ้าอย่างครบวงจรเป็นประเทศแรกในภูมิภาคอาเซียนที่ให้สิทธิประโยชน์กับผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าทุกประเภท ทั้งรถยนต์ไฟฟ้า รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า รถสามล้อไฟฟ้า รถโดยสารไฟฟ้า รถบรรทุกไฟฟ้า รถจักรยานไฟฟ้า หรือจะเป็นการผลิตแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้า การผลิตหรือต่อเรือที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า การผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงการให้บริการสถานีชาร์จไฟฟ้าและสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่นั้น ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ยิ่งทำให้ประเทศไทยได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม EV จากทั่วโลก

ใครครองตลาด EV โลก ?

รายงาน Counterpoint’s Global Passenger Electric Vehicle Model Sales Tracker ระบุว่า ยอดขาย EV ทั่วโลกได้เพิ่มขึ้นถึง 14.5 ล้านคันในปี 2566 ซึ่งถือว่าเติบโตขึ้นมาก ทำให้แบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำทั่วโลกต่างต้องการที่จะคว้าตำแหน่งผู้นำในส่วนแบ่งตลาด EV ที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วนี้