Last updated: 17 ส.ค. 2566 | 1191 จำนวนผู้เข้าชม |
ครั้งแรกที่ Mercedes-Benz สามารถขับขี่สไตล์ OFF-ROAD ด้วยโหมดไฟฟ้า
เรียกว่าถูกสร้างมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ที่หลงใหลในเทคโนโลยีล้ำสมัย และชื่นชอบการเดินทางหาความท้าทายบนเส้นทางใหม่ๆโดยเฉพาะ
เคาะราคาเริ่มต้น 4,180,000 บาท
Mercedes-Benz GLC 350 e 4MATIC AMG Dynamic เป็นรถ SUV Plug-in hybrid (PHEV) สมรรถนะสูง ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบ พลัสความไฮบริดด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุ 31.2 kWh ที่ทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า (Permanently Excited Synchronous Machine) ให้กำลังสูงสุด 313 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร
ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด แบบ 9G-TRONIC ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำได้ใน 6.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 218 กม./ชม. ความเร็วสูงสุดขณะที่ใช้โหมดไฟฟ้าล้วนๆอยู่ที่ 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง
GLC 350 e 4MATIC มาพร้อม OFF-ROAD Engineering Package ด้วยโครงสร้างแบบ underbody protection ระบบปกป้องตัวถังรูปแบบใหม่ที่แข็งแรงทนทาน ช่วงล่างเป็นแบบ Comfort Suspension ให้การขับขี่ที่นุ่มนวล
โดดเด่นด้วย “ห้องผู้ขับขี่แบบออฟโรด” ที่เพียงกดปุ่มจอแสดงผลส่วนกลางก็จะเปลี่ยนเป็นหน้าจอออฟโรดที่สวยงาม มีฟังก์ชันสำหรับรถออฟโรดโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นมาตรวัดระดับความเอียงของรถ มุมไต่ มุมลาด รวมทั้งเข็มทิศ โดยมีกล้องรอบคัน 360° ที่ให้การแสดงผลแบบ Transparent bonnet ช่วยให้ผู้ขับสามารถมองเห็นภาพจริงในจุดอับสายตาบริเวณหน้ารถด้วย
นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมการขับขี่แบบออฟโรด ผ่านทาง DYNAMIC SELECT ที่จะควบคุมการทรงตัว ควบคุมการเบรก รวมถึงเลือกรูปแบบการขับเคลื่อน โฟร์ไฮ โฟร์โลว์ ให้เข้ากับสถานการณ์การขับขี่ และมีไอเท็มเด็ดอย่าง “ไฟออฟโรด” ของไฟหน้าด้วยหากติดตั้งระบบ DIGITAL LIGHT (เป็นออปชั่น)
มิติตัวถังของ GLC 350 e ยาว 4,721 มม. กว้าง 1,918 มม. สูง 1,631 มม. ระยะฐานล้อ 2,888 มม. ดีไซน์พื้นที่บรรทุกสัมภาระใหม่แบบ Flattrunk floor ความจุสูงถึง 470–1,530 ลิตร
ภายนอกตกแต่งด้วยชุดแต่งเอเอ็มจี โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบ Star pattern กันชนหน้าดีไซน์ใหม่แบบ A-shape มาพร้อมไฟหน้าความละเอียดสูง 1.3 ล้านพิกเซล ติดตั้งเทคโนโลยียกระดับความปลอดภัยขั้นสูงแบบ DIGITAL LIGHT และอัลตร้า เรนจ์ ไฮบีม ส่องสว่างไกลถึง 650 เมตร ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ และระบบปรับไฟหน้าตามองศาการเลี้ยวของรถ ทำงานผสานกันเพื่อให้ประสิทธิความปลอดภัยสูงสุด
เสริมความดุดันด้วยบันไดข้างสแตนเลส ราวหลังคาอะลูมิเนียม รวมถึงล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่แบบฉบับเอเอ็มจี ขนาด 20 นิ้ว
ภายในตกแต่งแบบ AMG Interior Package ติดตั้งเบาะหนังคู่หน้าแบบ Sport Seats ปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า 10 ทิศทางพร้อม memory seat 3 ตำแหน่ง และระบบดันหลัง 4 ทิศทาง แบบ Lumbar support ในด้านแผงคอนโซลกลางใช้วัสดุแบบ High-Gloss Black สีดำเงา และ Metal Structure trim
คอนโซลหน้าและแผงประตูหุ้มหนัง ARTICO man-made ตกแต่งลวดลายแบบ Nappa โดดเด่นด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน พร้อมหุ้มด้วยหนัง Nappa มีหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า ระบบเสียงรอบทิศทางแบบ Burmester 3D surround sound system ที่ทรงพลังด้วยลำโพง 15 ตำแหน่ง
ติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Digital Instrument cluster ขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอตรงกลางความละเอียดสูงขนาด 11.9 นิ้ว ควบคุมผ่านระบบสัมผัส ทำงานควบคู่กับ MBUX7 ที่สามารถเรียนรู้ผู้ใช้งานด้วยระบบ AI และปรับระบบการใช้งานให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
มีระบบฟอกอากาศแบบ ENERGIZING AIR CONTROL ระบบตรวจวัดระดับฝุ่นละออง PM 2.5 ระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบ Wireless charging
สำหรับเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยนั้นได้ติดตั้งระบบความปลอดภัยมาตรฐานที่ครบครันตามมาตรฐานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมด้วยระบบความปลอดภัยแบบ Active Safety อาทิ ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ ระบบรักษาระยะห่างจากรถด้านหน้า และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
สำหรับตัวแบตเตอรี่จะถูกวางอยู่บนเพลาขับหลัง (ใต้พื้นที่เก็บสัมภาระ) ช่องชาร์จไฟเป็นแบบ Type 2 และ CCS2 รองรับการชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับ AC สูงสุด 11 kW และรองรับการชาร์จพลังงานไฟฟ้าแบบกระแสตรง (DC) สูงสุด 60 kWh ใช้เวลาชาร์จด้วยไฟฟ้า AC (11 kW) จาก 0 – 100% ภายใน 2 ชั่วโมง 45 นาที ชาร์จด้วยไฟฟ้า DC Fast Charge (60 kW) จาก 10-80% ภายใน 20 นาที
สีตัวถังมีให้เลือก 6 สี สีขาว (Polar White) สีน้ำเงิน (Nautic Blue) สีเทา (Graphite Grey) สีเงิน (Mojave Silver) สีเงิน (High-tech Silver) และสีดำ (Obsidian Black)