X

เปิดตัว PURA Vision “e-LUV” รถอเนกประสงค์ไฟฟ้าสุดหรูของค่ายออโตโมบิลี ปินินฟารินา

Last updated: 12 ส.ค. 2566  |  777 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เปิดตัว PURA Vision “e-LUV” รถอเนกประสงค์ไฟฟ้าสุดหรูของค่ายออโตโมบิลี ปินินฟารินา

ออโตโมบิลี ปินินฟารินา (Automobili Pininfarina) นำเสนอรถยนต์พลังงานไฟฟ้ายุคใหม่ผ่านแนวคิดการออกแบบพูรา วิชั่น (PURA Vision) รูปทรงที่หรูหราและสัดส่วนอันน่าทึ่งที่แสดงถึงปรัชญาของ “พูรา” (PURA) พลิกโฉมดีเอ็นเออันเป็นเอกลักษณ์ในอดีตของปินินฟารินาสู่อนาคตในฐานะรถยนต์อเนกประสงค์ไฟฟ้าสุดหรู “e-LUV”

  • แนวคิดการออกแบบโฉมใหม่ของ ออโตโมบิลี ปินินฟารินา พูรา วิชั่น แสดงให้เห็นถึงความหรูหราของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วน
  • รูปทรงที่หรูหรา สัดส่วนที่น่าทึ่ง และพื้นผิวที่สะอาดตา แสดงให้เห็นถึงปรัชญาการออกแบบพูราในฐานะรถยนต์อเนกประสงค์สุดหรูที่ใช้พลังงานไฟฟ้า
  • ลายเส้นที่เฉียบคมและความสวยงามสมัยใหม่ ผสานรวมมรดกการออกแบบที่สืบทอดมายาวนานกว่า 94 ปีเพื่อนำทางสู่อนาคต
  • แนวคิดการออกแบบเกิดและพัฒนาขึ้นในอิตาลีโดยผู้เชี่ยวชาญประจำออโตโมบิลี ปินินฟารินา ในโรงงานเดียวกันกับที่มีการประกอบรถยนต์แบตติสตา ไฮเปอร์ จีที

PURA Vision “e-LUV” จะเปิดตัวต่อสาธารณะในเดือนสิงหาคมระหว่างสัปดาห์รถยนต์มอนเทอเรย์ (Monterey Car Week) พร้อมกับรถยนต์แบตติสตา เอดิซิโอเน นิโน่ ฟารินา ไฮเปอร์ จีที (Battista Edizione Nino Farina hyper GT) ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็ว ๆ นี้



พูรา วิชั่น แสดงถึงการตีความที่โดดเด่นสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าระดับหรู ด้วยสัดส่วนห้องโดยสารด้านหลังที่โดดเด่น และรายละเอียดที่ประณีต เพื่อสร้างเอกลักษณ์แบบไดนามิก พร้อมรูปลักษณ์ที่มาพร้อมเรือนกระจกแบบแคบและประตูสามบานแบบไร้เสาซึ่งทำให้เข้าถึงห้องโดยสารที่ซับซ้อน



เปาโล เดลลาชา (Paolo Dellachà) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของออโตโมบิลี ปินินฟารินา กล่าวว่า “พูรา วิชั่น เป็นสะพานเชื่อมจากปัจจุบันสู่อนาคตใหม่ที่น่าตื่นเต้นสำหรับออโตโมบิลี ปินินฟารินา ได้เฉลิมฉลองมรดกอันเป็นเอกลักษณ์ของเราในปีที่ 5 ด้วยการเปิดตัวแบตติสตา เอดิซิโอเน นิโน่ ฟารินา และพูรา วิชั่น ได้แสดงให้เห็นถึงอนาคตที่น่าตื่นเต้นและผลลัพธ์ของการนำแนวคิดพูรามาใช้ในการออกแบบรถยนต์ประเภทใหม่”



ปรัชญาพูราของออโตโมบิลี ปินินฟารินา

การออกแบบที่เหนือกาลเวลาคือจุดเด่นของปินินฟารินาตลอด 94 ปีที่ผ่านมาและ พูรา วิชั่น ได้มอบความงามที่เป็นเอกลักษณ์ผ่านการผสมผสานของสัดส่วนคลาสสิกและรายละเอียดที่ประณีต นำเสนอประติมากรรมที่ไม่เหมือนใครด้วยฝากระโปรงทรงเตี้ยและบังโคลนทรงสูงที่ได้แรงบันดาลใจจากรถยนต์รุ่นซิซิสตาเลีย (Cisitalia) ที่โด่งดังในปี 2490 และเป็นยานพาหนะคันแรกที่เข้าสู่คอลเลกชันของพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ (MoMA) ในนิวยอร์กฃ



เดฟ อมันที (Dave Amantea) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายออกแบบของออโตโมบิลี ปินินฟารินา กล่าวว่า “พูรา วิชั่น รวมไว้ซึ่งแก่นแท้ของยานพาหนะอันเป็นสัญลักษณ์แห่งอดีตของปินินฟารินา สานต่อสู่อนาคตด้วยลายเส้นที่เฉียบคมและความสวยงามสมัยใหม่ มีความโดดเด่นจากทุกมุมมอง สื่อให้เห็นถึงปรัชญาการออกแบบของพูราสำหรับยานพาหนะประเภทใหม่ ดีไซน์ที่น่าทึ่ง การตกแต่งภายในที่ดึงดูดใจ และวัสดุที่คัดสรรมาอย่างดี ทำให้รถคันนี้ไม่เหมือนใคร เป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้ารู้ได้ทันทีว่าเป็นปินินฟารินา ด้วยตัวถังที่สวยงาม สัดส่วนที่เหนือกาลเวลา และรายละเอียดส่วนล่างที่ประณีต”


ขนาดของพูรา วิชั่น

  • ความยาว: 5,215 มม.
  • ความกว้าง: 2,147 มม. (รวมกระจก)
  • ความสูง: 1,641 มม.

การตกแต่งภายนอกที่ไม่ธรรมดา

พูรา วิชั่น โดดเด่นด้วยหน้าปัดไฟหน้าแบบซ่อนและเทคโนโลยีไฟส่องสว่าง L.E.S.S. เส้นใยนาโนที่สร้างเอกลักษณ์ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน เส้นใยที่มีความหนาน้อยกว่า 1 มม. ทำให้สามารถปรับแต่งให้เหมาะกับการออกแบบได้เกือบทุกรูปแบบ ขณะที่โครงสร้างน้ำหนักเบาและประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่เหนือกว่านั้นเหมาะอย่างยิ่งสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าชั้นหรู ตัวไฟหน้าประกอบอยู่ในส่วนล่างที่ใช้การออกแบบเชิงเทคนิคอเนกประสงค์แบบเต็มความกว้าง ทำให้ช่วยระบายความร้อนและเพิ่มประสิทธิภาพแอโรไดนามิก



การเลือกใช้วัสดุภายนอกและสีโครงรถยังเน้นรูปลักษณ์ที่แข็งแกร่งของพูรา วิชั่น อย่างชัดเจนด้วยพื้นผิวที่ซับซ้อนของตัวถังสีเบียงโก เซสตริเอเร (Bianco Sestriere) แบบเงา ตัดกับชิ้นส่วนด้านล่างที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ และห้องกระจกแคบและหลังคาแบบลอยตัวสีดำเงาด้านบน สัดส่วนหลังห้องโดยสารที่น่าทึ่งของพูรา วิชั่นและระยะยื่นสั้นทำให้มีดูมีเค้าโครงที่ทรงพลัง ขณะที่ล้ออัลลอยขนาด 23 นิ้วทำให้ดูแข็งแกร่ง บริเวณยางยังมีแถบสีขาวที่ทำให้ภายนอกดูกลมกลืนและเพิ่มความหมายให้กับตัวล้อสีดำด้าน



หลังคาพาโนรามาที่ทันสมัยช่วยเพิ่มความรู้สึกหรูหรามีระดับ ส่วนตรงกลางแบบ ‘บิสคอตโต’ ยังส่องสว่างด้วยวงแหวนไฟ LED ที่นุ่มนวล เชื่อมต่อกับกระจกบังลมขนาดใหญ่ที่ด้านหน้าเข้ากับประตูท้ายที่ด้านหลัง โครง ‘บิสคอตโต’ ตรงกลางยังรองรับหน้าต่างด้านข้างแบบชิ้นเดียวชนิดโค้งขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของช่องเปิดประตูห้องโดยสารในแต่ละด้าน แสดงให้เห็นถึงการออกแบบพูรา วิชั่นได้อย่างชัดเจนจากด้านบน

ตัวบานพับถูกยกขึ้นอย่างมาก รองรับการเปิดแบบไร้เสาและประตูหลังแบบบานพับ ช่วยให้สามารถเข้าถึงห้องโดยสารขนาด 2+2 ที่นั่งได้อย่างไม่จำกัด ประตูห้องโดยสารยังได้แรงบันดาลใจจากการออกแบบแบบแบบไร้เสาของรถยนต์รุ่นแลนเซีย ฟลอริดา (Lancia Florida) โดยแบตติสตา ฟารินา (Battista Farina) ในยุค 50 และเป็นที่ชื่นชอบของผู้ก่อตั้งของปินินฟารินา



เครื่องตกแต่งภายนอกแสดงถึงความใส่ใจในรายละเอียดของออโตโมบิลี ปินินฟารินา องค์ประกอบเหล่านี้ครอบคลุมขอบกระจกด้านล่างชุบผิวอะลูมิเนียมที่ออกแบบอย่างแม่นยำรอบเรือนกระจกซึ่งเริ่มต้นจากกระจกบังลมตามด้วยส่วนโค้งที่สวยงามบริเวณโดยรอบ ตัวหลังคาทำจากชิ้นส่วนอะลูมิเนียม ประกอบด้วยกล้องมองหลังซึ่งแทนที่กระจกมองข้างแบบเดิมที่ด้านหน้า และรองรับดีไซน์พูรา วิชั่น ที่โดดเด่นด้านหลัง



บริเวณท้ายตัวรถประกอบด้วยไฟ LED แนวนอนที่เพรียวบางเป็นพิเศษ และเรือนกระจกทรงเรียวที่เข้ากันได้ดีกับส่วนโค้งที่คมชัดของพูรา วิชั่น ตัวรถยกสูงจากซุ้มล้อที่มีความคล้ายคลึงกับรถสปอร์ต มีส่วนช่วยให้พูรา วิชั่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เมื่อรวมเข้ากับหลังคาบิสคอตโตแบบใหม่แล้วจึงก่อให้เกิดรูปลักษณ์ที่โดดเด่นเมื่อมองจากด้านบน เช่นเดียวกับแบตติสตา ไฮเปอร์ จีที

บริเวณด้านล่างของตัวรถประกอบด้วยกันชนคาร์บอนไฟเบอร์ส่วนหน้า ตัดกับพื้นผิวและรูปทรงประติมากรรมของตัวรถส่วนบน

การเชื่อมต่อและความหรูหราที่ลงตัว

ภายนอกของพูรา วิชั่น ผสานรูปลักษณ์บนท้องถนนของรถเอสยูวี เข้ากับรูปลักษณ์ที่แข็งแกร่งของรถสปอร์ตทรงเตี้ย การตกแต่งภายในที่หรูหรายังเป็นไปตามหลักการเดียวกัน ตำแหน่งการขับขี่นั้นเหมือนกันกับรถสองที่นั่ง เพิ่มเติมด้วยความประทับใจโดยรวมของห้องโดยสารที่นุ่มนวล โปร่งสบาย ระบบส่งกำลังไฟฟ้าช่วยให้ห้องโดยสารมีขนาดกว้างขวางพร้อมพื้นเรียบที่ทำให้ดูกว้างขึ้น เสริมด้วยหลังคากระจกแบบพาโนรามา



ทั้งส่วนบน โครงสร้างภายนอกและภายในยังได้แรงบันดาลใจในการออกแบบจากเรือยอชต์สุดหรู เบาะนั่งด้านหน้าแบบ ‘ลอยได้’ ของพูรา วิชั่นถูกแขวนไว้เหมือนฟอยล์ของเรือใบ ขณะที่คอนโซลกลางมีลักษณะคล้ายกับใบเรือ บริเวณด้านหลังพวงมาลัยประกอบด้วยแผงแดชบอร์ดขนาดกว้างที่ผสานกับภายนอกอย่างลงตัว มอบมุมมองขยายที่โดดเด่นของฝากระโปรงในห้องโดยสาร



ห้องโดยสารของพูรา วิชั่น เต็มไปด้วยเทคโนโลยีได้รับการออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารในสิ่งที่พวกเขาต้องการทุกเวลาผ่านหน้าจอสัมผัสส่วนกลางที่ใช้งานง่าย เครื่องมือวัดแบบดิจิทัลขั้นสูง และจอแสดงผลบนกระจกหน้ารถ ซึ่งทั้งหมดนี้ผู้ขับขี่สามารถปรับแต่งได้



ส่วนของความใส่ใจในรายละเอียดจะเห็นได้ชัดในการออกแบบที่แสดงให้เห็นได้จากการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง จอแสดงผลส่วนกลางสามารถยกขึ้นจากคอนโซลได้เมื่อจำเป็น และพับเก็บได้เพื่อไม่ให้เกะกะ ขณะที่ลำโพงในพนักพิงศีรษะมอบโซนเสียงเฉพาะสำหรับผู้โดยสารแต่ละคน

เพื่อประสบการณ์การเดินทางที่ตอบสนองความต้องการอย่างแท้จริง พื้นที่กระจกขนาดใหญ่ทำให้ผู้โดยสารทุกคนรู้สึกเชื่อมต่อกับสิ่งรอบข้าง เพิ่มอรรถรสในทุกการเดินทาง นอกจากนี้ยังมีตู้แช่ไวน์ในตัวระหว่างที่นั่งด้านหลังคู่ ช่วยให้ผู้โดยสารเพลิดเพลินไปกับความหรูหราร่วมสมัยในทุกความรู้สึก

นวัตกรรมที่ยั่งยืน

การประยุกต์ใช้วัสดุที่ซับซ้อน วัสดุแท้ และวัสดุที่เน้นสัมผัสเป็นจุดเด่นของ พูรา วิชั่น ที่สร้างความรู้สึกที่ไม่เหมือนใครในแง่ความหรูหราร่วมสมัย เบาะสีขาวทั้งสี่มาพร้อมแดชบอร์ดหนังชาร์โคลสีขาว และขอบประตูด้านบนที่มอบมุมมอง 360 องศาภายในตัวรถ

หนังกึ่งอะนิลีนเนื้อนุ่มผสมผสานกับผ้าทออันเป็นเอกลักษณ์ตลอดแนวภายในเข้ากันได้ดีกับตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์ชุบอะลูมิเนียมแบบเปลือยภายนอก ออโตโมบิลี ปินินฟารินา ยังใช้เศษอะลูมิเนียมจากล้อของพูรา วิชั่น เพื่อสร้างแผ่นป้องกันแบบสั่งทำพิเศษสำหรับประดับขอบประตู เพิ่มความอลังการเมื่อประตูเลานจ์ ดอร์ (Lounge Door) เปิดออก



ซาร่า แคมปาโญโล (Sara Campagnolo) ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบสีและวัสดุของออโตโมบิลี ปินินฟารินา กล่าวว่า “วัสดุเป็นมากกว่าแค่สิ่งคลุมรถ แต่เป็นสิ่งสะท้อนส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดของยานพาหนะของเรา เพื่อให้สอดคล้องกับปรัชญาการออกแบบพูรา เราจึงใช้วัสดุจำนวนน้อยที่สุดแต่มีคุณภาพสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อสร้างผลงานที่ซับซ้อน ไร้กาลเวลา และยั่งยืน”



พื้นผิวผ้าอันเป็นเอกลักษณ์บริเวณคอนโซลกลาง พนักพิงด้านบน และวัสดุบุหลังคาเกิดจากการผสมผสานระหว่างผ้าขนสัตว์นาติวา (Nativa) 30% และโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล 70% เกิดเป็นรูปแบบลายก้างปลาผิวสัมผัสนุ่ม มาพร้อมโลโก้ปินินฟารินาที่เชื่อมด้วยไฟฟ้าบนพนักพิงศีรษะ แม้ว่าพูรา วิชั่น จะมีสถานะเป็นเพียงแนวคิดการออกแบบ แต่สิ่งทอที่ใหม่นี้ได้บรรลุมาตรฐานความทนทานของออโตโมบิลี ปินินฟารินาสำหรับยานยนต์ที่ใช้งานจริงอยู่แล้ว

แนวคิดการออกแบบพูรา วิชั่น ได้รับการพัฒนาโดยอาศัยประสบการณ์ที่สั่งสมมานานหลายทศวรรษและความเชี่ยวชาญภายในของตระกูลผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมและการผลิตของออโตโมบิลี ปินินฟารินา ในอิตาลี เพื่อกำหนดยุคใหม่แห่งความหรูหราด้วยรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เชื่อมต่อถึงกัน รถยนต์ที่จะสร้างขึ้นใหม่นี้จะถูกคิดค้น ออกแบบ และพัฒนาในอิตาลี และนำเสนอเทคโนโลยีขั้นสูงพัฒนาขึ้นจากศูนย์นวัตกรรมดิจิทัลของออโตโมบิลี ปินินฟารินา ในเยอรมนี

ปัจจุบัน ออโตโมบิลี ปินินฟารินา มีพนักงาน 116 คนทั่วทั้งไซต์งานในเมืองกัมเบียโน ประเทศอิตาลี และเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี ทีมงานประกอบด้วยผู้คนมากกว่า 20 สัญชาติ ใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ระดับโลกเพื่อสร้างยุคใหม่แห่งการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า



ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ automobili-pininfarina.com/media-zone

ที่มา: พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้