X

บีโอไอหนุนผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยเชื่อมซัพพลายเชนกับผู้ผลิต EV ระดับโลก“BYD”

Last updated: 12 ก.พ. 2567  |  4754 จำนวนผู้เข้าชม  | 

บีโอไอ หนุนผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยเชื่อมซัพพลายเชนกับผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าระดับโลก “BYD”

บีโอไอ มุ่งดึงศักยภาพผู้ประกอบการยานยนต์ไทยทุกระดับเชื่อมต่อซัพพลายเชนระดับโลก ล่าสุดมีการผนึกเครือข่ายพันธมิตรจัดงานใหญ่ “BYD Sourcing Day” จับคู่ผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศกับผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ “บีวายดี” ใน 7 กลุ่มชิ้นส่วนสำคัญและบริการที่เกี่ยวข้อง สร้างโอกาสในการใช้ชิ้นส่วนในประเทศให้มากขึ้นทำให้เกิดการจับคู่ธุรกิจมากกว่า 160 บริษัท

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา บีโอไอได้ร่วมกับบริษัท บีวายดี ออโต้ (ประเทศไทย) และบริษัทดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จัดกิจกรรม “BYD Sourcing Day” ณ ศูนย์คอนเวนชั่นฮอลล์ พัฒนาสปอร์ตรีสอร์ท จังหวัดชลบุรี เพื่อสร้างความร่วมมือในการพัฒนาห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ระหว่าง BYD ซึ่งเป็นผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ชั้นนำของโลกและอันดับหนึ่งของประเทศจีน กับผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศไทยที่มีศักยภาพ   

กิจกรรมจับคู่ธุรกิจ “BYD Sourcing Day” ในครั้งนี้ ได้เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการชิ้นส่วนอุตสาหกรรมในประเทศไทยที่มีศักยภาพกว่า 160 บริษัท ได้เข้าร่วมการเจรจาธุรกิจกับบริษัท บีวายดี ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด โดยเน้นไปที่ชิ้นส่วนสำคัญและบริการใน 7 กลุ่มตามความต้องการของ BYD ได้แก่ 

1. ระบบส่งกำลังรถยนต์ (Powertrain) 2. ชิ้นส่วนแบตเตอรี่แรงดันสูง 3. อุปกรณ์และชิ้นส่วนต่าง ๆ 4. กลุ่มงานบริการ (Services Department) 5. ระบบบริหารจัดการ (Administration Services) 6. อุปกรณ์สำหรับการซ่อมบำรุงในโรงงาน (MRO) และ 7. การขนส่งและโลจิสติกส์  โดยมีผู้ประกอบการในประเทศให้ความสนใจเข้าร่วมแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจมากกว่า 400 คน และเกิดการจับคู่ธุรกิจกว่า 160 บริษัท

“การขับเคลื่อนอุตสาหกรรม EV อย่างครบวงจร นอกเหนือจากการให้สิทธิประโยชน์เพื่อส่งเสริมการลงทุนแล้ว บีโอไอยังให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงธุรกิจระหว่างบริษัทผลิตรถยนต์ EV กับผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศ เพื่อทำให้เกิดการพัฒนาห่วงโซ่อุปทาน และเป็นการสร้างโอกาสให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนในไทย ได้เข้าไปอยู่ในซัพพลายเชนระดับโลก โดยเฉพาะในห้วงเวลาสำคัญที่ประเทศไทยสามารถดึงดูดผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของโลก ให้ตัดสินใจเข้ามาสร้างฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยได้เป็นจำนวนมากในระยะเวลาที่ผ่านมา” นายนฤตม์ กล่าว

กลุ่มบริษัท บีวายดี ได้รับการส่งเสริมการลงทุนในกิจการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า รวมทั้งแบตเตอรี่และชิ้นส่วนรถยนต์ EV รวม 6 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวมประมาณ 30,000 ล้านบาท ถือเป็นการลงทุนตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ของ BYD แห่งแรกในภูมิภาคอาเซียน จากความเชื่อมั่นในนโยบายและมาตรการสนับสนุนของหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงกระแสการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน  BYD ถือเป็นค่ายรถยนต์อันดับ 1 ในตลาดยานยนต์ไฟฟ้าไทย โดยมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ร้อยละ 35 (ประมาณ 1.5 หมื่นคัน) และมียอดจองรวมทุกรุ่นประมาณ 200 คันต่อวัน

งานครั้งนี้ถือเป็นงานเชื่อมโยงธุรกิจแบบมุ่งเป้าที่บีโอไอได้รวบรวมบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนและผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่มีศักยภาพ มาจัดแสดงสินค้าและร่วมเจรจาธุรกิจ อาทิ บริษัท ซัมมิท อีเล็คโทรนิค คอมโพเน้นท์, ไทยซัมมิท ฮาร์เนส, สามมิตรเทค, จงไทยรุ่งเรือง, แปซิฟิค รับเบอร์ เวิร์คส์, เอสวีไอ, เคซีอี อีเลคโทรนิคส์, ตลอดจนบริษัทต่างชาติที่มีฐานการผลิตชิ้นส่วนในประเทศไทย เช่น บริษัท โรเบิร์ต บ๊อช, บอร์กวอร์เนอร์, เม็กเท็ค แมนูแฟ็คเจอริ่ง คอร์ปอเรชั่น และผู้ประกอบการ SMEs ไทยในกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์อีกจำนวนมาก

นอกจากนี้ บีโอไอยังได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายพันธมิตรในการร่วมกันจัดกิจกรรมครั้งนี้ ประกอบด้วย การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สถาบันยานยนต์ สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย สมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย และสมาคมแผ่นวงจรพิมพ์ไทย ซึ่งล้วนเป็นองค์กรสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาระบบนิเวศของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น

“เรามองเห็นศักยภาพของผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในประเทศ ตลอดเวลาหลายสิบปีที่ประเทศไทยพัฒนาฐานอุตสาหกรรมยานยนต์ ผู้ผลิตชิ้นส่วนเหล่านี้ได้สั่งสมประสบการณ์และทักษะ จนสามารถผลิตชิ้นงานที่มีคุณภาพสูงและได้มาตรฐานสากล เพื่อป้อนให้กับบริษัทรถยนต์ชั้นนำของโลกมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นค่ายรถญี่ปุ่น เยอรมัน หรืออเมริกา ครั้งนี้จะเป็นโอกาสสำคัญที่ผู้ผลิตกลุ่มนี้จะเข้าไปมีบทบาทในซัพพลายเชนของอุตสาหกรรม EV โดยเฉพาะบริษัทชั้นนำของจีนอย่าง BYD และยังเป็นการแสดงศักยภาพให้เห็นว่า ประเทศไทยมีซัพพลายเชนที่เข้มแข็ง เหมาะสมที่จะเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการลงทุน และสามารถก้าวไปสู่การเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคต่อไป” นายนฤตม์ กล่าวทิ้งท้าย

ที่มา : https://www.thaigov.go.th/

 

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้