Last updated: 14 ส.ค. 2566 | 957 จำนวนผู้เข้าชม |
SVOLT Energy เปิดโรงงานผลิตแบตเตอรี่อีวี Module PACK Factory รองรับการผลิตโมดูล HEV และโมดูล PHEV/BEV มีกำลังผลิต 60,000 แพ็กต่อปี เบื้องต้นมีแผนจำหน่ายให้ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศอย่าง GWM เป็นต้น
นายวิษณุ ทับเที่ยง หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม (หน.ผตร.อก.) ร่วมพิธีเปิดโรงงานผลิตแบตเตอรี่ของ SVOLT Energy ซึ่งมีการผลิตระดับ Module สำหรับรถยนต์ HEV, PHEV และ BEV เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2566 โดยมีนายดุสิต อนันตรักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวอังศุมาลิน ฉัตรสุวรรณวารี อุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี ดร.เกรียงศักดิ์ วงศ์พร้อมรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) นายณัฐกร อุเทนสุต ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต คุณสิทธิพัฒน์ เหรียญรุ่งเรือง ผู้อำนวยการส่วนบริการศุลกากร ท่าเรือแหลมฉบัง คุณจาง เซียวเซียว ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจและการค้า สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำราชอาณาจักรไทย Mr. Greg Lee, Great Wall Motor (ASEAN) รองประธาน นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองประธานบริหารฝ่ายการตลาด ประจำภูมิภาค บริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) ร่วมงานด้วย โดยมี Mr. Yang Hongxin, Chairman and CEO of SVOLT Energy ให้การต้อนรับ ณ โรงงานผลิตแบตเตอรี่ บริษัท สโฟวล์ท เอเนอจี้ เทคโนโลยี (ไทยแลนด์) จำกัด (SVOLT Energy) ณ ตำบลบ่อวิน อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
SVOLT เป็นผู้นำด้านการผลิตแบตเตอรี่ยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าจากประเทศจีน ได้เข้ามาจัดตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ (Module PACK Factory) ในประเทศไทย มูลค่าการลงทุนรวม 30 ล้านดอลลาร์ มีกำลังการผลิต 60,000 แพ็คต่อปี ในระยะแรก ได้วางแผนสายการผลิต 2 สาย ได้แก่ การผลิตโมดูล HEV และโมดูล PHEV/BEV เพื่อจำหน่ายให้กับผู้ผลิตรถยนต์ (OEM) ในประเทศ เช่น บริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) เป็นต้น โดยในอนาคตจะสามารถขยายกำลังการผลิตเพื่อรองรับการส่งออกไปยังภูมิภาคอาเซียน ได้ถึง 118,000 แพ็คต่อปี
หัวหน้าผู้ตรวจฯ วิษณุ กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรม มีความยินดีที่ได้มาร่วมพิธีเปิดโรงงาน SVOLT Energy ประเทศไทยในวันนี้ การลงทุนผลิตแบตเตอรี่ของ SVOLT แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนจีนต่อนโยบายการเปลี่ยนผ่านฐานการผลิตยานยนต์ของไทยไปสู่ยานยนต์สมัยใหม่ของรัฐบาลไทย ไม่ว่าจะเป็น การกำหนดนโยบายการผลิต ZEV 30@30 โดยในปี 2573 ประเทศไทยจะผลิตรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ (ZEV) ให้ได้อย่างน้อย 30% ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมด
ทั้งนี้การส่งเสริมการลงทุนสำหรับยานยนต์สมัยใหม่ทุกประเภท ทั้งแบบแบตเตอรี่ (BEV) ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และไฮบริด (HEV) และชิ้นส่วนสำคัญ เช่น แบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้า รวมทั้ง การสร้างศูนย์วิจัยและนวัตกรรมยานยนต์และยางล้อ (หรือ ATTRIC) และศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่ EV ซึ่งตั้งอยู่ที่สนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อให้การสนับสนุนกิจกรรม R&D และอำนวยความสะดวกในการทดสอบ R100 ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ยอมรับในระดับสากลสำหรับแบตเตอรี่ของ EV จะกลายเป็นมาตรฐานบังคับในอนาคต