Last updated: 12 ก.พ. 2567 | 1125 จำนวนผู้เข้าชม |
บีโอไอ เผยกลุ่มทุนเยอรมนี–ฝรั่งเศสสนใจลงทุนในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนยานยนต์ (อีวี) กันคึกคัก แค่ครึ่งแรกของปี 2566 ขอรับการส่งเสริมการลงทุนมูลค่าเฉียดหมื่นล้าน จากเยอรมนี 12 โครงการ มูลค่ากว่า 5,900 ล้านบาท ส่วนฝรั่งเศสขอรับการส่งเสริมการลงทุนมา 6 โครงการ มูลค่ากว่า 2,900 ล้านบาท
บีโอไอเผยความสำเร็จกิจกรรมชักจูงการลงทุนในประเทศเยอรมนี–ฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 18 - 23 มิ.ย. 2566 เจาะกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนยานยนต์ (อีวี) อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ รวมไปถึงอุตสาหกรรมการแพทย์และบริการด้านสุขภาพ หลายรายสนใจขยายลงทุนในไทยป้อนตลาดกลุ่มลูกค้าในเอเชีย ล่าสุดบีโอไอเตรียมจัดทัพโรดโชว์เมืองฉงชิ่งและเฉิงตู เมืองสำคัญ ทางตะวันตกของประเทศจีน ระหว่างวันที่ 27 มิ.ย. – 1 ก.ค. 66 เพื่อดึงอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าชั้นนำมาลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง
นายวิรัตน์ ธัชศฤงคารสกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยถึงความสำเร็จจากการเดินสายเพื่อชักจูงการลงทุน ณ ประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และสาธารณรัฐฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 18 – 23 มิถุนายน 2566 ว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนต่างชาติในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนยานยนต์ (อีวี) อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ รวมไปถึงอุตสาหกรรมการแพทย์และบริการด้านสุขภาพ ที่เป็นผู้ประกอบการขนาดใหญ่ และ SMEs แสดงความสนใจเลือกบริษัทผู้ผลิต (Sourcing) ในไทยผลิตสินค้าป้อนลูกค้าในเอเชีย
“การเดินสายชักจูงการลงทุนในครั้งนี้ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนจากเยอรมันและฝรั่งเศส ที่สนใจในการขยายฐานการผลิต รวมไปถึงการหาบริษัท ผู้รับจ้างผลิตเพื่อป้อนตลาดลูกค้าที่อยู่ในภูมิภาคเอเชีย นอกจากนี้ประเทศไทยเป็นเสมือนเซฟโซนของนักลงทุนต่างชาติ โดยก่อนหน้านี้บีโอไอได้มีการนำคณะออกไปโรดโชว์ที่ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา จีน และเกาหลีใต้ ได้รับเสียงสะท้อนกลับมาจากนักลงทุนมองว่าประเทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐาน บุคลากร รวมถึงมีอุตสาหกรรมสนับสนุนที่แข็งแกร่ง” นายวิรัตน์ กล่าวย้ำ
นายวิรัตน์ ธัชศฤงคารสกุล รองเลขาธิการบีโอไอ เยี่ยมชมบริษัท Infineon Technologies AG ที่สำนักงานใหญ่ของบริษัท ณ เมือง Neubiberg สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เมื่อ 20 มิ.ย. 2566
กิจกรรมชักจูงการลงทุนในครั้งนี้ บีโอไอได้จัดสัมมนาในฝรั่งเศส หัวข้อ “Business and Investment Opportunities in Thailand’s Electric Mobility Sector” โดยร่วมมือกับบิสเนส ฟรานซ์ (Business France) หน่วยงานภาครัฐด้านการค้าและการลงทุนของฝรั่งเศส ซึ่งมีหน้าที่ให้การสนับสนุนบริษัทฝรั่งเศสที่จะออกไปดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ และให้คำปรึกษาแก่นักลงทุนต่างชาติที่จะลงทุนในประเทศฝรั่งเศส บริษัทในเครือข่ายบิสเนส ฟรานซ์ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม SMEs ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เป็นหลัก การบรรยายได้เน้นให้ข้อมูลการลงทุนและโอกาสในการร่วมมือทางธุรกิจกับบริษัทไทย รวมถึงเปิดการเจรจาธุรกิจและให้คำปรึกษาด้านการลงทุนเป็นรายบริษัท
รองเลขาธิการบีโอไอ ร่วมหารือกับผู้แทนของบริษัท Brose Fahrzeugteile SE & Co. KG หารือเกี่ยวกับแผนการขยายการลงทุนในประเทศไทย และมาตรการส่งเสริมการลงทุนต่าง ๆ ของบีโอไอ เมื่อ 19 มิ.ย. 2566 ทั้งนี้ บริษัท Brose Fahrzeugteile SE & Co. KG เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์รายใหญ่ของประเทศเยอรมนี มีบริษัทสาขากว่า 69 แห่งใน 25 ประเทศ บริษัทได้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2553 ภายใต้ชื่อบริษัท โบรเซ่ (ประเทศไทย) จำกัด
สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีและสาธารณรัฐฝรั่งเศสถือเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ที่ได้พัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือมายาวนาน โดยเกือบครึ่งปีแรกปี 2566 (3 มกราคม – 21 มิถุนายน) พบว่ามีการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากเยอรมนี 12 โครงการ มูลค่ากว่า 5,900 ล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมเครื่องจักรและยานยนต์ สำหรับฝรั่งเศส มีการขอรับการส่งเสริมการลงทุน 6 โครงการ มูลค่ากว่า 2,900 ล้านบาท
ล่าสุดนายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เตรียมนำทัพโรดโชว์ที่เมืองฉงชิ่งและเมืองเฉิงตู ซึ่งเป็นเมืองสำคัญทางทิศตะวันตกของสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน – 1 กรกฎาคม 2566 โดยเป็นการเดินสายโรดโชว์ที่ประเทศจีนครั้งที่ 2 ของบีโอไอในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 เพื่อดึงดูดการลงทุนที่มีศักยภาพในจีน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง