Last updated: 23 ส.ค. 2566 | 563 จำนวนผู้เข้าชม |
ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ “TRU” เผยผลดำเนินงานปี 2565 โตกว่า 48% ประกาศพร้อมหนุนนโยบายรัฐพัฒนารถ EV เตรียมส่งมินิบัสไฟฟ้าและรถบรรทุกไฟฟ้าลุยตลาดรถ EV ปีนี้ ควบคู่กับการขยายธุรกิจรับจ้างประกอบรถยนต์ ยานยนต์ไฟฟ้า และมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าให้กับบริษัทต่างๆ
บริษัท ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TRU ผู้ผลิตชิ้นส่วนและจัดจำหน่ายรถยนต์อเนกประสงค์สัญชาติไทย เปิดเผยผลการดำเนินงานประจำปี 2565 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 บริษัทฯมีรายได้ 3,029 ล้านบาท โตขึ้นกว่า 48% และมีกำไรสุทธิ 394 ล้านบาท โตขึ้น 4 เท่าตัวเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เป็นผลมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ช่วยส่งให้ธุรกิจในกลุ่มของบริษัทฯเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
นายสมพงษ์ เผอิญโชค กรรมการผู้จัดการใหญ่ TRU กล่าวถึงการดำเนินงานในปี 2565 ที่ผ่านมาว่าเป็นปีที่ทางบริษัทฯเติบโตอย่างก้าวกระโดด นับว่าเป็นสัญญาณที่ดีส่งต่อมาจนถึงปี 2566 บริษัทฯเล็งเห็นโอกาสที่จะขยายงานได้อีกมากในอนาคต ในปีนี้มีโปรเจกต์ใหม่ส่งออกหัวเคบินหรือห้องโดยสารรถขุดตักไปยังประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสามารถสร้างรายได้เพิ่มให้บริษัทฯประมาณ 200 ล้านบาทต่อปี และยังมีงานรับจ้างผลิตรถสามล้อไฟฟ้าที่ยังคงมีออร์เดอร์อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีโครงการใหม่รถสามล้อไฟฟ้าสำหรับขนส่งภายในปีนี้อีกด้วย
ทั้งนี้ จากการที่ภาครัฐมีนโยบายส่งเสริมสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้า ไทยรุ่งฯจึงมีนโยบายสนับสนุนภาครัฐในด้านการส่งเสริมการใช้รถบัสไฟฟ้าในการขนส่งมวลชนและรองรับธุรกิจท่องเที่ยวในเมือง เพื่อลดมลพิษ PM 2.5 และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) จึงได้พัฒนา “รถมินิบัสไฟฟ้า” ขนาด 20-26 ที่นั่ง สามารถวิ่งได้ 150 กิโลเมตรต่อการชาร์จ มีขนาดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 105.3 kWh รวมทั้งพัฒนา “รถบรรทุกไฟฟ้า” (EV Truck) ขนาดบรรทุก 1,500 กิโลกรัม สามารถวิ่งได้ 240 กิโลเมตรต่อการชาร์จ เพิ่มเติมจากการผลิตรถสามล้อไฟฟ้าที่ผลิตอยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งมีเป้าหมายขยายธุรกิจรับจ้างประกอบรถยนต์ ยานยนต์ไฟฟ้า และมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าให้กับบริษัทต่างๆ ที่ต้องการขยายตลาดยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย
“บริษัทฯมุ่งพัฒนายานยนต์ไฟฟ้ารองรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และโลจิสติกส์ (Logistic) ที่มีการเติบโตสูงมาก การพัฒนารถไฟฟ้าทั้ง 2 รุ่นดังกล่าวเป็นหนึ่งในเป้าหมายการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยมีนโยบายดำเนินธุรกิจสู่เป้าหมาย Carbon neutral และ Net zero emissions ในอนาคตคาดว่าจะสามารถเปิดตลาดได้ภายในปี 2566 นี้ ซึ่งมั่นใจว่าเป็นธุรกิจที่มีอนาคตสดใส”
นายสมพงษ์ เปิดเผยทิศทางการดำเนินงานของ TRU ในปี 2566 ว่าจะเน้นการสร้างมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัท อย่าง ‘รถ TR TRANSFORMER’ ในปีนี้ตั้งเป้าเติบโตทั้งการขายในประเทศและส่งออกต่างประเทศ และสามารถต่อยอดนวัตกรรมไปยังผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ให้เข้ามาสร้างสีสันและไฮไลท์สำคัญแก่วงการอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย อาทิ “รถหุ้มเกราะป้องกันกระสุน” ซึ่งปัจจุบันได้ผ่านการรับรองมาตรฐานยุทโธปกรณ์กระทรวงกลาโหมเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างดำเนินการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้านวัตกรรมไทย เพื่อขยายตลาดหน่วยงานราชการทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่ง TRU มีส่วนร่วมในการส่งเสริมและสนับสนุนธุรกิจที่เป็น supply chain ในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และช่วยให้ประเทศไทยประหยัดงบประมาณนำเข้ายุทโธปกรณ์จากต่างประเทศได้
ปัจจุบันธุรกิจหลักของ TRU แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ 1) งานแม่พิมพ์และชิ้นส่วนยานยนต์ คิดเป็น 50% ของรายได้รวม 2) งานรับจ้างประกอบและทำสี คิดเป็น 40% ของรายได้รวม และ 3) รถพิเศษเฉพาะทางต่างๆ และ After sale service คิดเป็น 10 % ของรายได้รวม โดยจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่ารายได้หลักของปี 2565 ยังคงมาจากธุรกิจงานแม่พิมพ์และชิ้นส่วนยานยนต์ และรับจ้างประกอบและทำสี ซึ่งเป็นงานที่ทางบริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์มามากกว่า 50 ปี
8 ก.ย. 2567