Last updated: 4 ต.ค. 2566 | 476 จำนวนผู้เข้าชม |
OR เผยปี 2565 มีรายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้น 54.3% มีส่วนแบ่งการตลาด 43.2% ติดตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้า“EV Station PluZ” 302 แห่ง หรือ 909 หัวชาร์จ รวมทั้งการร่วมมือกับพันธมิตรขยายเครือข่ายเพื่อก้าวสู่ความเป็นผู้นำในระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2566 มุ่งสานต่อและผลักดันวิสัยทัศน์ “Empowering All toward Inclusive Growth” ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมในทุกมิติ
นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวทำให้ ปี 2565 ภาพรวมปริมาณขายปรับเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ ส่งผลให้ OR มีรายได้ขายและบริการเพิ่มขึ้น 54.3% และยังคงรักษาความเป็นผู้นำในตลาด โดยมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 43.2% ได้ติดตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้า “EV Station PluZ” แล้วทั้งสิ้นจำนวน 302 แห่ง หรือ 909 หัวชาร์จ และได้ร่วมกับพันธมิตรที่หลากหลายในการขยายเครือข่าย “EV Station PluZ” ให้ผู้บริโภคสามารถเข้าใช้บริการได้อย่างสะดวกสบาย เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นําในระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า (EV Ecosystem)
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2566 OR มุ่งมั่นสานต่อและผลักดันวิสัยทัศน์ “Empowering All toward Inclusive Growth” ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ได้เตรียมงบลงทุนจำนวน 31,197 ล้านบาท มุ่งเน้นการขยายและสร้างความแข็งแกร่งของ Business Value Chain ของ กลุ่มธุรกิจ Lifestyle โดยจัดสรรงบประมาณจำนวน 14,193 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 45% ของงบลงทุน สำหรับขยายสาขาร้าน Café Amazon และร้าน Texas Chicken รวมถึงการแสวงหาพันธมิตรและการลงทุนใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตทุกรูปแบบ นอกจากธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (F&B) แล้วยังให้ความสำคัญในกลุ่มธุรกิจด้าน Health & Wellness และ Tourism
ทางด้านกลุ่มธุรกิจ Mobility ยังคงเดินหน้ามุ่งรักษาความเป็นผู้นำใน Mobility Ecosystem ทั้งในแง่การขยายสาขา PTT Station และ EV Station PluZ รวมถึงการผลักดันให้เกิดความร่วมมือในธุรกิจ EV ของกลุ่ม ปตท. อย่างเป็นระบบ รวมถึงการลงทุนใน Green Energy เพื่อเตรียมพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของแหล่งพลังงาน ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะต้องการพลังงานชนิดใดสำหรับการเดินทาง เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านการใช้พลังงานเป็นไปอย่างไร้รอยต่อ โดยจัดสรรงบประมาณจำนวน 6,799 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 22% ของงบลงทุน
กลุ่มธุรกิจ Global มุ่งขยายการลงทุนด้วยการ PTT Station และ Café Amazon ผ่านบริษัทในเครือในต่างประเทศ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในประเทศที่ OR ได้เข้าไปดำเนินการแล้ว พร้อมแสวงหาโอกาสในการลงทุนในประเทศใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพ โดยจัดสรรงบประมาณจำนวน 4,954 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 16% ของงบลงทุน ส่วนกลุ่มธุรกิจ OR Innovation มุ่งแสวงหาธุรกิจใหม่เพื่อต่อยอดธุรกิจในปัจจุบัน โดยกำหนดหลักเกณฑ์ด้านสังคม สิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้ ยังมีการลงทุนนวัตกรรมเพื่อพัฒนาโมเดลทางธุรกิจใหม่ๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป โดยจัดสรรงบประมาณจำนวน 5,251 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 17% ของงบลงทุน
ทั้งนี้ OR ยังให้ความสำคัญกับสร้างอนาคตที่ยั่งยืนผ่าน SDG ในแบบฉบับของ OR เพื่อตอบโจทย์เป้าหมาย OR 2030 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งประกอบไปด้วย S – SMALL โอกาสเพื่อคนตัวเล็ก D – DIVERSIFIED โอกาสเพื่อการเติบโตทุกรูปแบบ และ G – GREEN โอกาสเพื่อสังคมสะอาด โดยล่าสุด OR ได้รับการคัดเลือกจาก S&P Global ให้อยู่ในทำเนียบธุรกิจที่มีความยั่งยืน “The Sustainability Yearbook 2023” กลุ่มธุรกิจ Retailing ภายหลังจาก OR เข้าร่วมประเมินความยั่งยืนในระดับสากลในปีแรกที่เข้าร่วม สะท้อนให้เห็นการดำเนินงานด้านความยั่งยืนทั้ง 3 มิติ ของ OR ได้แก่ มิติสิ่งแวดล้อม มิติสังคม มิติเศรษฐกิจและการกำกับดูแลกิจการ สอดคล้องกับเกณฑ์การประเมินระดับสากลของ DJSI (Dow Jones Sustainability Indices)
นอกจากนี้ ยังได้ส่งมอบโอกาสผ่านการดำเนินโครงการหรือกิจกรรมต่างๆ อาทิ การสร้างรายได้ให้แก่ผู้ด้อยโอกาสครอบคลุมกลุ่มผู้สูงวัย ผู้บกพร่องทางการได้ยินและการเรียนรู้ ให้มีรายได้จากการทํางานเป็นบาริสต้า ผ่านร้าน Cafe Amazon for Chance แล้วกว่า 137 คน การจัดโครงการพื้นที่ปันสุขและตลาดเติมสุข ซึ่งเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรและชุมชนให้สามารถนําผลผลิตมาจําหน่ายในพื้นที่สถานีบริการ PTT Station ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตลอดจนการรับซื้อผลผลิตการเกษตรที่ล้นตลาดเพื่อมาจัดกิจกรรมให้กับลูกค้าที่เติมน้ำมัน ช่วยสร้างรายได้ให้ชุมชนจากการขายสินค้ามากกว่า 15.6 ล้านบาท เป็นต้น