บ้านปู เน็กซ์ ขยายฐาน 5 ธุรกิจพลังงานสะอาด-บริการ EV Fleet Management

บ้านปู เน็กซ์ ขยายฐาน 5 ธุรกิจพลังงานสะอาดเชิงรุก ทั้งพลังงานหมุนเวียน ซื้อขายไฟฟ้า อี-โมบิลิตี้ ขยายกำลังผลิตแบตเตอรี่ในจีน สร้างโรงงานประกอบแบตเตอรี่ในไทย และธุรกิจเมืองอัจฉริยะและจัดการพลังงาน ปี 2566 เล็งให้บริการ EV Fleet Management และขยายธุรกิจ New S-Curve ที่สอดรับเศรษฐกิจยุคคาร์บอนต่ำ มุ่งสู่ Net-Zero Energy Provider

บ้านปู เน็กซ์ ผู้ให้บริการโซลูชันพลังงานสะอาดชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เปิดเผยถึงความสำเร็จตลอดปี 2565 ใน 5 กลุ่มธุรกิจเชิงรุก ส่วนของธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ได้มีการขยายพอร์ตโซลาร์ทุกประเภทในประเทศไทยและต่างประเทศ ทั้งโรงไฟฟ้าหมุนเวียนขนาดใหญ่ โซลาร์ลอยน้ำ และโซลาร์รูฟท็อป ธุรกิจซื้อขายไฟฟ้า รวมถึงการขยายการซื้อขายไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่นและออสเตรเลีย

ด้านธุรกิจอี-โมบิลิตี้ จะนำบริการระบบสัญจรทางเลือกแบบครบวงจร หรือ Mobility as A Service (MaaS) และการบริหารการเดินทางและขนส่งด้วยยานพาหนะไฟฟ้า (EV Fleet Management) ไปส่งเสริมการเดินทางและขนส่งอัจฉริยะ ส่วนของโรงงานประกอบแบตเตอรี่ ได้มีการสร้างโรงงานประกอบแบตเตอรี่ในประเทศไทย พร้อมทั้งขยายกำลังการผลิตแบตเตอรี่ที่โรงงานในประเทศจีน ธุรกิจเมืองอัจฉริยะและจัดการพลังงานได้มีการขยายฐานลูกค้าโครงการสมาร์ทซิตี้ และระบบจัดการพลังงานในหลายอุตสาหกรรม

นายสินนท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด กล่าวว่า ในปี 2565 ที่ผ่านมาบ้านปูเดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งระบบนิเวศทุกกลุ่มธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ “Greener & Smarter” ของกลุ่มบ้านปู พร้อมยกระดับโซลูชันพลังงานฉลาดเพื่อความยั่งยืนแบบครบวงจร (Total Solutions) ให้มีความหลากหลายและยืดหยุ่นยิ่งขึ้น เพื่อรองรับเมกะเทรนด์ Net-Zero และตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกองค์กรที่ต้องการพิชิตเป้าหมายการลดคาร์บอน

ทั้งนี้แนวทางการดำเนินธุรกิจที่บ้านปู เน็กซ์ให้ความสำคัญใน 2 เรื่อง คือ การมุ่งขยายพอร์ตฟอลิโอทุกธุรกิจโดยเฉพาะในต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบัน บ้านปู เน็กซ์ดำเนินธุรกิจอยู่ในหลายประเทศ ได้แก่ ไทย จีน เวียดนาม ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย อีกทั้งเข้าลงทุนในบริษัทชั้นนำ และร่วมมือกับพันธมิตรรายใหญ่ เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจพลังงานสะอาดของบ้านปู เน็กซ์

การดำเนินงานในปี 2565 ที่ผ่านมา บ้านปู เน็กซ์ ได้ขับเคลื่อนทั้ง 5 ธุรกิจให้เติบโตและมีความเคลื่อนไหวทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ชิราคาวะ จังหวัดฟุกุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น ขยายพอร์ตโซลาร์รูฟท็อปและโซลาร์ลอยน้ำในประเทศไทย จีน ญี่ปุ่น เวียดนาม และอินโดนีเซีย ปัจจุบันมีกำลังผลิตรวมกว่า 1,010 เมกะวัตต์

ธุรกิจแบตเตอรี่ ได้มีการสร้างโรงงานประกอบแบตเตอรี่ในประเทศไทย พร้อมกับขยายกำลังการผลิตแบตเตอรี่ที่โรงงานในประเทศจีน เพื่อบรรลุเป้าหมายประมาณ 4 กิกะวัตต์ชั่วโมง ภายในปี 2568

ธุรกิจซื้อขายไฟฟ้า ขยายการซื้อขายไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่นและออสเตรเลีย ธุรกิจอี-โมบิลิตี้ นำบริการระบบสัญจรทางเลือกแบบครบวงจร หรือ Mobility as A Service (MaaS) และการบริหารการเดินทางและขนส่งด้วยยานพาหนะไฟฟ้า (EV Fleet Management) เพื่อส่งเสริมการเดินทางและการขนส่งอัจฉริยะ โดยขยายทุกบริการภายใต้ MaaS ให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีจุดบริการไรด์ แชร์ริ่ง 2,500 จุด คาร์ แชร์ริ่งกว่า 1,500 จุด สถานีชาร์จกว่า 300 สถานี และจุดบริการหลังการขายรถยนต์ไฟฟ้า 20 แห่ง

ธุรกิจพัฒนาเมืองอัจฉริยะและจัดการพลังงานได้ขยายฐานลูกค้าโครงการสมาร์ทซิตี้ และระบบจัดการพลังงานในหลายอุตสาหกรรม ปัจจุบันมีลูกค้าแล้ว 20 โครงการ

นายสินนท์ เปิดเผยว่า บ้านปู เน็กซ์ มุ่งเน้นเข้าไปลงทุนในบริษัทชั้นนำ พร้อมผนึกความร่วมมือกับพันธมิตรรายใหญ่ เสริมความแกร่งให้ธุรกิจพลังงานสะอาด มีลงทุนในบริษัท อัลโต้เทค โกลบอล ซึ่งเป็นเทคสตาร์ทอัพ ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มจัดการพลังงานด้วย AI และ IoT เพื่อต่อยอดธุรกิจระบบจัดการพลังงาน รวมถึง Solar Esco ผู้นำธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในเวียดนาม ขยายบริการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปแบบครบวงจรในเวียดนาม

ที่ผ่านมาได้มีการลงนามความร่วมมือกับพันธมิตรรายใหญ่ เพื่อต่อยอดโซลูชันพลังงานสะอาดให้ครบวงจรยิ่งขึ้น โดยร่วมกับเชิดชัยมอเตอร์เซลส์ และดูราเพาเวอร์ สร้างโรงงานประกอบแบตเตอรี่ในไทย รุกตลาด e-Bus และ EV ทั่วเอเชียแปซิฟิก จับมือแพลนเน็ตคอมฯ ขยายบริการสมาร์ท เซฟตี้ แพลตฟอร์ม รองรับดีมานด์การพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่เพิ่มขึ้น รวมถึงต่อยอดความร่วมมือกับเอสพี กรุ๊ป นำบริการระบบผลิตความเย็นจากส่วนกลาง (District Cooling Systems) มาเสริมบริการระบบจัดการพลังงานให้ครบวงจรตอบความต้องการลูกค้าหลายอุตสาหกรรมทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ

“เรามองตัวเองเป็นพาร์ทเนอร์ระยะยาว (Long-term partner) ด้านพลังงานสะอาด ที่ช่วยสนับสนุนให้ทุกองค์กรเข้าถึงพลังงานสะอาดได้อย่างไร้ขีดจำกัด เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ลดค่าใช้จ่าย และสร้างความคุ้มค่าให้ธุรกิจอย่างยั่งยืน”

สำหรับในปี 2566 นี้ บ้านปู เน็กซ์ จะสร้างการเติบโตทางธุรกิจและขยายฐานลูกค้าทั้ง 5 กลุ่มธุรกิจทั่วเอเชียแปซิฟิก สำหรับในประเทศไทย เตรียมติดตั้งระบบโซลาร์ และให้บริการ EV Fleet Management ในหลายธุรกิจชั้นนำ โดยการออกแบบให้เหมาะสมกับธุรกิจและความต้องการของลูกค้าแต่ละราย พร้อมทั้งมีดิจิทัลแพลตฟอร์มให้ลูกค้าใช้มอนิเตอร์การเดินทางและการขนส่งแบบเรียลไทม์ และขยายบริการจัดการพลังงานตามแผนที่ตั้งไว้

นอกจากนี้ ในประเทศอินโดนีเซียจะรุกขยายธุรกิจพลังงานหมุนเวียนและระบบจัดการพลังงานเพิ่มเติม ศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในบริษัทชั้นนำที่มีศักยภาพเพื่อการเติบโตทั่วเอเชียแปซิฟิก รวมถึงขยายธุรกิจ New S-Curve ที่สอดรับกับเศรษฐกิจยุคคาร์บอนต่ำ โดยมุ่งมั่นจะก้าวเป็น Net-Zero Energy Provider ที่องค์กรชั้นนำทั่วภูมิภาคไว้วางใจ” นายสินนท์ กล่าวในที่สุด