PTG เผยยอดสถานีชาร์จ EV เพิ่มเป็น 44 จุด ตั้งเป้า 65 สถานีภายในปี 2566

พีทีจีเผยตัวเลขสถานีชาร์จไฟฟ้า ณ สิ้นเดือนเมษายน 2566 ขยายเพิ่มเป็น 44 จุด มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของตลาดยานยนต์ไฟฟ้า ตั้งเป้าภายในสิ้นปีนี้จะมีจุดให้บริการ 65 สถานี ครอบคลุมทั่วประเทศ

นายรังสรรค์ พวงปราง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG กล่าวในงานบริษัทจดทะเบียนพบนักลงทุน (Opportunity Day) ผ่านช่องทางออนไลน์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ณ อาคาร CW Tower ชั้น 33 บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า

ทิศทางการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาส 2/2566 มีแนวโน้มการเติบโตอย่างโดดเด่น เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการเปิดประเทศท่องเที่ยว เห็นได้จากช่วงเดือนเมษายน 2566 ที่ผ่านมา มีประชาชนเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นจำนวนมาก และยังมีวันหยุดยาวต่อเนื่องหลายวันในช่วงเดือนพฤษภาคม ส่งผลให้ PTG มียอดขาย Oil และ Non-Oil เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มเติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ดังนั้นจึงมองว่ารายได้จะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้

ส่วนตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตแบบก้าวกระโดดในปัจจุบัน ส่งผลให้ธุรกิจเกี่ยวเนื่องได้รับอานิสงค์การเติบโตตามไปด้วย ล่าสุด ณ สิ้นเดือนเมษายน 2566 PTG มีจำนวนสถานีชาร์จไฟฟ้าขยายเพิ่มเป็น 44 จุด มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของตลาดยานยนต์ไฟฟ้า ตั้งเป้ามีจุดให้บริการ 65 สถานีครอบคลุมทั่วประเทศภายในสิ้นปีนี้

สถานีอัดประจุไฟฟ้า EV Charging ของพีทีจี เป็นการจับมือกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ดำเนินงานภายใต้ชื่อ EleX by EGAT Max จุดเด่นคือแท่นชาร์จไฟเป็นแบบควิกชาร์จ โดยติดตั้งเครื่องอัดประจุไฟฟ้าแบบชาร์จเร็ว (DC Fast Charge) ขนาด 125 kW สะดวก รวดเร็ว ชาร์จภายในเวลา 15 – 30 นาที และยังมีจุดชาร์จแบบ AC Normal Charge ที่รองรับรถยนต์ EV ได้ทุกค่าย

คุณภาพการให้บริการเป็นไปตามมาตรฐานต่างๆที่ทำร่วมกับ EGAT ทำให้เชื่อมั่นได้ว่าจะไม่สร้างความเสียหายให้กับรถยนต์ของลูกค้า  นอกจากนั้นยังมีระบบเครือข่ายการให้บริการผ่านแอปพลิเคชัน EleXA ที่มีความเสถียร ใช้งานง่าย รองรับการชำระเงิน ครบจบที่เดียว

จุดแข็งอีกข้อของพีทีจีคือมีสถานีบริการน้ำมันกระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 1,952 แห่ง ดังนั้นหากตลาดมีความต้องการก็พร้อมขยายจุดชาร์จรองรับได้อย่างรวดเร็ว โดยยึดหลักว่าจะต้องสะดวก ไม่ยุ่งยากต่อการใช้งานของลูกค้า ตั้งเป้าเพิ่มสถานีชาร์จทุกๆ 100-150 กิโลเมตร