Last updated: 20 Aug 2023 | 942 Views |
เรื่องลุยน้ำลุยโคลน ปีนป่ายเนินสูงชัน “ดีเฟนเดอร์” รถออฟโรดระดับตำนานจากเมืองผู้ดีไม่เป็นสองรองใครอยู่แล้ว แต่ในเวอร์ชั่นฉลอง 75 ปีของแลนด์โรเวอร์...บอกเลย ลุยได้โหดกว่าเดิมหลายเท่า!
ลำพังขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตรก็รีดม้าออกมาได้ 300 ตัวสบายๆอยู่แล้ว ยิ่งได้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 105 กิโลวัตต์เสริมทัพมาอีกตัว ทำให้ปั๊มม้าได้เพิ่มอีกเป็นร้อย ทำให้ได้ความแรงระดับ 404 แรงม้า ข้อสำคัญระบบส่งกำลัง PHEV ขั้นสูงที่ให้การตอบสนองทันอกทันใจด้วยพลังงานไฟฟ้าก็ทำให้ระเบิดพลังฝ่าฟันอุปสรรคในเส้นทางออฟโรดง่ายดายขึ้นไปอีก
New Defender 75th Limited Edition เป็นรถยนต์รุ่นพิเศษที่ผลิตจำนวนจำกัดในโอกาสเฉลิมฉลองความสำเร็จ 75 ปีของแลนด์โรเวอร์ ถูกออกแบบให้เป็น Green Machine ด้วยสีเขียวกราสเมียร์ (Grasmere Green) มาพร้อมล้อสีเดียวกับตัวรถขนาด 20 นิ้ว ยาง All Terrain สำหรับออฟโรดเบาๆ กันชนด้านหน้าและท้ายสีเงิน และกระจกสีทึบ Privacy Glass มีโลโก้ 75 ปีติดอยู่ที่ด้านท้ายรถเป็นเอกลักษณ์ของรุ่น
มีให้จับจองเพียง 10 คันเท่านั้น (ในไทย) ในราคา 7,599,000 บาท
นายชาญชัย มหันตคุณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์ในประเทศไทย กล่าวว่า “รถยนต์ Limited Edition รุ่นนี้เป็นการรวบรวมจิตวิญญาณตลอด 75 ปีที่ผ่านมาของแลนด์โรเวอร์ โดยเน้นสีและรายละเอียดหลอมรวมกับนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี เช่น ระบบไฮบริดที่ใช้พลังงานไฟฟ้าร่วมด้วยขณะขับขี่ ระบบขับขี่ตามสภาพพื้นผิวถนน ระบบอัพเดตซอฟต์แวร์อัตโนมัติ และสมรรถนะการขับขี่ในทุกสภาพภูมิประเทศที่ยากจะหาใครเทียบได้”
รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด ดีเฟนเดอร์ 75 ปี ลิมิเต็ด อิดิชั่น ถูกพัฒนาต่อยอดมาจาก Defender 110 รุ่น HSE เวอร์ชั่นนี้มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานและนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมถึงกล้อง 3D แบบรอบทิศทาง ระบบขับขี่ตามสภาพพื้นผิวถนนที่ออกแบบเองได้ ระบบเสียง Meridian ไฟหน้า Matrix LED ระบบอินโฟเทนเมนต์ Pivi Pro ขนาด 11.4 นิ้ว จอแสดงผล Head-Up Display และที่ชาร์จอุปกรณ์แบบไร้สาย และมีมีฟีเจอร์หลังคาผ้าพับได้หรือหลังคาพาโนรามิกแบบเลื่อนได้เป็นออปชั่นให้เลือก
สะดวกสบายแบบเหนือชั้นด้วยเบาะนั่งไฟฟ้า 14 ทิศทางสำหรับทั้งคนขับและผู้โดยสาร ภายในห้องโดยสารตกแต่ง Cross Car Beam ด้วยการพ่นสีขาวและมีรายละเอียดการสลักกราฟิกฉลอง 75 ปีด้วยเลเซอร์บนฝาปิดเอนด์แคป เบาะนั่งหุ้มด้วย Resist Ebony บริเวณแผงคอนโซลกลางใช้วัสดุ Robustec ที่เป็นโครงสร้างที่แข็งแรงทนทานที่สุดสำหรับรุ่น Defender
สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็อุปกรณ์สำหรับการลุยอย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับลากจูง ระบบความปลอดภัย Secure Tracker Pro ระบบล้างไฟหน้าเมื่อต้องลุยน้ำลุยโคลน ฯลฯ
Land Rover Defender 75th Limited Edition ใช้ระบบไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) รหัส P400e ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร Ingenium PT204 ความแรง 300 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 105 แรงม้าและแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ความจุ 19.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) โดยเมื่อทำงานร่วมกันจะได้แรงม้ามากถึง 404 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 640 นิวตันเมตร ที่ 1,500-4,500 รอบ/นาที
วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้าล้วนได้ 43 กม. ความเร็วสูงสุด 209 กม/ชม. เร่งสปีดจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 5.6 วินาที เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD Terrain Response 2 ส่วนเกียร์ 4WD เป็นแบบ twin-speed transfer box และระบบล็อกเฟืองท้าย Differential Controls สำหรับขาลุยโดยเฉพาะ
ใช้เวลาในการชาร์จให้เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ด้วย WALL BOX ขนาด 7 กิโลวัตต์ ประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง และสามารถชาร์จแบบควิกชาร์จด้วย DC CHARGER ขนาด 50 กิโลวัตต์ จาก 0- 80 เปอร์เซ็นต์ ได้ภายใน 30 นาที
สำหรับสาวกดีเฟนเดอร์ยังมีสินค้าไลฟ์สไตล์ที่ใช้ธีมสี Grasmere Green ให้เลือกหลากหลาย อาทิ กระเป๋าเป้อเนกประสงค์ โมเดลรถต้นแบบ รวมถึง หมวก เสื้อผ้า ที่มีกราฟิก 75 ปี เป็นต้น
ประวัติของค่ายแลนด์โรเวอร์นั้นเริ่มต้นเมื่อปี 1948 เมื่อครั้งที่รถยนต์ Series I ของแลนด์โรเวอร์ได้เปิดตัวเป็นครั้งแรกในงานอัมสเตอร์ดัมมอเตอร์โชว์ (Amsterdam Motor Show) ซึ่ง Defender 75th Limited Edition ถือเป็นการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 75 ปีของแลนด์โรเวอร์ ด้วยการออกแบบภายนอกที่พิเศษอันเป็นเอกลักษณ์ ครั้งแรกกับสีภายนอก Glasmere Green ซึ่งเป็นเฉดสีที่สงวนไว้สำหรับรุ่น 75th Limited Edition โดยเฉพาะ
ตลอดเวลาที่ผ่านมา Defender ได้รับรางวัลในระดับโลกมาแล้วมากกว่า 50 รางวัล รวมถึง 2020 Car of the Year ของ Top Gear, 2021 SUV of the Year ของ MotorTrend และ Best SUV 2020 ของ Autocar เช่นเดียวกับได้รับการจัดอันดับความปลอดภัยให้อยู่ในระดับ 5 ดาวของ Euro NCAP
แวะสำรวจคันจริงได้ที่โชว์รูมแลนด์โรเวอร์ พระราม 4 และศูนย์การค้าสยามพารากอน ชั้น 2 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02-666-7500 และ www.landrover.co.th