X

เจาะสเป็ครถสปอร์ตไฟฟ้า 100% ตัวท็อป Audi RS e-tron GT quattro

Last updated: 21 Aug 2023  |  735 Views  | 

เจาะสเป็ครถสปอร์ตไฟฟ้า 100% ตัวท็อป Audi RS e-tron GT quattro

646 แรงม้า

อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในแค่ 3.3 วิ.

ชาร์จ 20 นาที วิ่งได้ทะลุ 500 โลฯ

สาบานเถอะว่านี่คือสเป็คของรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่ปั๊มจากโรงงานออกมาขายกันแล้ว พ.ศ. นี้!

แต่มันก็เป็นไปแล้ว

ค่ายอาวดี้ทำคลอดรถสปอร์ตไฟฟ้า 100% เวอร์ชั่นนี้ออกมาจากสายพานการผลิตปกติของโรงงาน เป็นรถ production car ดีๆนี่เอง ต้องยกให้เป็นรถสายพันธุ์ไฟฟ้าในอุดมคติกันไปเลย เพราะระยะทางการวิ่งที่ทำได้ระดับนี้ถือว่าสามารถใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน ไม่ต้องคอยวิ่งกินซ้ายมองหาสถานีชาร์จกันร่ำไป



ที่ขับได้ไกลเกิน 500 กิโลเมตร เป็นเพราะใช้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ความจุพลังงานแบตเตอรีไฟฟ้าแรงสูง (Energy capacity of high voltage battery) เป็นแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ความจุ 93.4 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ที่ให้แรงดันไฟฟ้าถึง 800 โวลต์ รองรับการชาร์จไฟ AC 22 kW เต็มภายในระยะเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง 30 นาที และรองรับการชาร์จแบบ DC ได้สูงสุด 270 kW ชาร์จจาก 0-80% ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีเท่านั้น มาพร้อมที่ชาร์จไฟทั้งสองฝั่งเพื่อความสะดวกสบายในการชาร์จ



แบตเตอรี่ของ Audi RS e-tron GT quattro จะทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ (2 e-motors) หน้า-หลัง รีดกำลังออกมาได้สูงถึง 646 แรงม้า (ใน Boost Mode) แรงบิดสูงสุด 830 นิวตันเมตร มอเตอร์ไฟฟ้าจะถ่ายทอดกำลังโดยตรงไปยังล้อ ควบคู่กับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อไฟฟ้า electric quattro พร้อมระบบกระจายแรงบิด wheel-selective torque control ทำให้การออกตัวและเร่งแซงได้ติดเท้า สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.3 วินาที (ใน Boost Mode) ทำความเร็วสูงสุดได้ 250 กม./ชม. และขับได้ไกลถึง 504 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC)

แบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูงลิเธียมไอออน จัดเรียงจำนวน 33 โมดูล (Modules) ติดตั้งมาในลักษณะแบนราบใต้ตัวถัง ช่วยให้การทรงตัวดี เกาะถนน แถมยังได้พื้นที่จัดเก็บสัมภาระภายในตัวรถมากขึ้น ที่พิเศษคือการติดตั้งแผ่นอะลูมิเนียมป้องกันใต้ท้องรถ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ตัวแบตฯถูกกระแทกโดยตรง และช่วยลดแรงต้านทานอากาศด้วยการออกแบบแผ่นอะลูมิเนียมตามหลักอากาศพลศาสตร์

The New Audi e-tron ได้รับการพัฒนาโดยระบบการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ (recuperation) อย่างชาญฉลาด 2 รูปแบบ คือ 1. Coasting การปล่อยให้รถวิ่งในลักษณะลอยตัว เมื่อผู้ขับขี่ถอนเท้าออกจากคันเร่ง กำลังของการชลอความเร็วจะถูกดึงกลับมาใช้ใหม่ 3 ระดับผ่านการตั้งค่าจากแป้น paddle shift ที่ติดตั้งหลังพวงมาลัย เพื่อให้ได้ระยะทางการขับขี่ที่มากกว่าเดิม



ยิ่งไปกว่านั้นผู้ขับขี่ยังสามารถเลือกตั้งระดับการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่โดยอัตโนมัติผ่านฟังก์ชั่นที่ 2 Predictive efficiency assist (PEA) ในระบบ MMI ได้อีกด้วยทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมความเร็วของรถได้จากการถอนเท้าออกจากคันเร่ง โดยที่ไม่ต้องเหยียบเบรกได้ และถ้ากำลังของการชะลอความเร็วรถลดลงมากกว่า 0.3 g เบรกไฮดรอลิกจะทำงานโดยอัตโนมัติ

ระบบเกียร์อัตโนมัติ 2 จังหวะ (Two-speed transmission) ใน Audi RS e-tron GT quattro ติดตั้งอยู่บริเวณเพลาหลัง เป็นเทคโนโลยีสำหรับรถไฟฟ้าโดยเฉพาะ เกียร์ 1 จะเป็นเกียร์ที่มีช่วงสั้น ให้แรงบิดสูง สำหรับการขับขี่แบบไดนามิค หรือจังหวะที่ต้องการอัตราเร่งสูงสุด ขณะที่เกียร์ 2 เป็นช่วงเกียร์ยาว ให้ความเร็วสูง

ดีไซน์ที่ยึดมั่นใน DNA ของ Audi

Audi RS e-tron GT quattro เป็นรถสปอร์ต 4 ประตู ที่การออกแบบยังยึดมั่นใน DNA ของ Audi ที่สะท้อนตัวตนและความแตกต่างอย่างลงตัว ดีไซน์ดูเรียบหรูในลุคสปอร์ตทั้งภายนอกและภายใน ดีไซน์ภายนอกใช้เทคโนโลยีอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamic) มาออกแบบรูปทรงของรถให้มีความลู่ลม ช่องลมทั้งคันออกแบบเพื่อลดแรงต้านอากาศ ทำให้นำพลังานไฟฟ้ามาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ



 เติมเต็มความสปอร์ตด้วยล้อบิ๊กไซส์ขนาด 21 นิ้ว ลายพิเศษ ด้านหน้าขนาด 9.5J x 21 ด้านหลังขนาด 11.5J x 21 พร้อมยางด้านหน้าขนาด 265/35 R21 ส่วนยางด้านหลังขนาด 305/30 R21  ดิสก์เบรกหน้า-หลังเคลือบทังสเตนคาร์ไบด์ (Tungsten Carbide) พร้อมคาลิเปอร์เบรกสีแดง

เทคโนโลยีของไฟหน้าแบบ Matrix LED headlamps with Audi laser light ช่วยให้แสงไฟคมชัด แม่นยำ ลดการกระจายแสงรบกวนเพื่อนร่วมทาง โดยระบบจะลดการกระจายแสงของไฟสูงเมื่อมีรถคันอื่นอยู่ในระยะ เมื่อพ้นจากบริเวณที่มีรถสวนหรือไม่มีรถวิ่งอยู่ด้านหน้าในระยะที่แสงไฟจะรบกวน ระบบจะปรับมาใช้ไฟสูงเต็มรูปแบบ นอกจากนี้เมื่อเร่งสปีดขับด้วยความเร็วสูง Laser Light ในไฟหน้าจะทำหน้าที่เป็นไฟสูงเสริมขึ้นมา ทำให้ส่องสว่างได้ไกลขึ้นเกือบ 2 เท่า ช่วยให้ขับขี่ได้ปลอดภัยมากขึ้น ส่วนไฟท้ายเป็นแบบ Light staging ที่มากับเอฟเฟคไฟเต้นระบำ...เท่ไปอีก

ภายในห้องโดยสารดูกว้างขวางตามแบบฉบับของ Audi Sport ตกแต่งด้วยลาย Matte Carbon Twill  เบาะนั่งคู่หน้าแบบ Sport Pro ปรับด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง Memory Seat มีฟังก์ชั่นนวดเพื่อการผ่อนคลาย พวงมาลัยไฟฟ้าแบบ All-wheel steering



แผงหน้าปัดออกแบบให้คนขับเป็นศูนย์กลาง  จอ Virtual cockpit plus ขนาด 12.3 นิ้ว แสดงผลมาตรวัดความเร็วและรอบเครื่อง พร้อมติดตั้งระบบ Cruise control ระบบ MMI Navigation plus พร้อมหน้าจอแบบสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว ติดตั้งพร้อม ระบบ Audi smartphone interface และรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth โดยติดตั้งช่อง USB-C สำหรับห้องโดยสารด้านหน้า 2 ตำแหน่ง และ USB สำหรับห้องโดยสารด้านหลัง 2 ตำแหน่ง เพื่อรับรองความต้องการของผู้ใช้งานอย่างเต็มที่ 

ระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมียม Bang & Olufsen พร้อมระบบเสียง 3 มิติ พร้อมไฟเรืองแสงในห้องโดยสารแบบปรับสีได้ 30 สี ระบบแอร์รถยนต์ควบคุมอุณหภูมิแยกอิสระ 3 โซน

เพราะความเงียบสไตล์รถยนต์ไฟฟ้า ภายในตัวรถใช้เทคโนโลยี e-sound สร้างเสียงสังเคราะห์ e-tron แบบ Sports เพื่อเพิ่มความสุนทรียภาพในการขับขี่ทุกเส้นทาง สะท้อนความก้าวล้ำทางเทคโนโลยี  ที่ยกระดับให้ความสนุกสนานในการขับรถไฟฟ้าอย่างสมบูรณ์แบบ

หลังคาซันรูฟพาโนรามิค Panoramic glass sunroof กระจกขนาดใหญ่ช่วยให้แสงเข้าสู่ตัวรถได้มากขึ้น ทำให้ห้องโดยสารดูสว่างและกว้างขวาง และยังมีเทคโนโลยีช่วยกรองแสง ป้องกันความร้อนในตัว พื้นที่จัดเก็บสัมภาระด้านหน้าความจุ 85 ลิตร ด้านหลัง 350 ลิตร

Audi RS e-tron GT quattro มาพร้อมเทคโนโลยีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่และผู้โดยสาร (Assistance system) ไม่ว่าจะเป็นระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ ด้านหน้าและด้านหลัง โดยระบบจะประเมินสถานการณ์การขับขี่จากการทำงานของเซ็นเซอร์ของระบบควบคุมการทรงตัว ESC และเรดาร์เซ็นเซอร์ด้านหน้ารถ-ท้ายรถ หรือการเหยียบแป้นเบรก ถ้าประเมินแล้วว่าอาจเกิดอันตราย ระบบจะดึงสายรัดเข็มขัดนิรภัยของเบาะนั่งคู่หน้าให้กระชับ และเปิดการทำงานของสัญญาณไฟฉุกเฉิน

นอกจากนี้ยังมีระบบ Exit warning คอยเตือนผู้โดยสารขณะจะเปิดประตูออกจากด้านใน ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเลน ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตาเมื่อเปลี่ยนเลน ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านหน้ารถเมื่ออยู่ทางแยก ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้างและด้านท้ายรถเมื่อจะเปิดประตูลงจากรถ ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้างและด้านท้ายรถเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง ฯลฯ

ระบบความปลอดภัยพื้นฐาน มีถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง สำหรับคนขับและผู้โดยสาร ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง ระบบล็อกเบรกขณะหยุดนิ่ง ระบบ ABS ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี เซ็นเซอร์หน้า-หลัง และด้านข้างเพื่อช่วยในการเข้าจอด กล้องรอบทิศทาง จุดยึดเบาะหนังสำหรับเด็ก ฯลฯ

ช่วงล่างระบบถุงลมแบบอากาศ 3 ส่วน (Three-chamber air suspension) จะแยกการกักเก็บอากาศออกจากกันเป็น 3 ส่วน สามารถเปิด-ปิดแต่ละส่วนได้เป็นอิสระตามสถานการณ์การขับขี่ ช่วงที่ขับด้วยความเร็วสูงช่วงล่างจะถูกปรับให้แข็งขึ้นเพื่อไม่ให้รถโคลง การเปิดหรือปิดการทำงานของอากาศยังช่วยเพิ่มความเสถียรของตัวรถเวลาเข้าโค้ง เร่งแซง หรือเบรกอีกด้วย

เบรกเป็นดิสก์เบรกเคลือบทังสเตนคาร์ไบด์ที่พัฒนาการระบายความร้อนเมื่อใช้เบรก ช่วยยืดอายุการใช้งานนานกว่าเบรกแบบสตีลถึง 30% จานเบรกหน้าพร้อมคาลิเปอร์เบรกสีแดง 6 ลูกสูบ จานเบรกหลังพร้อมคาลิเปอร์เบรกสีแดง 4 ลูกสูบ

The New RS e-tron GT quattro เปิดตัวในราคา 9,490,000 บาท

อยากสัมผัสรถสปอร์ตไฟฟ้า 100% คันนี้ไปที่งาน Motor Show ระหว่าง 22 มี.ค. – 2 เม.ย. 2566 ที่บูธอาวดี้

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Audi Centre Thailand 02-765-8888 

ข้อมูลทางเทคนิค

Dimension มิติตัวถัง

  • ยาว  4,989 มิลลิเมตร
  • กว้าง  1,964 มิลลิเมตร
  • สูง  1,414 มิลลิเมตร
  • ระยะฐานล้อ : 2,900 มิลลิเมตร
  • พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหน้า ขนาด 85 ลิตร
  • ที่เก็บสัมภาระด้านหลัง ขนาด 405 ลิตร

Powertrain ขุมพลัง

ขุมพลังของ Audi e-Tron GT เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ (2 Electric Motors) Permanent Excited Synchronous Machine

Normal Mode

  • กำลังสูงสุด 598 แรงม้า
  • แรงบิดสูงสุด 830 นิวตันเมตร

Boost Mode

  • กำลังสูงสุด 646 แรงม้า
  • แรงบิดสูงสุด 830 นิวตันเมตร

ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ และ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro พร้อมระบบกระจายแรงบิด wheel-selective torque control

  • อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 3.6 วินาที
  • อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 3.3 วินาที (Boost Mode)
  • ความเร็วสูงสุด Top Speed 250 km/h

แบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุขนาด 93.4 kWh

  • ให้กระแสไฟเดินทางได้สูงสุดต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (มาตรฐาน NEDC)

ระยะทางที่วิ่งได้ 504 กิโลเมตร

รองรับทั้งการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC สูงสุด ขนาด 270 kW และ กระแสไฟฟ้าสลับ AC Onboard Charger ขนาด 22 kW

การชาร์จไฟฟ้า

  • ไฟฟ้า AC 3 phase 11 kW ใช้เวลาชาร์จจาก 0% ประมาณ 9 ชั่วโมง
  • ไฟฟ้า AC 3 phase 22 kW ใช้เวลาชาร์จจาก 0% ประมาณ 4 ชั่วโมง 30 นาที
  • ไฟฟ้า DC 270 kW ใช้เวลาชาร์จจาก 0% ประมาณ 20 นาที

แบตเตอรี่ แบบ 36 Modules ติดตั้งอยู่ใต้พื้นรถ สามารถเปลี่ยนซ่อม Repairable แยก Modules ได้

Technology เทคโนโลยี

  • ช่วงล่างแบบถุงลมแบบสปอร์ต Adaptive Air Suspension
  • เสียงสังเคราะห์ e-tron แบบ Sports
  • ช่องชาร์จไฟฟ้า AC 2 ตำแหน่ง
  • ช่องชาร์จไฟฟ้า DC 1 ตำแหน่ง
  • รองรับการชาร์จไฟฟ้า AC Onboard Charger สูงสุด 22 kW
  • ระบบเลือกโหมดการขับขี่ Audi Drive Select
  • พวงมาลัยไฟฟ้า แบบ All-Wheel Steering
  • ระบบเบรก
    -คู่หน้า ดิสก์เบรกเคลือบทังสเตนคาร์ไบด์ พร้อมคาลิปเปอร์เบรกสีแดง
    -คู่หลัง ดิสก์เบรกเคลือบทังสเตนคาร์ไบด์ พร้อมคาลิปเปอร์เบรกสีแดง
Exterior ภายนอก
  • ล้ออัลลอย ขนาด 21 นิ้ว
    -คู่หน้า 9.5J x 21″ พร้อมยาง 265/35 R21
    -คู่หลัง 11.5J x 21″ พร้อมยาง 305/30 R21
  • ยางอะไหล่
  • ชุดตกแต่งภายนอกแบบ Black Package
  • ตกแต่งกระจกมองข้างด้วยสีดำ
  • กระจังหน้าตกแต่งด้วยสี Glossy Black
  • หลังคากระจก Panoramic Sunroof เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
  • ไฟหน้าแบบ Matrix LED พร้อมไฟ Audi Laser และ Light Staging เอฟเฟกต์ไฟด้านหน้า
  • ไฟท้ายแบบ LED พร้อม Light Staging เอฟเฟกต์ไฟด้านหน้า
  • ไฟ Daytime Running Light แบบ LED
  • ระบบไฟสูงอัตโนมัติ Auto High Beam Audi Laser
  • กระจกมองหลัง แบบปรับลดแสงอัตโนมัติ
  • กระจกมองข้าง แบบปรับลดแสงอัตโนมัติ
  • กระจกมองข้าง ปรับ และ พับด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง Memory
  • ระบบเปิด-ปิดไฟหน้า แบบอัตโนมัติ
  • ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor

Interior ภายในห้องโดยสาร

  • ภายในห้องโดยสาร ตกแต่งด้วยลาย Matte Carbon Twill
  • ด้านข้างคอนโซลกลางหุ้มหนัง Alcantara สีดำ ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง
  • ที่วางแขนข้างประตูหุ้มหนัง Fine Nappa ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง
  • สายเข็มขัดนิรภัย ตกแต่งด้วยสีแดง
  • พรมในห้องโดยสาร สีดำ ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง
  • เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง ตกแต่งแบบ Honeycomb
  • เบาะนั่งคู่หน้า แบบ Sports Pro
  • เบาะนั่งคู่หน้า ปรับด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง Memory Seat
  • เบาะนั่งคู่หน้า พร้อมฟังก์ชั่นอุ่นร้อน Heated Seats
  • เบาะนั่งคู่หน้า พร้อมระบบระบายอากาศ Ventilation Seats
  • เบาะนั่งคู่หน้า พร้อมระบบนวดเพื่อการผ่อนคลาย Massage Seats
  • ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกอิสระ 3 โซน
  • พวงมาลัย Mutifunction สปอร์ตท้ายตัด พร้อมสัญลักษณ์ RS
  • พวงมาลัย ปรับระดับด้วยไฟฟ้า
  • พวงมาลัย หุ้มด้วยหนัง Alcantara
  • แดชบอร์ดหน้า แผงประตู และ คอลโซลกลาง หุ้มด้วยหนัง
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
  • ระบบกุญแจ Comfort Key
  • ฝาท้าย เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า
  • ระบบเปิด-ปิด ฝาท้ายโดยไม่ต้องใช้มือ Hands-Free Tailgate
  • ระบบควบคุมอุณหภูมิก่อนเริ่มการขับขี่ Comfort Stationary Air Conditioning
  • หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า Head-up Display

Entertainment ระบบความบันเทิง

  • ระบบเครื่องเสียงแบบ Premium : Bang & Olufsen พร้อมระบบเสียง 3 มิติ
  • จอแสดงข้อมูลมาตรวัดแบบ Virtual Cockpit Plus ขนาด 12.3 นิ้ว
  • ระบบ MMI Navigation Plus with MMI touch response พร้อมจอแสดงผลแบบสัมผัส ขนาด 10.1 นิ้ว
  • ระบบ Audi Smartphone Interface | Apple CarPlay – Android Auto
  • ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth
  • ช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง / ด้านหลัง 2 ตำแหน่ง
  • ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร Contour / Ambient Lighting ปรับสีได้

Safety ระบบความปลอดภัย

  • ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
  • ระบบกระจายแรงเบรก EBD
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESC
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS
  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า Electronic Parking Brake
  • ระบบล็อคเบรกขณะหยุดนิ่ง Audi Hold Assist
  • ระบบเตือนการคาดเข็มขัดนิรภัย
  • ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุแบบพื้นฐาน Audi pre sense basic
  • ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ ด้านหน้า Audi Pre Sense Front
  • ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ ด้านหลัง Audi Pre Sense Rear
  • ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเลน Lane Departure Warning
  • ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตาเมื่อเปลี่ยนเลน Lane Change Assist
  • ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านหน้ารถ เมื่ออยู่ทางแยก Front Cross Traffic Assist
  • ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้าง และ ด้านท้ายรถเมื่อเปิดประตูลงจากรถ Exit Warning
  • ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้าง และ ด้านท้ารถเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง Rear Cross-Traffic Assist
  • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
  • ถุงลมนิรภัยด้านข้าง
  • ม่านถุงลมนิรภัย
  • เซนเซอร์กะระยะช่วยจอด ด้านหน้า – ด้านหลัง – ด้านข้าง
  • กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา
  • จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX
  • ชุดปฐมพยาบาล

สีตัวถังภายนอก มีให้เลือก 9 สี

  • สีขาว Ibis White Solid
  • สีเงิน Floret Silver Metallic
  • สีดำ Mythos Black Metallic
  • สีเทา Daytona Grey Pearl Effect
  • สีเทา Kemora Grey Metallic
  • สีเทา Suzuka Grey Metallic
  • สีแดง Tango Red Metallic
  • สีน้ำเงิน Ascari Blue Metallic
  • สีเขียวเหลือง Tactics Green Metallic
  • ภายในห้องโดยสาร มีให้เลือก 1 สี
  • สีดำ เดินตะเข็บด้ายสีแดง Black with Red Stitching

การรับประกัน

  • รับประกันคุณภาพตัวรถ Warranty 5 ปี หรือ 150,000 กม. แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน
  • แบตเตอรี่รับประกันนาน 8 ปี หรือ 160,000 กม.
  • 24hr Road-side Assistant บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง เป็นเวลา 5 ปี




เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  and  นโยบายคุกกี้