Last updated: 28 มี.ค. 2568 | 214 จำนวนผู้เข้าชม |
ครม.มีมติอนุมัติร่าง พ.ร.ฎ.ยกเว้นภาษีเพื่อสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ ครอบคลุมรถโดยสารไฟฟ้า รถบรรทุกไฟฟ้า รถกระบะบรรทุกไฟฟ้า รถตู้บรรทุกไฟฟ้า ฯลฯ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568
น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.ฎ.ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ซึ่งเป็นมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ร่าง พ.ร.ฎ. มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ให้แก่บริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับเงินได้เท่ากับรายจ่ายเพื่อการลงทุนในยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ (รถโดยสารไฟฟ้า และรถบรรทุกไฟฟ้า) ที่ได้จ่ายไปตั้งแต่วันที่ ครม. มีมติอนุมัติหลักการ จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.68 โดยสามารถนำไปหักเป็นค่าใช้จ่ายได้ 2 เท่า สำหรับรายจ่ายเพื่อการลงทุนในยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ ที่ผลิตหรือประกอบในประเทศไทย หรือให้หักเป็นค่าใช้จ่ายได้ 1.5 เท่า สำหรับรายจ่ายเพื่อการลงทุนในยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ ที่ประกอบสำเร็จรูปและนำเข้ามาทั้งคัน
ทั้งนี้ บริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่จะใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลดังกล่าว จะต้องจัดทำโครงการลงทุน แผนการจ่ายเงิน และรายละเอียดของยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ และแจ้งต่ออธิบดีกรมสรรพากร ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาตามที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด
สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ต้องมีคุณสมบัติดังนี้
1.รถโดยสารไฟฟ้า ต้องเป็นรถโดยสารที่สามารถขออนุญาตประกอบการขนส่งได้ ในประเภทรถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสาร ตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกใน 6 มาตรฐาน ได้แก่ รถปรับอากาศพิเศษ (มาตรฐาน 1) รถปรับอากาศ (มาตรฐาน 2) รถที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ (มาตรฐาน 3) รถสองชั้น (มาตรฐาน 4) รถกึ่งพ่วง (มาตรฐาน 6) และรถโดยสารเฉพาะกิจ (มาตรฐาน 7) [ไม่รวมถึงรถพ่วง (มาตรฐาน 5) เนื่องจากไม่มีส่วนขับเคลื่อน]
2.รถบรรทุกไฟฟ้า ต้องเป็นรถบรรทุกที่สามารถขออนุญาตประกอบการขนส่งได้ ในประเภทรถที่ใช้ในการขนส่งสัตว์ หรือสิ่งของ ตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกใน 6 ลักษณะ ได้แก่ รถกระบะบรรทุก (ลักษณะ 1) รถตู้บรรทุก (ลักษณะ 2) รถบรรทุกของเหลว (ลักษณะ 3) รถบรรทุกวัสดุอันตราย (ลักษณะ 4) รถบรรทุกเฉพาะกิจ (ลักษณะ 5) และรถลากจูง (ลักษณะ 9) [ไม่รวมถึงรถพ่วง (ลักษณะ 6) รถกึ่งพวง (ลักษณะ 7) และรถกึ่งพ่วงบรรทุกวัสดุยาว (ลักษณะ 8) เนื่องจากไม่มีส่วนขับเคลื่อน]
3.เป็นรถที่ไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน
4.เป็นรถที่นำมาหักค่าสึกหรอ และค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สินได้ ตามมาตรา 65 ทวิ (2) แห่งประมวลรัษฎากร
5.ไม่เป็นรถที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เกี่ยวกับทรัพย์สินนั้น ตาม พ.ร.ฎ.อื่นที่ออกตามความในประมวลรัษฎากร ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
6.ไม่เป็นรถที่นำไปใช้ในกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน กฎหมายว่าด้วยการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย หรือกฎหมายว่าด้วยเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
ที่มา : เว็บรัฐบาลไทย