ยอดขายรถ BEV 3 ไตรมาสพุ่ง 52,219 คัน ทะลุครึ่งแสนเป็นครั้งแรก!

ส.อ.ท. เผยยอดขายรถ BEV เดือนกันยายน มี 4,574 คัน ดันยอดขาย 9 เดือน ม.ค.- ก.ย. 2567 พุ่งเกินครึ่งแสนเป็นครั้งแรก ด้วยยอดขายรวม 52,219 คัน ด้านยอดจดทะเบียนรถ BEV ใหม่ป้ายแดง ก.ย. 2567 เพิ่มขึ้น 6,606 คัน รวมยอดจดทะเบียน 9 เดือนของปีนี้มี 75,653 คัน ทำให้ยอดจดทะเบียนสะสมรถ BEV ในประเทศไทย ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 เพิ่มเป็น 206,631 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 107%

ขณะที่ยอดผลิตรถยนต์ไฟฟ้า BEV ในเดือนกันยายน 2567 มี 1,481 คัน เพิ่มขึ้น 148,000% ยอดผลิตรถยนต์นั่ง BEV ตั้งแต่ มกราคม - กันยายน 2567 มี 7,338 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - กันยายน 2566 กว่า 4,825%

ส.อ.ท. เผยยอดขายรถยนต์เดือน ก.ย. 39,048 คัน ต่ำสุดในรอบ 4 ปี 5 เดือน
นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และนายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ร่วมเปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนกันยายน 2567 โดยมียอดผลิตรถยนต์ 122,277 คัน ลดลงร้อยละ 25.48 ขาย 39,048 คัน ต่ำสุดในรอบสี่ปีห้าเดือน ลดลงร้อยละ 37.11 ส่งออก 80,254 คัน ลดลงร้อยละ 17.67 ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 1,481 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 148,000 ขายรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) 4,574 คัน ลดลงร้อยละ 33.53

จากข้อมูลของ ส.อ.ท. ถ้าโฟกัสกันที่ยานยนต์ไฟฟ้าประเภท BEV (Battery Electric Vehicle) จะมีรายละเอียด ดังนี้

ยอดผลิต
เดือนกันยายน 2567 มียอดผลิตรถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle จำนวน 1,481 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 2566 ถึง 148,000%

ตั้งแต่เดือนมกราคม - กันยายน 2567 มียอดผลิตของรถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle จำนวน 7,338 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - กันยายน 2566 กว่า 4,824.83%

ยอดขาย
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนกันยายน 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 39,048 คัน ต่ำสุดในรอบ 53 เดือน รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) มียอดขาย 4,574 คัน เท่ากับ 11.71% ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 33.53%

ตั้งแต่เดือนมกราคม - กันยายน 2567 มียอดขายรถยนต์นั่งแหละรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 52,219 คันเท่ากับ 11.90% ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 7.17%
 
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนกันยายน 2567
เดือนกันยายน 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่ 6,606 คัน ลดลงจากเดือนกันยายนปีที่แล้ว 25.81% แบ่งเป็น

รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 4,666 คัน ลดลงจากเดือนกันยายน 2566 ร้อยละ 32.08
 

• รถยนต์นั่งจำนวน 4,498 คัน
• รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน 163 คัน
• รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน 1 คัน
• รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน 4 คัน

รถกระบะ รถแวน มีทั้งสิ้น 18 คัน ลดลงจากเดือนกันยายน 2566 ร้อยละ 41.94

รถยนต์สามล้อรับจ้างมีทั้งสิ้น 6 คัน ลดลงจากเดือนกันยายน 2566 ร้อยละ 79.31

• รถยนต์สามล้อส่วนบุคคลจำนวน 4 คัน
• รถยนต์รับจ้างสามล้อจำนวน 2 คัน

รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 1,817 คัน ลดลงจากเดือนกันยายน 2566ร้อยละ 6.53

• รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 1,816 คัน
• รถจักรยานยนต์สาธารณะจำนวน 1 คัน

รถโดยสารมีทั้งสิ้น 44 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 2566 ร้อยละ 340

รถบรรทุกมีทั้งสิ้น 55 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายนปีที่แล้วร้อยละ 175


เดือนมกราคม - กันยายน 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสม 75,653 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - กันยายนปีที่แล้วร้อยละ 11.67 แบ่งเป็น

 
รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 54,308 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - กันยายน 2566 ร้อยละ 8.14

• รถยนต์นั่งจำนวน 52,702 คัน
• รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน 1,533 คัน
• รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน 9 คัน
• รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน 61 คัน
• รถยนต์บริการให้เช่าจำนวน 3 คัน

รถกระบะ รถแวนมีทั้งสิ้น 509 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - กันยายน 2566 ร้อยละ 317.21

รถยนต์สามล้อมีทั้งสิ้น 141 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - กันยายน 2566 ร้อยละ 46.79

• รถยนต์สามล้อส่วนบุคคลจำนวน 36 คัน
• รถยนต์รับจ้างสามล้อจำนวน 105 คัน

รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 20,054 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - กันยายน 2566 ร้อยละ 25.85

• รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 19,945 คัน
• รถจักรยานยนต์สาธารณะจำนวน 109 คัน

รถโดยสารมีทั้งสิ้น 281 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - กันยายน 2566 ร้อยละ 75.46

รถบรรทุกมีทั้งสิ้น 360 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - กันยายน 2566 ร้อยละ 490.16

ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 30 กันยายน 2567

ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV มีจำนวนทั้งสิ้น 206,631 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 107.1 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้

รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 143,710 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 124.99

• รถยนต์นั่งมีจำนวน 141,039 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 122.63
• รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนมีจำนวน 2,146 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 504.57
• รถยนต์บริการธุรกิจมีจำนวน 76 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 216.67
• รถยนต์บริการทัศนาจรมีจำนวน 136 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 280
• รถยนต์บริการให้เช่ามีจำนวน 3 คัน ซึ่งในช่วงเดียวกันไม่มีการจดทะเบียน
• รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มีจำนวน 310 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 184.40

 
รถกระบะและรถแวนมีจำนวน 784 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 328.42

รถยนต์ 3 ล้อมีจำนวนทั้งสิ้น 1,023 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 37.87

• รถยนต์สามล้อส่วนบุคคลมีจำนวน 118 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 51.28
• รถยนต์รับจ้างสามล้อมีจำนวน 905 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 36.30

รถจักรยานยนต์มีจำนวนทั้งสิ้น 57,752 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 78.74

• รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมีจำนวน 57,625 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 79.04
• รถจักรยานยนต์สาธารณะมีจำนวน 127 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 2.42

อื่นๆ

• รถโดยสารมีจำนวนทั้งสิ้น 2,698 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 14.47
• รถบรรทุกมีจำนวนทั้งสิ้น 664 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 145.02

อ่านข้อมูลฉบับเต็มคลิก : https://www.fti.or.th/News/details?id=411

ที่มา : สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)