Last updated: 4 ต.ค. 2567 | 257 จำนวนผู้เข้าชม |
(ครูว์ 1 ตุลาคม 2567) เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เปิดตัว New Continental GT, New Continental GTC, และ New Flying Spur รุ่นย่อย Mulliner ซูเปอร์คาร์เรือธงที่หรูหราและทรงสมรรถนะที่สุดของแบรนด์กับขุมพลังแบบ Ultra Performance Hybrid ซึ่งเป็นการต่อยอดจากรุ่น Speed ที่เน้นสมรรถนะด้วยการเพิ่มตัวเลือกและรายละเอียดของความหรูหรา รุ่น Mulliner นำเสนอความแตกต่างด้านรูปลักษณ์ที่โดดเด่นด้านงานฝีมือสั่งทำพิเศษ คุณสมบัติด้าน Wellness ที่เพิ่มขึ้น และเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนา ยนตรกรรม รุ่น Mulliner ถือเป็นรุ่นเรือธงในบรรดายนตรกรรมทุกรุ่นของเบนท์ลีย์ในปัจจุบัน
บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด มอบข้อเสนอดีที่สุดสำหรับการสั่งจองรถยนต์เบนท์ลีย์รุ่น New Flying Spur Mulliner ราคาเริ่มต้นที่ 27.6 ล้านบาท New Continental GT Mulliner ราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาท และ New Continental GTC Mulliner ราคาเริ่มต้น 32.8 ล้านบาท พร้อมรับเอกสิทธิ์การบริการหลังการขายมาตรฐานโรงงานผู้ผลิตด้วยการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) การรับประกันโดยโรงงานผู้ผลิตและบริการผู้ช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง (24-hour Bentley Roadside Assistance) 3 ปีเต็ม พร้อมรับสิทธิ์การต่อการรับประกันโดยโรงงานผู้ผลิต (Bentley Extended Warranty) สูงสุด 4 ปี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด โทร. 080-925-9999
ยนตรกรรม รุ่น Mulliner มีรูปลักษณ์หรูหราด้วยกระจังหน้าแบบ ‘Floating Diamond’ ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Mulliner มาพร้อมขอบโครเมียมและแถบโครเมียมตรงกลาง กระจังหน้าแบบโครเมียมส่วนล่าง แถบโครเมียมด้านข้างของตัวถัง ท่อไอเสียโครเมียม และการตกแต่งแบบโครเมียมที่เสริมด้วยฝาครอบกระจกมองข้างในเฉดสีเงินแบบซาติน พร้อมด้วยตัวเลือกเฉดสีดำ-เงาในแบบ Mulliner Blackline Specification ล้ออัลลอยด์ขนาด 22 นิ้วออกแบบด้วยสองเฉดสี ได้แก่ เฉดสีเทา Tungsten หรือสีดำ-เงา ทั้งสองเฉดสีมากับพื้นผิวที่มัน-เงา และการตกแต่งด้วยดุมล้อโลโก้เบนท์ลีย์แบบ Mulliner
รุ่น Continental GT Mulliner และ GTC Mulliner เจเนอเรชันที่ 4 โดดเด่นด้วยไฟหน้าเดี่ยวคู่พร้อมรีเฟลกเตอร์ ‘Cut Crystal’ แบบใหม่ที่ประณีตและโดดเด่น พร้อมด้วยโลโก้ Mulliner ตกแต่งบริเวณด้านข้างตัวถังส่วนหน้า ในส่วนของรุ่น Flying Spur Mulliner งดงามด้วย Flying B รังสรรค์ขึ้นด้วยโครเมียมหรือตัวเลือกเฉดสีดำ รวมถึงการตกแต่งด้วยโลโก้ Mulliner แบบใหม่บริเวณช่องระบายอากาศข้างตัวถัง พร้อมด้วยรายละเอียดลวดลายแบบเพชร 2 ชั้นที่สวยงาม
ไฟต้อนรับ Welcome Light และไฟ Coming Home มาพร้อมกับแอนิเมชันของโลโก้ Bentley Wings ซึ่งเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นของรุ่น Mulliner เช่นเดียวกับไฟท้ายสีแดงที่จะแตกต่างจากในรุ่น Speed
กาบบันไดเป็นแบบเรืองแสงและพรมปูพื้นแบบหนานุ่มจาก Mulliner ถูกนำมาตกแต่งภายในห้องโดยสารที่ล้ำสมัยพร้อมกับการนำเสนอการผสมผสาน 3 เฉดสีที่สั่งทำพิเศษจาก Mulliner เด่นด้วยการเดินด้ายสีตัดกันและงานปัก Mulliner ที่เป็นเอกลักษณ์บนเบาะโดยสารที่เย็บด้วยมือและลวดลายรูพรุนรูปเพชรในแบบ Mulliner ที่ออกแบบใหม่ สำหรับ Continental GTC Mulliner ลวดลายการเย็บใหม่มีการนำมาใช้กับหลังคาผ้าใบ สามารถมองเห็นได้ในขณะที่หลังคาผ้าใบถูกพับลง
คุณสมบัติใหม่ในรุ่น Mulliner นั้น รวมถึงเบาะโดยสารแบบ Wellness ที่สามารถปรับท่าทางการนั่งและปรับอุณหภูมิแบบอัตโนมัติสำหรับเบาะโดยสารส่วนหน้าในรุ่น Continental GT/C และส่วนหลังในรุ่น Flying Spur ซึ่งจะช่วยลดความเมื่อยล้าและมอบความผ่อนคลายในขณะเดินทาง
แนวคิดการออกแบบ Mulliner ยังคงใช้แผงหน้าปัดผู้ขับขี่แบบ LED พร้อมกราฟิกแบบพิเศษเฉพาะรุ่น พร้อมด้วยจอแสดงผลแบบหมุนได้ Bentley Rotating Display แป้นเหยียบคันเร่งสไตล์สปอร์ต พวงมาลัยสามก้านดูโอโทนแบบปรับอุณหภูมิ และซันรูฟแบบพาโนรามิกในรุ่น Flying Spur และ Continental GT ทั้งหมดจะมอบสัมผัสแห่งความหรูหราภายในห้องโดยสาร
รุ่น Mulliner มาพร้อมกุญแจหนังในกล่องบรรจุแบบทำมือที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของ Mulliner เข้ากับห้องโดยสารที่รังสรรค์ขึ้นด้วย 3 เฉดสี โดยกุญแจทั้งสองดอกบรรจุในกล่องสีเดียวกันที่ตกแต่งด้วยรูปแบบการเย็บแบบคอนทราสต์
สำหรับคุณสมบัติอื่นๆ ในรุ่น Mulliner ประกอบด้วย Touring Specification, Colour Specification, ไฟต้อนรับแบบแอนิเมชัน, ระบบไฟสร้างบรรยากาศ, การตกแต่งด้วยวีเนียร์แบบ Grand Black และโลโก้ Mulliner ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกใช้วีเนียร์แบบอื่นๆ แทน Grand Black ได้
ความงดงามและความหรูหรารังสรรค์ขึ้นด้วยงานฝีมือ
การตกแต่งห้องโดยสารในรุ่น Mulliner ใหม่ ถือเป็นผลงานระดับปรมาจารย์ด้านงานฝีมือที่แสดงให้เห็นถึงความพิถีพิถันเอาใจใส่ในทุกรายละเอียด โดยเฉดสีของหนังที่ออกแบบโดย Mulliner มาพร้อมกับตัวเลือกที่หลากหลายด้วยการเน้นการเพิ่มเฉดสีที่สามในรูปแบบของการเน้นเส้นสายการออกแบบที่โดดเด่น
ในรุ่น Mulliner ใหม่มีการติดตั้ง Comfort Seat Specification สำหรับเบาะโดยสารทั้ง 4 ที่นั่งของ Flying Spur Mulliner และสำหรับเบาะโดยสารส่วนหน้า 2 ที่นั่งในรุ่น Continental GT/C Mulliner โดยมีฟังก์ชัน Wellness อาทิ คุณสมบัติการปรับท่านั่งแบบอัตโนมัติ และคุณสมบัติการปรับอุณหภูมิของเบาะโดยสารช่วยลดความเมื่อยล้าและให้ความรู้สึกผ่อนคลายในระหว่างการเดินทาง
นอกจากนี้ ระบบปรับอากาศยังได้รับการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศไอออนไนเซอร์ ตัวกรองอนุภาคใหม่ และจอแสดงผลคุณภาพอากาศภายนอกและภายในห้องโดยสาร ระบบนี้จะเชื่อมกับระบบนำทางด้วยดาวเทียมของรถยนต์เพื่อให้สามารถปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในห้องโดยสารได้อย่างเหมาะสมอย่างการหมุนเวียนอากาศในห้องโดยสารเมื่ออยู่ในอุโมงค์
พละกำลังและความละเอียดอ่อน
Continental GT Mulliner, Continental GT Convertible Mulliner, และ Flying Spur Mulliner ใหม่มาพร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์แบบ Ultra Performance Hybrid ใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ตัวเดียวกันกับรุ่น Speed เครื่องยนต์รุ่นใหม่นี้ผสมผสานเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.0 ลิตรใหม่ที่สามารถผลิตพละกำลังได้กว่า 600 แรงม้า เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้า 190 แรงม้า มอบพละกำลังสูงสุด 782 แรงม้าด้วยแรงบิด 1,000 นิวตันเมตร (738 ปอนด์-ฟุต)
เครื่องยนต์รุ่นใหม่นี้จึงมอบประสิทธิภาพสูงสุดและทำให้ยนตรกรรมรุ่นล่าสุดนี้โดดเด่นเหนือกว่าคู่แข่งด้วยแรงม้าที่มากขึ้นจากแรงบิดมหาศาล พร้อมด้วยอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และอัตราการบริโภคเชื้อเพลิงที่ต่ำลงอย่างมากเพียงหนึ่งในสิบเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์เบนซินแบบเดิม ในทางกลับกัน เครื่องยนต์รุ่นใหม่ยังมอบประสิทธิภาพในการขับขี่ที่เหนือชั้น ตั้งแต่สมรรถนะระดับซูเปอร์คาร์ไปจนถึงความหรูหราจากการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าที่เงียบสงบ
Flying Spur Mulliner และ Continental GT/C Mulliner สามารถขับขี่ได้อย่างเงียบสงบในโหมด EV เป็นระยะทางสูงสุดกว่า 81 กิโลเมตร ในรุ่น Continental GT/C และ 76 กิโลเมตร ในรุ่น Flying Spur เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการขับขี่ในเขตปลอดมลพิษหรือการเดินทางในเมือง สำหรับโหมดไฟฟ้าแบบเต็มรูปแบบสามารถทำความเร็วสูงสุด 140 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมงด้วยการใช้งานคันเร่ง 75%
แบตเตอรี่ชาร์จเต็มได้ภายในเวลาเพียง 2¾ ชั่วโมง ด้วยการพัฒนาเครื่องชาร์จและความจุแบตเตอรี่ด้วยกำลังชาร์จสูงสุด 11 กิโลวัตต์ หากต้องการการขับขี่ที่เร้าใจยิ่งขึ้น การทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์รุ่น V8 และมอเตอร์ไฟฟ้า 782 แรงม้า จะส่งมอบประสิทธิภาพในการขับขี่ที่เร้าใจ พร้อมด้วยระบบแดมเปอร์วาล์วคู่ใหม่และสปริงอากาศแบบห้องคู่ที่จะช่วยเสริมกำลังให้กับเครื่องยนต์แบบ Ultra Performance Hybrid ใหม่ ผลลัพธ์ที่ได้จึงเป็นการผสมผสานประสิทธิภาพในการขับขี่ การควบคุม และความนุ่มสบายที่ลงตัว
ความหลากหลายของเฉดสี
รุ่น Mulliner สามารถเลือกเฉดสีได้กว่า 101 สี พร้อมด้วยเฉดสีอื่นๆ สามารถรังสรรค์เฉดสีพิเศษให้เข้ากับตัวรถ สำหรับภายในห้องโดยสาร ลูกค้าสามารถเลือกเฉดสีหลักสำหรับหนังจาก 15 เฉดสี เฉดสีรอง 11 เฉดสี และเฉดสีเน้น 6 สีจากตัวเลือกเฉดสีที่หลากหลาย ทั้งยังสามารถเลือกเฉดสีหนังที่สั่งทำพิเศษ ให้เข้ากับวีเนียร์ทั้ง 8 แบบ และแบบเคลือบเทคนิคอีก 3 แบบที่สามารถใช้เป็นแบบเคลือบชั้นเดียวหรือแบบเคลือบสองชั้น และสามารถสั่งทำสีให้เข้ากับเฉดสีหนังภายในหรือเฉดสีตัวถังภายนอกได้อีกด้วย
การบูรณาการเทคโนโลยีแบบไร้รอยต่อ
ยนตรกรรมจาก Mulliner มาพร้อมกับระบบไฟฟ้าแบบล่าสุดที่เป็นก้าวสำคัญด้านเทคโนโลยีความบันเทิงภายในห้องโดยสารและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ถือเป็นเทคโนโลยีล้ำหน้าที่สุดในกลุ่มยนตรกรรมหรูที่ประกอบไปด้วยจอแสดงผลสภาพแวดล้อมที่แสดงบนแผงหน้าปัดของผู้ขับขี่ที่รองรับและเปิดใช้งานโหมดกึ่งช่วยเหลือ
Bentley Mulliner
Mulliner ถือเป็นต้นกำเนิดการออกแบบตัวถังรถยนต์และผู้ผลิตตัวถังรถยนต์ที่เก่าแก่ที่สุดของโลก มีชื่อเสียงมาจากการเป็นผู้ผลิตรถยนต์เบนท์ลีย์รุ่นพิเศษให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สามารถตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าที่ต้องการคุณสมบัติพิเศษเฉพาะสำหรับรถยนต์เบนท์ลีย์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ นอกเหนือจากการออกแบบเฉพาะตัวแล้ว Mulliner ยังดูแลในส่วนของการผลิตตัวถังรถยนต์คลาสสิกขึ้นมาใหม่อย่าง Blower Continuation Series และ Speed Six Continuation Series ที่มีชื่อเสียงที่สุดในช่วงทศวรรษ 1920 รวมถึงการผลิตรถยนต์รุ่นพิเศษอย่าง Bacalar, Batur และ Batur Convertible
ผู้สนใจครอบครองรถยนต์เบนท์ลีย์สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด โทร. 080-925-9999 หรือ 02-261-1050 LINE Official Account: @bentleybangkokaas คลิก https://lin.ee/4JOaZyE8V