Last updated: 19 ส.ค. 2567 | 312 จำนวนผู้เข้าชม |
ไทยร่วมผลักดันความสำเร็จของการประชุมรัฐมนตรีพลังงานเอเปคครั้งที่ 14 ผลักดันเป้าหมายการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานไปสู่พลังงานสะอาด พร้อมย้ำความสำคัญความร่วมมือในการพัฒนาไฮโดรเจนคาร์บอนต่ำในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
นายเพทาย หมุดธรรม หัวหน้าผู้ตรวจราชการทำหน้าที่หัวหน้าคณะผู้แทนกระทรวงพลังงาน เดินทางเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีพลังงานเอเปค ครั้งที่ 14 (APEC Energy Ministerial Meeting: APEC EMM 14) ระหว่างวันที่ 15 - 16 สิงหาคม 2567 ณ เมืองลิมา สาธารณรัฐเปรู โดยเจ้าภาพได้กำหนดแนวคิดหลักของการประชุมครั้งนี้ คือ การร่วมเสริมสร้างการเติบโตอย่างครอบคลุม (Empower. Include. Grow.) ในภูมิภาคเอเปค ทั้งนี้การประชุม ได้มีการติดตามความก้าวหน้าของการผลักดันกิจกรรมความร่วมมือด้านพลังงานที่ได้ดำเนินการภายใต้กรอบคณะทำงานด้านพลังงานเอเปค (APEC Energy Working Group) เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายการเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาดเป็นสองเท่าภายในปี ภายในปี ค.ศ. 2030 จากปีฐานปี ค.ศ. 2010 และเป้าหมายการลดความเข้มข้นของการใช้พลังงานร้อยละ 45 ภายในปี ค.ศ. 2035 จากปีฐานปี ค.ศ. 2005 โดยเอเปคมีแนวโน้มที่จะบรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายดังกล่าว
ที่ประชุมให้ความสำคัญกับการผลักดันความร่วมมือในการสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน การขยายการเข้าถึงพลังงาน และการส่งเสริมความสามารถในการฟื้นตัวของภาคพลังงานจากภัยพิบัติต่าง ๆ ในช่วงปีที่ผ่านมา คณะทำงานด้านพลังงานเอเปคได้ผลักดันโครงการ/กิจกรรมความร่วมมือในการถ่ายทอดองค์ความรู้ พัฒนาเทคโนโลยีและศักยภาพบุคลากรเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนเป้าหมายกรุงเทพว่าด้วยเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bangkok Goals on Bio-Circular-Green Economy Model) ซึ่งจะช่วยส่งเสริมแนวทางในการใช้ประโยชน์จากลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากพลังงานโดยการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรด้านพลังงานในท้องถิ่น รวมถึงเป็นการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาดที่มีความยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมรัฐมนตรีพลังงานเอเปคได้เน้นย้ำความสำคัญของการส่งเสริมความร่วมมืออย่างจริงจังของ 21 เขตเศรษฐกิจเอเปคซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีสัดส่วนการผลิตและความต้องการใช้พลังงานมากกว่าครึ่งหนึ่งของโลก ในการขยายการเข้าถึงพลังงาน การสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน และการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาด โดยผลักดันการตั้งเป้าหมายด้านพลังงานสะอาดที่มีความท้าทายยิ่งขึ้นในอนาคต อาทิ เป้าหมายด้านไฟฟ้าสะอาด รวมถึงการส่งเสริมการค้าการลงทุนด้านพลังงานในภูมิภาค การส่งเสริมการพัฒนาห่วงโซ่อุปทานและตลาดพลังงานให้มีความมั่นคงและหลากหลายเพื่อรองรับเชื้อเพลิงสะอาดใหม่ ๆ ที่จะมีบทบาทมากขึ้นในอนาคต เช่น เชื้อเพลิงไฮโดรเจน แอมโมเนีย เชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน และเชื้อเพลิงสังเคราะห์ เป็นต้น
ในโอกาสนี้ ไทยได้นำเสนอวิสัยทัศน์การผลักดันการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาดควบคู่ไปกับการสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน โดยการปรับปรุงการเข้าถึงพลังงานในพื้นที่ห่างไกลอย่างครอบคลุมและเท่าเทียม การส่งเสริมเทคโนโลยีพลังงานสะอาดเพื่อพัฒนาเมืองคาร์บอนต่ำ การเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนในการผลิตไฟฟ้าใหม่ให้ได้ร้อยละ 50 ภายในปี ค.ศ. 2037 และการผลิตไฟฟ้าสีเขียวเพื่อดึงดูดนักลงทุนและสร้างความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ ตลอดจนการสนับสนุนการใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจนในการผลิตไฟฟ้า เป็นต้น
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีการรับรอง “แถลงการณ์ลิมา : การประชุมรัฐมนตรีพลังงานเอเปคประจำปี ค.ศ. 2024 (Lima Statement 2024 APEC Energy Ministerial Meeting และรับรอง “แนวนโยบายเอเปคเพื่อพัฒนาและปรับใช้กรอบนโยบายด้านไฮโดรเจนคาร์บอนต่ำในภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก” (APEC Policy Guidance to Develop and Implement Low Carbon Hydrogen Policy Frameworks in the Asia-Pacific) เพื่อแสดงความมุ่งมั่นของภูมิภาคเอเปคในการผลักดันความพยายามในการบรรลุเป้าหมายการเปลี่ยนผ่านพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมร่วมกันต่อไป