X

โก อินเตอร์! ปตท. ส่ง GPSC จับมือ Keppel พัฒนาแพลตฟอร์มชาร์จรถยนต์ EV ไทย+สิงคโปร์

Last updated: 15 ส.ค. 2567  |  532 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ปตท. ส่ง GPSC จับมือ Keppel พัฒนาแพลตฟอร์มชาร์จรถยนต์ EV

ปตท. สยายปีกขยายเครือข่าย EV ข้ามประเทศ ส่ง GPSC จับมือ Keppel บ.ชั้นนำจากสิงคโปร์ พัฒนาแพลตฟอร์มชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าระหว่างไทย-สิงคโปร์

เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2567 นายวรวัฒน์ พิทยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท. ได้ลงนามสัญญาความร่วมมือทางธุรกิจ (Business Collaboration Agreement) และสัญญาร่วมทุน (Joint Venture Agreement) กับ Keppel เพื่อพัฒนาธุรกิจการให้บริการด้านพลังงาน Energy-as-a-Service แบบครบวงจรผ่านความร่วมมือจากทั้งสองฝ่าย



การลงนามความร่วมมือทางธุรกิจใน (Business Collaboration Agreement) กับ Keppel Ltd, Infrastructure division มีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมหาโอกาสพัฒนาธุรกิจใน 3 ด้าน ประกอบด้วย

1. ธุรกิจ Cooling as a Service (CaaS) ทั้งในประเทศไทยและอินเดีย

2. การพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

3. การพัฒนาบูรณาการในรูปแบบแพลตฟอร์มชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าระหว่างประเทศไทยและสิงคโปร์

โดยนำจุดแข็งและความเชี่ยวชาญของทั้งสองฝ่ายสนับสนุนการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง

ในส่วนของการลงนามในสัญญาร่วมทุน (Joint Venture Agreement) จะเป็นการต่อยอดจาก Business Collaboration Agreement โดย บริษัท ผลิตไฟฟ้าและพลังงานร่วม จำกัด (CHPP) และ Keppel EaaS (Thailand) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของทั้งสองฝ่าย จะร่วมกันดำเนินธุรกิจภายใต้การจัดตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่ โดย CHPP ถือหุ้นในสัดส่วน 51% และ Keppel EaaS (Thailand) ถือหุ้นในสัดส่วน 49% เพื่อพัฒนาและขยายธุรกิจให้บริการโซลูชั่นในรูปแบบ Cooling as a Service (CaaS) โดยมีนวัตกรรมที่มีการจัดการพลังงานแบบใหม่ ซึ่งครอบคลุมทั้งในธุรกิจผลิตน้ำเย็นแบบรวมศูนย์ (District Cooling) และแบบไม่รวมศูนย์ (Retail Cooling) ภายในประเทศไทย

Ms. Cindy Lim ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Keppel Ltd, Infrastructure division กล่าวว่ารู้สึกยินดีที่ได้ร่วมมือทางธุรกิจกับ GPSC โดยจะนำความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการผลิตน้ำเย็น และการให้บริการโซลูชั่นพลังงานด้านต่างๆ ร่วมกับ GPSC พัฒนานวัตกรรมการจัดการพลังงานแบบใหม่อย่างยั่งยืนผ่านความร่วมมือทางธุรกิจ (Business Collaboration Agreement) และการร่วมทุนในการพัฒนาธุรกิจผลิตน้ำเย็นในรูปแบบ Cooling as a Service (CaaS) ให้กับประเทศไทย รวมถึงการต่อยอดธุรกิจอื่นๆ ภายใต้ Business Collaboration Agreement อาทิเช่น การพัฒนาพลังงานหมุนเวียนภายใต้โครงข่ายไฟฟ้าอาเซียน และพัฒนาบูรณาการในรูปแบบแพลตฟอร์มชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าระหว่างประเทศ เป็นต้น

เครือข่ายธุรกิจของ ปตท. ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้า

ปตท. ได้ขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีการลงทุนในหลากหลายบริษัทและโครงการที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ไปจนถึงโรงงานผลิตแบตเตอรี่ เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต

สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับการลงทุนของ ปตท. ในธุรกิจ EV :

ครอบคลุมทุกมิติ : ปตท. ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงแค่การเป็นผู้ให้บริการสถานีชาร์จ แต่ยังเข้าไปลงทุนในทุกขั้นตอนของห่วงโซ่คุณค่าของรถยนต์ไฟฟ้า ตั้งแต่การผลิตแบตเตอรี่ ไปจนถึงการให้บริการด้านดิจิทัล

พันธมิตรที่แข็งแกร่ง : ปตท. ร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ

เป้าหมายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน : การลงทุนในธุรกิจ EV สอดคล้องกับเป้าหมายของ ปตท. ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน

โครงสร้างธุรกิจของ ปตท. มีความซับซ้อนและมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับบริษัทและโครงการสำคัญๆ ของ ปตท. ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้าได้ดังนี้

เครือข่ายธุรกิจของ ปตท. ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้า :

ปตท. ได้เข้าสู่ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัว โดยมีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำด้านพลังงานแห่งอนาคตในประเทศไทย เครือข่ายธุรกิจของ ปตท. ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้านั้นครอบคลุมหลากหลายบริษัท โดยแต่ละบริษัทมีหน้าที่และความรับผิดชอบที่แตกต่างกันไป เพื่อให้การดำเนินงานด้านรถยนต์ไฟฟ้าเป็นไปอย่างครบวงจร

  • Arun Plus : เป็นบริษัทย่อยของ ปตท. ที่มีบทบาทหลักในการพัฒนาและดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า เช่น การลงทุนในโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าร่วมกับ Foxconn , การให้บริการสถานีชาร์จ EV Station PluZ และการพัฒนาแพลตฟอร์มด้านยานยนต์ไฟฟ้าอื่นๆ
  • EVme Plus : เป็นบริษัทในกลุ่ม ปตท. ที่มุ่งเน้นการให้บริการด้านดิจิทัลแพลตฟอร์มสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า เช่น การให้เช่ายานยนต์ไฟฟ้า , การจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้า การจำหน่ายและให้บริการรถแท็กซี่ไฟฟ้า และการให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับสถานีอัดประจุไฟฟ้า
  • PTT Oil and Retail Business (OR) : เป็นผู้ดำเนินธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน PTT Station และมีบทบาทสำคัญในการขยายเครือข่ายสถานีชาร์จ EV Station PluZ ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ

Arun Plus : บริษัทนี้เป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าของ ปตท. โดยมีการลงทุนในโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าร่วมกับ Foxconn ซึ่งคาดว่าจะเริ่มผลิตและส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกในปี 2024 นอกจากนี้ Arun Plus ยังมีบทบาทในการพัฒนาแพลตฟอร์มด้านยานยนต์ไฟฟ้าอื่นๆ เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดในอนาคต

EVme Plus : บริษัทนี้มุ่งเน้นการให้บริการด้านดิจิทัลแพลตฟอร์มเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า เช่น การให้เช่ายานยนต์ไฟฟ้าแบบรายวันหรือรายเดือน , การจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า รถแท็กซี่ไฟฟ้า และการให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับสถานีอัดประจุไฟฟ้าผ่านแอปพลิเคชัน EVme

PTT Oil and Retail Business (OR) : ในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน PTT Station OR มีบทบาทสำคัญในการขยายเครือข่ายสถานีชาร์จ EV Station PluZ ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าในการเข้าถึงสถานีชาร์จได้อย่างง่ายดายกว่า 1,000 จุด

 
นอกจากนี้ ปตท. ยังมีบริษัท โกซัน ไฮเทค บริษัทที่ทำวิจัยและพัฒนาแบตเตอรี่ ตลอดจนบริษัทที่ให้บริการด้านพลังงานแสงอาทิตย์ หรือโซลาร์เซลล์ เป็นต้น

 
ปริมาณการลงทุนของ ปตท. ในธุรกิจ EV นั้นมีมูลค่าสูงมากและยังคงมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนเงินลงทุนในแต่ละบริษัทนั้นอาจไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ อย่างไรก็ตาม การลงทุนในโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าร่วมกับ Foxconn คาดว่าจะเป็นการลงทุนที่สูงมาก

ความร่วมมือกับพันธมิตร : ปตท. มักจะร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศในการดำเนินธุรกิจ EV เพื่อนำความรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้

การเปลี่ยนแปลง : ธุรกิจ EV เป็นธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โครงสร้างธุรกิจและรายละเอียดต่างๆ ของ ปตท. อาจมีการปรับเปลี่ยนอยู่เสมอ

 
ปตท. กำลังเดินหน้าลงทุนในธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจัง โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างระบบนิเวศสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ครบวงจรในประเทศไทย การมีเครือข่ายบริษัทที่หลากหลาย ทำให้ ปตท. สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างครอบคลุม ตั้งแต่การผลิตและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า ไปจนถึงการให้บริการสถานีชาร์จและแพลตฟอร์มด้านดิจิทัล

การพัฒนาบูรณาการในรูปแบบแพลตฟอร์มชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าระหว่างประเทศไทยและสิงคโปร์ร่วมกับ Keppel บ.ชั้นนำจากสิงคโปร์ เป็นอีกก้าวสำคัญที่ ปตท. จะขยายเครือข่ายการให้บริการแพลตฟอร์มการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าสู่ระดับอินเตอร์

ที่มา : GPSC

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้