ฮอนด้า เปิดจอง ซีวิค ใหม่ ขุมพลังไฮบริด e:HEV ราคาประมาณการ 1,09X,XXX - 1,23X,XXX บาท ตั้งแต่ 1 ส.ค. 2567 – 22 ส.ค. 2567 เปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ 23 ส.ค. 2567
ฮอนด้าตอกย้ำความเชื่อมั่นแก่ลูกค้า ยืนยันดำเนินธุรกิจและลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อเปลี่ยนผ่านสู่ xEV ด้วยการเปิดจองสิทธิ์เพื่อเป็นเจ้าของ ซีวิค ใหม่ ขุมพลังฟูลไฮบริด e:HEV ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ผสานกำลังกับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ให้แรงบิดมอเตอร์สูงสุด 315 นิวตัน-เมตร อัตราการประหยัดน้ำมัน 25 กิโลเมตร/ลิตร เติมน้ำมัน 1 ถัง วิ่งไกล 800 กิโลเมตร
- เปิดลงทะเบียนจองสิทธิ์เพื่อเป็นเจ้าของ ซีวิค ใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 – 22 สิงหาคม 2567 ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ พร้อมรับฟรี บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 5,000 บาท เมื่อจองและรับรถ ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2567 – 31 ตุลาคม 2567
- อัปดีไซน์สปอร์ต โฉบเฉี่ยว และทันสมัย ด้วยกระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ เพิ่มความสปอร์ตยิ่งขึ้น ไฟท้าย LED รมดำ ภายในห้องโดยสาร กว้างขวางและสะดวกสบายลงตัวกับทุกการใช้งาน
- 2 ขุมพลังขับเคลื่อน ที่มอบสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังและอัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม ทั้งระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV และขุมพลัง VTEC TURBO 1.5 ลิตร มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำความเชื่อมั่นของลูกค้า ยืนยันการดำเนินธุรกิจและลงทุนผลิตภัณฑ์ใหม่ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อเปลี่ยนผ่านสู่ xEV อย่างมั่นคง ล่าสุด ประกาศให้ลูกค้าที่สนใจลงทะเบียนจองสิทธิ์เพื่อเป็นเจ้าของ ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ ภายใต้เจเนอเรชันที่ 11 ที่มีการปรับโฉมใหม่
ฮอนด้า ซีวิค เป็นรถยนต์ที่ได้รับความนิยมและครองใจลูกค้าชาวไทยมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เจเนอเรชันแรกจนถึงเจเนอเรชันที่ 11 โดยสามารถครองอันดับ 1 ด้านยอดขายกลุ่มคอมแพคท์คาร์ในไทย 8 ปีซ้อน ตั้งแต่ ปี 2559 -ปัจจุบัน
ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่- รุ่น e:HEV RS ราคาประมาณการ 1,23X,XXX บาท***
- รุ่น e:HEV EL+ ราคาประมาณการ 1,09X,XXX บาท***
- รุ่น EL+ ราคาประมาณการ 1,03X,XXX บาท
(ราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ จะประกาศในวันที่ 23 สิงหาคม 2567)
อัปลุคดีไซน์ความสปอร์ตพรีเมียมยิ่งขึ้น - กระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว
- ไฟท้าย LED รมดำ เสริมความมีเอกลักษณ์ในตัว
- รุ่น e:HEV RS มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว Matte Black ดีไซน์ใหม่ สไตล์สปอร์ต
- รุ่น EL+ เพิ่มขนาดล้ออัลลอยเป็น 17 นิ้ว
- รุ่น EL+ และ e:HEV EL+ กับสีใหม่! สีน้ำเงินแคนยอนริเวอร์ (เมทัลลิก)
ให้ความรู้สึกสปอร์ต และทันสมัย มาพร้อมเทคโนโลยีที่มอบความสะดวกสบายเหนือระดับ
- รุ่น e:HEV RS มาพร้อมเบาะที่นั่งลายใหม่ Prime smooth ด้วยวัสดุเบาะหนังกลับและหนังสังเคราะห์สีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง ตกแต่งแผงคอนโซลหน้าและแผงประตูด้านข้างสีแดงสไตล์สปอร์ต
- รุ่น EL+ และ e:HEV EL+ มาพร้อมวัสดุเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์สีดำ
- ช่องปรับอากาศผู้โดยสารตอนหลัง ในทุกรุ่นย่อย
- เบาะที่นั่งด้านหลัง แยกพับแบบ 60:40 ในทุกรุ่นย่อย
เทคโนโลยีเพื่อการขับขี่ และเทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัย- เซนเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด (รุ่น e:HEV EL+ และ e:HEV RS)
- โหมดการขับขี่แบบ Individual (Individual Mode) ที่เพิ่มเติมมาในรุ่น e:HEV เพื่อมอบการขับขี่ที่โดนใจ
ยกระดับความสบายและสุนทรียภาพในทุกการเดินทาง พร้อมเชื่อมต่อผู้ขับขี่และรถให้เป็นหนึ่งเดียว ด้วยฟังก์ชันและเทคโนโลยีอันล้ำสมัย
- ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง (เฉพาะรุ่น e:HEV RS)
- Google built-in แอปและบริการของ Google ที่ติดตั้งมาในตัว ในทุกรุ่นย่อย
- ช่องเชื่อมต่อ USB type C 4 ช่อง โดยแบ่งเป็น 2 ช่องด้านหน้า และ 2 ช่องด้านหลังในทุกรุ่นย่อย
- ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto(TM) แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto ในทุกรุ่นย่อย
- ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) เทคโนโลยีเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ในทุกรุ่นย่อย
มาพร้อม 2 ทางเลือกของขุมพลังการขับเคลื่อน ทั้งระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่มอบสมรรถนะอันทรงพลังผ่านการทำงานร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ผสานกำลังกับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 315 นิวตัน-เมตร ให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 25 กิโลเมตร/ลิตร มอบความแรงเกินคาด ไปได้ไกลกว่า 800 กิโลเมตร ด้วยน้ำมัน 1 ถัง****
และขุมพลังเทอร์โบ 1.5 ลิตร ขับสนุก แรงเร้าใจ สไตล์สปอร์ต ด้วยกำลังสูงสุด 178 แรงม้า ตอบสนองได้อย่างทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700 – 4,500 รอบต่อนาที และอัตราการประหยัดน้ำมัน 17.2 กิโลเมตร/ลิตร มั่นใจด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ที่พัฒนาประสิทธิภาพการทำงาน ในทุกรุ่นย่อย
สีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีใหม่ สีน้ำเงินแคนยอนริเวอร์ (เมทัลลิก) (เฉพาะรุ่น EL+ และ e:HEV EL+) สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS) สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) สีดำคริสตัล (มุก) และสีขาวแพลทินัม (มุก) พร้อมภายในสีดำและสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง (เฉพาะรุ่น e:HEV RS)
ประกาศราคาและเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม 2567 ผ่านทาง LIVE ถ่ายทอดสดออนไลน์ทางออฟฟิเชียลแอคเคานต์ “Honda Thailand” ในช่องทาง Facebook , YouTube Channel , TikTok และ Instagram ตั้งแต่เวลา 11:30 น. เป็นต้นไป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือแชทกับที่ปรึกษาการขายทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.honda.co.th หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร 0 2341 7777 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง
www.honda.co.th/civicที่มา : บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด