X

เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดตัวไมโครกริด บางซื่อคอมเพล็กซ์ ลานชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์

Last updated: 31 ก.ค. 2567  |  486 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดตัวโครงการไมโครกริด บางซื่อคอมเพล็กซ์ ลานชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์

เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดตัว “ไมโครกริด บางซื่อคอมเพล็กซ์” โครงการใช้พลังงานสะอาดและพลังงานทดแทนด้วยการติดตั้งลานชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ พร้อมเลือก “อีโวลท์”เป็นผู้ติดตั้งจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า มุ่งยกระดับการใช้พลังงานสะอาด มุ่งหน้าสู่สังคม Net Zero

เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล (SCG International) เปิดตัวโครงการนวัตกรรม “ไมโครกริด บางซื่อคอมเพล็กซ์” (Microgrid Bangsue Complex) นำทีมโดยผู้บริหารเอสซีจี นายวิโรจน์ รัตนชัยสิทธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจเอสซีจี สมาร์ทลีฟวิง และกรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี ดิสทริบิวชั่นแอนด์รีเทล และนายอบิจิต ดัตต้า กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ร่วมกับนายพูนพัฒน์ โลหารชุน ประธานบริษัทอีโวลท์ เทคโนโลยี (Evolt Technology) และนางสาวพิชชารีย์ กีรติธากุล นักพัฒนานวัตกรรมอาวุโส สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA)


“ไมโครกริด บางซื่อคอมเพล็กซ์” (Microgrid Bangsue Complex) เป็นโครงการมุ่งเน้นการใช้พลังงานสะอาดและพลังงานทดแทน ด้วยการติดตั้งลานชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Carpark) และระบบจัดการพลังงานภายในอาคาร (Energy Management Software) เพื่อบริหารจัดการระบบพลังงานไฟฟ้าที่เอสซีจี สำนักงานใหญ่บางซื่อ ให้เป็นระบบไมโครกริด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งจากการติดตั้งลานชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ด้วยขนาดกำลังการผลิต 735.9 kWp คาดว่าจะทำให้มีการใช้พลังงานทดแทนภายในเอสซีจี สำนักงานใหญ่บางซื่อ เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 18 จากปัจจุบันที่มีการใช้อยู่ที่ร้อยละ 10


ความน่าสนใจของโครงการไมโครกริด บางซื่อคอมเพล็กซ์ คือการได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) เนื่องจากสามารถเชื่อมโยงเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงานและการควบคุมขั้นสูงเข้าด้วยกัน ถือเป็นการนำระบบจัดการพลังงานภายในอาคารมาใช้ได้อย่างครบวงจร โดยเลือก บริษัท อีโวลท์ เทคโนโลยี จำกัด มาเป็นผู้ติดตั้งจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถดึงข้อมูลการใช้พลังงานภายในอาคารและการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ได้แบบเรียลไทม์ด้วยระบบ API (Application Program Interface) และมีคุณสมบัติจัดการพลังงานขั้นสูง เช่น การจัดการโหลดแบบไดนามิก การรวมพลังงานทดแทน ตอบสนองความต้องการในการทำงานร่วมกับระบบไมโครกริด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบโดยรวม



การเปิดตัวโครงการดังกล่าวนับเป็นก้าวสำคัญของเอสซีจี ที่จะสร้างโอกาสและเพิ่มศักยภาพในการนำพลังงานสะอาดเข้ามาใช้งานภายในองค์กรได้มากยิ่งขึ้น เป็นการเดินหน้ามุ่งสู่การสร้างสังคม Net Zero ตามเป้าหมายองค์กร นอกจากจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการพลังงาน และสร้างประโยชน์ต่อกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ของเอสซีจีแล้ว ยังสามารถต่อยอดขยายผลร่วมกับองค์กรอื่น ๆ ที่มุ่งหวังจะใช้พลังงานสะอาดขับเคลื่อนการทำธุรกิจสีเขียวเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

ที่มา: เอสซีจี

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้